เมื่อพูดถึงโยเกิร์ต หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นอาหารว่างที่เป็นมิตรสำหรับคนที่กำลังไดเอท แต่นอกจากโยเกิร์ตมีรสชาติที่อร่อยถูกปากคนทุกเพศทุกวัยแล้ว ยังเป็นที่รู้กันด้วยว่าโยเกิร์ตมีแบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ และการเจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่าเราไม่ได้นำโยเกิร์ตมาใช้ทานเป็นอาหารเท่านั้น แต่เราสามารถนำโยเกิร์ตมาใช้บรรเทาได้สารพัดปัญหาเลยค่ะ สำหรับแนวทางการใช้โยเกิร์ตมีดังนี้
1. บรรเทาแผลไหม้
กรดแลคติกในโยเกิร์ตช่วยควบคุมค่า pH ในผิว และเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิวในคนที่มีแผลไหม้ระดับเล็กน้อย ทั้งนี้การทาโยเกิร์ตบริเวณผิวที่ไหม้โดยตรงทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่น อีกทั้งยังช่วยลดความรู้สึกแสบร้อนและรอยแดง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
วิธีใช้
- นำโยเกิร์ตไปแช่ในตู้เย็น หลังจากนั้นให้คุณนำมาทาบริเวณที่มีปัญหา
- ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที และใช้ผ้าเปียกค่อยๆ เช็ดโยเกิร์ตส่วนเกิน
- ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง จนกว่าผิวจะหายสนิท
2. รักษาเชื้อราในเล็บ
เราสามารถนำโยเกิร์ตมาช่วยรักษาเล็บที่ติดเชื้อราได้ สารต้านเชื้อราในโยเกิร์ตมีคุณสมบัติช่วยหยุดการเจริญเติบโตของจุลชีพ อีกทั้งยังทำให้เล็บมีสีเหลืองลดลง
วิธีใช้
- ใช้โยเกิร์ตนวดตรงเล็บที่มีปัญหา
- ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น โดยให้ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
3. ลดรังแค
สำหรับคนที่มีรังแค โยเกิร์ตถือเป็นตัวช่วยที่ดีค่ะ เพราะสารต้านเชื้อราในโยเกิร์ตสามารถช่วยกำจัดรังแคได้ นอกจากนี้สารอาหารในโยเกิร์ตยังควบคุมค่า pH และป้องกันไม่ให้หนังศีรษะแห้งกร้าน อีกทั้งยังช่วยลดซีบัมที่ถูกผลิตออกมามากเกินไปอีกด้วย
วิธีใช้
- ทำผมให้ชุ่ม แยกเป็นส่วนๆ และใช้โยเกิร์ตทาให้ทั่วหนังศีรษะ
- ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที แล้วค่อยล้างออก โดยให้ทำเช่นนี้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
4. รักษาโรคปากนกกระจอก
แบคทีเรียชนิดดีที่พบได้ในโยเกิร์ตธรรมชาติสามารถช่วยต่อสู้กับจุลชีพที่ทำให้เกิดแผลร้อนใน อย่างไรก็ดี การใช้โยเกิร์ตจะช่วยทำให้ค่า pH ที่ผิวกลับมามีระดับที่สมดุล และช่วยในกระบวนการเยียวยา
วิธีใช้
- ใช้โยเกิร์ตแบบแช่เย็นเพียงเล็กน้อยถูที่บาดแผล
- ปล่อยทิ้งไว้ และทา 2-3 ครั้งต่อวัน
- ใช้ทรีทเมนต์สูตรนี้จนกว่ารอยแผลจะหายไป
5. ทำให้ฟันขาวขึ้น
การใช้โยเกิร์ตกับฟันอาจไม่ได้มีประสิทธิผลเท่ากับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับฟันโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การใช้โยเกิร์ตทุกวันสามารถทำให้คราบสีเหลืองบนฟันที่เกิดจากอาหารดูจางลง โยเกิร์ตจะช่วยกำจัดคราบพลัคที่ทำร้ายเคลือบฟัน
วิธีใช้
- หยดโยเกิร์ตเพียงเล็กน้อยลงบนแปรงสีฟันและแปรงฟันตามปกติ
- ปล่อยไว้โดยไม่ต้องล้าง โดยให้ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรนำโยเกิร์ตมาใช้แทนยาสีฟัน แต่ให้คุณใช้โยเกิร์ตแปรงฟันหลังบ้วนปาก
6. จัดการกับสิว
กรดและสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่พบได้ในโยเกิร์ตตามธรรมชาติสามารถช่วยหยุดยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าและลดสิว นอกจากนี้การใช้โยเกิร์ตขัดผิวจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ก่อตัวในรูขุมขน อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นและทิ้งความสดชื่นไว้ที่ผิว
วิธีใช้
- ทาโยเกิร์ตรสธรรมชาติให้ทั่วใบหน้า หรือบริเวณที่มีแนวโน้มเกิดสิว
- ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที หลังจากแห้งแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- ทำเช่นนี้ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่า โยเกิร์ตสามารถเป็นได้มากกว่าแค่ของหวานแสนอร่อย ซึ่งการใช้โยเกิร์ตไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ และคุณสามารถใช้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่แน่ว่าคุณอาจติดใจจนถึงขั้นซื้อโยเกิร์ตมาตุนไว้ในตู้เย็น