คือผมอายุ33ปี ซึ่งเมื่อก่อนผมกินอะไรทีละมากๆกินเยอะแต่ไม่เคยเป็นอะไร พอมาปีนี้อาการออกคือ 1.เวลากินข้าวเสร็จอาการท้องอืดจะมาหลังจากกินสัก5นาที 2.จะเริ่มหายใจลำบาก หายใจไม่ทั่วปอด บางทีมีอาการอ้วกออกมา 3.บางทีหายใจลึกๆจะรู้สึกคล้ายๆหน้ามืด 4.กินอะไรเล็ดๆน้อยๆท้องก็ป่องออกมาครับ อาการที่ผมเป็นตอนนี้จะ3เดือนกว่าแล้วไปหาหมอๆก็ให้ยาน้ำมาทาน ยาเม็ดแก้ท้องอืด ตอนนี้ซืัอยามากินเองก็มีครับ ก็ไม่หายสักที บางครั้งถ่ายไม่ออกหรือออกทีละไม่มากแต่ครั้งเดียว จากปรกติถ่ายเกือบทุกวัน ผมควรจะตรวจอะไรดีถ้าไปหาหมอรอบนี้หรือมีวิธีแก้ไขยังไงมั้งครับ. รบกวนคุณหมอช่วยตอบทีนะครับทรมาณมากทุกวันนี้ ขอบพระคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ จากประวัติสงสัยเรื่องปัญหาในระบบทางเดินอาหารเป็นหลักค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ/กรดไหลย้อน นิ่วในถุงน้ำดี หรือตับอ่อนอักเสบก็ได้ค่ะ โดยอาการและการยืนยันการวินิจฉัยจะแตกต่างกันดังนี้ค่ะ -โรคกระเพาะอาหารอักเสบ มีอาการปวดจุกแน่นท้อง ท้องอืด อาจเป็นบริเวณใต้ลิ้นปี่ บริเวณสะดือหรือบริเวณช่องท้องด้านซ้ายก็ได้ค่ะ อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ถ้ารักษาด้วยยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจจะต้องส่องกล้องดูว่าในกระเพาะอาหารมีรอยโรคอะไรหรือไม่ค่ะ -กรดไหลย้อน มีอาการเหมือนกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เพิ่มเติมคือ อาจมีจุกคอ แสบร้อนทรวงอก เรอเปรี้ยว อิ่มง่ายขึ้นร่วมด้วย รักษาแบบเดียวกันกับโรคกระเพาะค่ะ -นิ่วในถุงน้ำดี มีอาการปวดตื้อๆบริเวณใต้ชายโครงขวาหรือบริเวณใต้ลิ้นปี่ค่ะ บางกรณีมีตาเหลืองตัวเหลืองร่วมด้วยได้ การยืนยันวินิจฉัยทำโดยการอัลตร้าซาวน์ในช่องท้องค่ะ -ตับอ่อนอักเสบ มีอาการคล้ายๆกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบค่ะ แต่ส่วนมากมักมีอาการปวดร้าวทะลุหลัง บางกรณีมีไข้ร่วมด้วยได้ค่ะ การยืนยันวินิจฉัยทำโดยการอัลต้าซาวน์ในช่องท้องหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ค่ะ -กรณีของผู้ป่วยแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาน่าจะคิดถึงโรคกระเพาะอาหารอักเสบมากที่สุด แต่ถ้าผู้ป่วยรับประทานยาลดกรดรักษาโรคกระเพาะร่วมกับปรับพฤติกรรมเรื่องการรับประทานอาหารแล้วแนวโน้มอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้กลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม เช่น ส่องกระเพาะ อัลตร้าซาวน์ หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ค่ะ