March 14, 2017 13:18
ตอบโดย
ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)
เสียงกรนเป็นอาการที่บ่งบอกว่ากำลังมีการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้น ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่จมูก ช่องลำคอ โคนลิ้น หรือบางส่วนของกล่องเสียง ซึ่งเกิดการหย่อนตัวลง เกิดขึ้นในขณะนอนหลับจนทำให้เมื่อลมหายใจผ่านเนื้อเยื่อดังกล่าว เกิดการสั่นสะเทือนและมีเสียงดังขึ้น ซึ่งทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับในเด็ก(Pediatric Obstructive Sleep Apnea;OSA)อาจทำให้มีความผิดปรกติทางพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกายและสติปัญญา ทำให้เติบโตช้า มีพฤติกรรมก้าวร้าว ซุกซนมากผิดปกติ(Hyperactive)บางรายอาจปัสสาวะรดที่นอน และมีผลการเรียนแย่ลง หรือมีปัญหาสังคมตามมาได้ นอกจากนี้ถ้าเป็นรุนแรงมากอาจเป็นสาเหตุและความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจได้ด้วย
อาการ อาจจะพบว่านอนกรนดังเป็นประจำ หรือนอนกระสับกระส่าย หายใจลำบาก คัดจมูกเป็นประจำต้องอ้าปากหายใจบ่อย ๆ ปัสสาวะรดที่นอนเป็นประจำ หรือมีพฤติกรรมซุกซนก้าวร้าว ผลการเรียนแย่ลง เติบโตช้ากว่าวัย
สาเหตุที่พบบ่อยและสำคัญที่สุดในเด็กคือ การมีต่อมทอนซิล และหรือต่อมอะดีนอยด์โต ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของจมูก(มองไม่เห็นทางปาก)นอกจากนี้ภาวะจมูกอักเสบเรื้อรังจากภูมิแพ้ หรือภาวะอ้วนก็เป็นสาเหตุที่พบบ่อยเช่นกัน ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น โครงหน้าผิดปกติ เช่น หน้าแคบ คางสั้นหรือเล็ก ตลอดจนโรคทางพันธุกรรม หรือโรคทางสมองและกล้ามเนื้อที่มีผลต่อการหายใจ เป็นต้น
การรักษาควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ก่อนครับ เพราะต้องซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมถึงตรวจเพิ่มเติมเช่นเอกซเรย์บริเวณศีรษะด้านข้างเพื่อดูความกว้างของทางเดินหายใจ และหากทำได้ เด็กที่นอนกรนควรได้รับการตรวจการนอนหลับ(sleep test)เพื่อตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด ระบบหายใจ รวมถึงคุณภาพการนอนหลับ
แนวทางการรักษา
1.การดูแลปฏิบัติเบื้องต้น ได้แก่ การปรับสุขอนามัยการนอน เช่น ใช้เวลานอนพักผ่อนให้พอเพียง การเข้านอนและตื่นนอนอย่างตรงเวลาสม่ำเสมอ ที่สำคัญในรายที่อ้วนหรือน้ำหนักเกิน ต้องลดน้ำหนัก
2.การรักษาด้วยยา เช่น การให้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก หรือยารักษาอาการจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
3.การรักษาด้วยการผ่าตัด คือการผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์(Adenotonsillectomy)
4.การรักษาอื่น ๆ เช่น การรักษาโรคร่วม การใช้เครื่อง CPAP ตลอดจนการจัดฟัน ซึ่งอาจเป็นทางเลือกกรณีรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล ซึ่งต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ลูกชายอายุประมาน 3 ขวบครึ่ง แกเวลานอนเหมือนมีสเลทอยู่ในลำคอ เหมือนเสียงกรน แกจะเปนอันตรายไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)