อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพ แต่หากเป้าหมายของคุณคือการลดน้ำหนัก นอกจากคุณจะใช้วิธีควบคุมอาหารที่ทานในแต่ละวันแล้ว คุณก็อาจใช้วิธีออกกำลังกายช่วยอีกแรง แต่เคยสงสัยไหมว่า เราต้องออกกำลังกายวิธีใดเพื่อให้เบิร์นแคลอรีได้มากที่สุด ? วันนี้เราจะพาคุณไปไขข้อข้องใจนี้พร้อมกันค่ะ
1. ว่ายน้ำ
การว่ายน้ำทำให้คุณต้องใช้แรงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเพราะคุณจำเป็นต้องออกแรงในน้ำ ทั้งนี้คุณจะได้รับแรงต้าน มากกว่าตอนออกกำลังกายบนบก 12 - 14% ทำให้คุณมีกล้ามเนื้อมากขึ้น และยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากเท่าไร ร่างกายก็จะสามารถเบิร์นแคลอรีได้มากเท่านั้น นอกจากนี้การว่ายน้ำยังถูกจัดให้เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งการว่ายน้ำ 30 นาที ช่วยเบิร์นได้ 180-266 แคลอรี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวด้วยค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2. ปีนผา
การปีนผาถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งคุณจำเป็นต้องใช้มัดของกล้ามเนื้อหลายๆ มัดพร้อมกัน ทำให้ร่างกายได้ออกกำลังกายเต็มที่ ตั้งแต่บริเวณคอไปจนถึงขาของคุณจะแข็งแรงขึ้น และให้จำไว้ว่าคุณจะเบิร์นแคลอรีได้มากเมื่อคุณมีกล้ามเนื้อมากขึ้น ถ้าคุณยังไม่เคยมีประสบการณ์ปีนผา คุณก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะมีบางยิมที่จำลองกำแพงไว้สำหรับผู้ที่สนใจกีฬาประเภทนี้
3. วิ่งจ๊อกกิ้ง
การวิ่งจ๊อกกิ้งสามารถช่วยลดแคลอรี และด้วยความที่มันสามารถทำได้ง่าย คนที่เพิ่งหันมาออกกำลังกายหลายคนจึงใช้วิธีวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นจุดเริ่มต้น ทั้งนี้การวิ่ง 30 นาที สามารถเบิร์นได้ 400 แคลอรีโดยขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้ หากคุณวิ่งเหยาะแทนการวิ่งแบบธรรมดา ให้พยายามตั้งเป้าไว้ที่ 30 นาทีต่อวัน และวิ่งให้ได้ 5 วันต่อสัปดาห์ค่ะ
4. กระโดดเชือก
การกระโดดเชือกถือเป็นวิธีที่ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนแคลอรีเป็นพลังงาน และทำให้หัวใจสูบฉีด ซึ่งการกระโดกเชือก 30 นาที สามารถช่วยเผาผลาญได้ประมาณ 300-444 แคลอรี นอกจากจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มากแล้ว มันก็ยังเป็นวิธีออกกำลังกายที่ง่ายและไม่เปลืองเงินมากจนเกินไป ซึ่งคุณสามารถหาซื้ออุปกรณ์ที่ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทั่วไป แต่ประโยชน์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะมีงานวิจัยพบว่า การกระโดดเชือกสามารถช่วยระงับความอยากอาหาร โดยไปควบคุมฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิว
5. กรรเชียงบก
การออกกำลังกายโดยวิธีที่เรียกว่า กรรเชียงบก (Rowing) สามารถช่วยให้ร่างกายส่วนบนทำงานหนัก โดยจะเน้นไปที่หัวไหล่ แขน และลำตัว ทั้งนี้การใช้เครื่องกรรเชียงบกที่ยิมสามารถทำได้ไม่ยาก และไม่ทำให้หลังหรือข้อต่อตึงจนเกินไป นอกจากนี้มันยังช่วยให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรงขึ้นในแต่ละครั้งที่ดัน อย่างไรก็ดี ในทุก 30 นาที การใช้เครื่องกรรเชียงบกสามารถช่วยเผาผลาญ 311 - 377 แคลอรีค่ะ
6. ปั่นจักรยาน
การปั่นจักรยานสามารถช่วยเผาผลาญได้หลายแคลอรี ซึ่งการปั่นจักรยานชนิดที่อยู่กับที่ (Stationary bike) เป็นเวลา 30 นาที สามารถช่วยเผาผลาญได้ 210 - 466 แคลอรี ในขณะที่การปั่นจักรยานชนิดที่เคลื่อนไหวได้จะช่วยเผาผลาญได้ประมาณ 400 แคลอรี หรือมากกว่านี้ หากคุณไม่รู้วิธีปั่นจักรยาน การใช้จักรยานชนิดที่อยู่กับที่ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี แถมยังเหมาะสำหรับวันที่มีสภาพอากาศร้อนหรือเย็นเกินไป
7. แอโรบิค
ถ้าการวิ่งเหยาะ หรือการปั่นจักรยานเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเกินไปสำหรับคุณ ให้คุณลองหันมาออกกำลังกายด้วยวิธีแอโรบิคแทนค่ะซึ่งการเข้าคลาสแอโรบิคเพียง 30 นาที สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ประมาณ 210 - 444 แคลอรี โดยขึ้นอยู่กับความเอาจริงเอาจังของแต่ละคน สำหรับคลาสที่เปิดสอนก็มีตั้งแต่เต้นแอโรบิคแบบธรรมดาไปจนถึงการเต้นซุมบ้า
นอกจากคุณจะออกกำลังกายตามวิธีที่เราแนะนำข้างต้นแล้ว คุณก็อย่าลืมทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และควบคุมปริมาณของอาหารที่ทานให้เหมาะสม หากคุณสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าการลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้าหมายจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป