อะมิโนไกลโคไซด์ (Aminoglycosides) เป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง หรือเชื้อที่ดื้อยา โดยกลุ่มยาชนิดนี้เป็นยาปฏิชีวนะที่สามารถออกฤทธิ์โดยการฆ่าแบคทีเรียโดยตรง (Bactericidal) ซึ่งจะไปยับยั้งการสร้างโปรตีนบางชนิดที่ช่วยในการอยู่รอดของแบคทีเรีย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ยาอะมิโนไกลโคไซด์มักจะใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อที่รุนแรง ด้วยการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำสู่ร่างกาย อย่างไรก็ตาม ยาชนิดนี้มีด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่แบบฉีดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอย่างของยาในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ ได้แก่
- Gentamicin (ชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดดำเท่านั้น)
- Amikacin (ชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดดำเท่านั้น)
- Tobramycin
- Gentak and Genoptic (หยอดตา)
- Kanamycin
- Streptomycin
- Neo-Fradin (ชนิดรับประทาน)
- Neomycin (ชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดดำเท่านั้น)
คำเตือนและข้อระมัดระวังในการใช้ยาอะมิโนไกลโคไซด์
หลีกเลี่ยงการใช้ยาอะมิโนไกลโคไซด์ หากมีอาการแพ้ต่อสารที่เป็นส่วนผสมของยา รวมถึงมีปัจจัยดังต่อไปนี้
- มีประวัติแพ้สารซัลฟา (ซึ่งมักพบเป็นส่วนผสมของไวน์และผลไม้แห้ง)
- เป็นโรคไตและมีปัญหาทางการได้ยิน รวมถึงปัญหาด้านการทรงตัวและการควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกตา
- มีโรคความผิดปกติของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis) และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia gravis)
- มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
- มีลูกที่พึ่งคลอดหรือเด็กทารกที่ได้รับการรักษาการติดเชื้อที่รุนแรงโดยการใช้ยาอะมิโนไกลโคไซด์
- อยู่ในช่วงรับประทานยา Theracrys (BCG live intravesical) Vistide (cidofovir) และ Zanosar (streptozocin)
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของการใช้ยาอะมิโนไกลโคไซด์
อะมิโนไกลโคไซด์ เป็นยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์รุนแรง และมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงเช่นกัน โดยองค์กรอาหารและยา (The Food and Drug Administration: FDA) ได้กล่าวถึงคำเตือนในการใช้ยาชนิดรับประทานและการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ ซึ่งอาจเกิดผลข้างเคียง ดังนี้
- ทำลายโครงสร้างการได้ยินในหู ส่งผลให้เกิดการสูญเสียการได้ยิน
- ทำลายหูชั้นใน ทำให้เกิดปัญหาด้านการทรงตัว
- ทำลายไต เช่น มีโปรตีนออกมาในปัสสาวะ ภาวะขาดน้ำ ระดับของแมกนีเซียมต่ำ
- อัมพาตของกล้ามเนื้อลาย ซึ่งผลข้างเคียงและความรุนแรงดังกล่าวจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล