คอร์ปัส คาโลซัม (Corpus callosum)เป็นส่วนของสมองที่มีลักษณะโค้ง เป็นโครงสร้างที่เชื่อมสมองซีกซ้ายและขวาเข้าด้วยกัน ประกอบด้วยใยประสาท 200 ล้านใย ทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลไปมาระหว่างสมองทั้ง 2 ซีก
การฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัม (Agenesis of the corpus callosum ;ACC) เป็นความผิดปกติรุนแรงที่พบได้ไม่บ่อย คือ ราว 1 ต่อ 19,000 ของการชันสูตรศพ ทั้งนี้การฝ่อหายไปอาจเป็นเพียงบางส่วน หรือทั้งหมดก็ได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัม มีกี่ชนิด?
เกิดขึ้นเนื่องจากการที่ร่างกายสร้างใยประสาทนี้อย่างไม่ถูกต้องซึ่งเป็นความผิดปกติแต่กำเนิด ถ้าลูกของคุณมีการฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัม ก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้แต่อาจมีปัญหาอื่นๆ เกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิต
การฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัม แบ่งได้อีกหลายชนิด ได้แก่
- Partial Corpus Callosum Agenesis
- Hypogenesis of the Corpus Callosum
- Hypoplasia of the Corpus Callosum
- Dysgenesis of the Corpus Callosum
การฝ่อหายไปของสมองส่วนคอร์ปัส คาโลซัม จะมีอาการอย่างไร?
การฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัม บางครั้งอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ให้เห็น แต่ส่วนมากมักสัมพันธ์กับความผิดปกติของโครโมโซม trisomy 18, 13 และ 8
ความผิดปกติที่ว่านี้เองที่เป็นสาเหตุของพัฒนาการช้า ซึ่งอาจมีอาการในระดับรุนแรงน้อยไปจนถึงรุนแรงมาก อาจพบว่า เด็กมีพัฒนาทางในการเคลื่อนไหวที่ช้าลง เช่น การนั่ง การเดิน หรือการปั่นจักรยาน
ในบางกรณีอาจพบปัญหาในการดูดนมและการกลืน และพบการประสานสัมพันธ์ของร่างกายผิดปกติ ซึ่งเด็กบางคนอาจมีปัญหาในการใช้ภาษาและการพูดที่ช้ากว่าปกติ แม้ว่าจะพบปัญหาเกี่ยวกับสติปัญญาอยู่บ้าง แต่เด็กที่มีภาวะนี้หลายรายก็มีระดับสติปัญญาเหมือนคนทั่วไป
อาการอื่นๆ ที่พบ ได้แก่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- อาการชัก
- การมองเห็นผิดปกติ
- มีปัญหาในการได้ยิน
- ท้องผูกเรื้อรัง
- กำลังกล้ามเนื้อลดลง
- ทนต่อความเจ็บปวดได้มากขึ้น
- การนอนหลับผิดปกติ
- มีปัญหาในการเข้าสังคม
- มีปัญหาในการเห็นมุมมองของคนอื่น
- มีปัญหาในการตีความหมายการแสดงออกทางสีหน้า
- ไม่เข้าใจคำสแลง สำนวน หรือการแสดงออกทางสังคม
- มีปัญหาในการแยกความแตกต่างของเรื่องจริงออกจากเรื่องไม่จริง
- มีปัญหาในเรื่องของความเข้าใจเหตุผลเชิงนามธรรม
- มีพฤติกรรมหมกมุ่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากไป
- สมาธิสั้น
- มีอาการกลัว
สาเหตุของการฝ่อหายไปของสมองส่วนคอร์ปัส คาโลซัม
การฝ่อหายไปของสมองส่วนคอร์ปัส คาโลซัม ที่จะเริ่มมีการพัฒนาขึ้นในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก ถือเป็นความผิดปกติแต่กำเนิด ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงหลายชนิดทำให้เด็กมีโอกาสเกิดภาวะนี้มากขึ้น ได้แก่
- การที่แม่ใช้ยาบางชนิด เช่น Valproate
- การที่แม่ใช้ยาเสพติดและการดื่มแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์
- การติดเชื้อไวรัสขณะตั้งครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน (Rubella)
- ความผิดปกติและความเสียหายของโครโมโซม เช่น ผู้ที่มีโครโมโซมเกินมา 1 แท่ง (Trisomy) รวมไปถึงภาวะความผิดปกติกทางพันธุกรรมในกลุ่มที่เรียกว่า "Ciliopathies"
ส่วนใหญ่ผู้ที่มีการฝ่อหายไปของสมองส่วนคอร์ปัส คาโลซัม จะพบร่วมกับความผิดปกติทางสมองอื่นๆ เช่น ถ้ามีซีสต์เกิดขึ้นในสมองเด็ก จะทำให้เกิดการยับยั้งการสร้างคอร์ปัส คาโลซัม ส่วนภาวะอื่นๆ ที่สัมพันธ์กับการฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัม ได้แก่
- Arnold-Chiari Malformation
- Dandy-Walker Syndrome
- Aicardi Syndrome
- Andermann Syndrome
- Acrocallosal Syndrome
- Schizencephaly มีรอยแยกลึกในสมองของเด็ก
- Holoprosencephaly ภาวะที่สมองของเด็กไม่แยกตัวออกจากกัน เพื่อพัฒนาเป็นซีกสมอง
- Hydrocephalus ภาวะที่โพรงสมองคั่งน้ำ
การวินิจฉัยการฝ่อหายไปของสมองส่วนคอร์ปัส คาโลซัม
ถ้ามีการฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัมของทารกที่อยู่ในครรภ์ แพทย์อาจตรวจเจอด้วยการอัลตราซาวด์ก่อนที่จะมีการคลอด หรือถ้าแพทย์ตรวจพบอาการอันสงสัยได้ว่ามีการฝ่อหายไปของคอร์ปัส คาโลซัม ก็อาจให้ตรวจเอ็มอาร์ไอ (MRI) เพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
ในบางรายที่แพทย์ไม่สามารถตรวจเจอความผิดปกตินี้ได้จนกระทั่งคลอด หากแพทย์สงสัยว่า เด็กมีภาวะนี้ แพทย์จะให้เด็กเข้ารับการตรวจด้วยเอ็มอาร์ไอ (MRI) หรือซีทีสแกน (CT scan) เพื่อดูว่า เด็กมีภาวะนี้หรือไม่
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาภาวะนี้ให้หายขาดได้ แต่แพทย์สามารถให้การรักษาเพื่อช่วยควบคุมอาการของโรคได้ เช่น การจ่ายยาเพื่อควบคุมอาการชัก และแนะนำให้ให้เด็กเข้ารับการบำบัดต่างๆ ได้แก่ การทำกายภาพบำบัด การบำบัดด้านการพูด และการทำกิจกรรมบำบัดเพื่อช่วยควบคุมอาการของโรค
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้แม่และทารกในครรภ์ มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์และคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยคือ การฝากครรภ์กับแพทย์ในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์
การฝากครรภ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ทุกช่วงอายุครรภ์ รวมทั้งตรวจสุขภาพของแม่ ให้คำแนะนำในการดูแลครรภ์จนกระทั่งครบกำหนดคลอด
ที่สำคัญหากมีปัญหา หรือภาวะแทรกซ้อนใดๆ เกิดขึ้นระหวางตั้งครรรภ์ แพทย์จะสามารถรักษา หรือแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ทันท่วงที
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์และคลอดบุตร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android