Pilonidal sinus นั้นเป็นหลุมหรือท่อขนาดเล็กภายในผิวหนัง ซึ่งอาจจะมีสารน้ำหรือหนองอยู่และทำให้เกิดเป็นถุงน้ำหรือหนองขึ้นมาได้ ภาวะนี้จะเกิดที่บริเวณเหนือบั้นท้าย ถุงน้ำที่เกิดขึ้นนั้นมักจะมีขน สิ่งสกปรกและเศษซากต่างๆ อยู่ภายใน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงและสามารถเกิดการติดเชื้อได้บ่อย หากมีการติดเชื้อ จะทำให้เกิดหนองและเลือดและมีกลิ่นเหม็นได้
โรคนี้เป็นโรคที่มักจะพบในผู้ชายและพบได้บ่อยในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น นอกจากนั้นยังพบได้บ่อยในผู้ที่มีการนั่งนานๆ เช่นคนขับรถแท๊กซี่
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุ
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (เนื่องจากเกิดในช่วงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์) การงอกของขน และแรงเสียดสีจากเสื้อผ้า หรือจากการที่นั่งนานเกินไป
กิจกรรมที่เพิ่มแรงเสียดสีเช่นการนั่ง นั้นสามารถทำให้ขนที่กำลังจะขึ้นในบริเวณดังกล่าวนั้นถูกฝังอยู่ใต้ผิวหนังได้ ทำให้ร่างกายเข้าใจว่าขนนั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมและส่งระบบภูมิคุ้มกันออกมาตอนสนองต่อขนดังกล่าวเช่นเดียวกับเวลาที่เจอเชื้อโรค ภูมิคุ้มกันเหล่านี้จะทำให้เกิดถุงรอบๆ ขนดังกล่าว บางคนอาจจะมีโพรงหรือท่อเหล่านี้หลายๆ อันและเชื่อมต่อกันอยู่ภายใต้ผิวหนัง
อาการที่พบ
คุณอาจจะไม่มีอาการที่สังเกตได้ในระยะแรกนอกจากเป็นรอยบุ๋มเล็กๆ ที่ผิวหนัง แต่เมื่อเริ่มมีการติดเชื้อที่รอยบุ๋มดังกล่าว จะเริ่มสังเกตเห็นเป็นถุงน้ำหรือหนองอยู่ภายใน
อาการที่บ่งบอกว่ามีการติดเชื้อประกอบด้วย
- เจ็บเวลานั่งหรือยืน
- ถุงน้ำนั้นบวม
- ผิวหนังบริเวณโดยรอบนั้นแดง
- มีหนองหรือเลือดออกมาจากถุงน้ำดังกล่าวและมีกลิ่นเหม็น
- มีขนงอกขึ้นมาจากบริเวณที่มีอาการ
- มีท่อหรือโพรงหลายโพรงอยู่ภายในผิวหนัง
- คุณอาจจะมีไข้ต่ำๆ ได้แต่พบได้น้อย
การรักษา
1.การรักษาแบบประคับประคอง
หากสามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ คุณอาจจะยังไม่มีอาการปวดที่รุนแรงและไม่มีอาการของการอักเสบ แพทย์อาจจะสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด ยานี้ไม่ได้ช่วยรักษาโพรงที่เกิดขึ้น แต่จะช่วยรักษาการติดเชื้อและอาการไม่สบายตัวที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการนัดติดตามเป็นประจำ และแนะนำให้โกนหรือถอนขนในบริเวณดังกล่าว ควบคู่กับการดูแลสุขอนามัย
2.การเจาะถุงน้ำ
หัตถการนี้จะช่วยลดอาการที่เกิดจากการมีหนองอยู่ภายในโพรงดังกล่าว ก่อนที่จะเริ่มทำ แพทย์จะทำการฉีดยาชาก่อนที่จะใช้มีดกรีดเปิดหนองดังกล่าวออก ทำความสะอาดขน เลือดและหนองที่อยู่ภายใน ก่อนที่จะปิดแผลและปล่อยให้หายจากภายใน ส่วนมากแผลมักจะหายภายใน 4 สัปดาห์และคนส่วนใหญ่มักจะไม่ต้องมีการรักษาเพิ่มเติม
3.การฉีด phenol
วิธีนี้แพทย์จะเริ่มจากการฉีดยาชา ก่อนฉีด phenol ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อเข้าไปในถุงน้ำ วิธีอาจจะต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้ง ก่อนที่ถุงน้ำนั้นจะแข็งขึ้นและทำให้โพรงนั้นปิด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
วิธีนี้มีโอกาสในการกลับเป็นซ้ำสูง ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่ใช้ไม่บ่อย ในบางกรณีแพทย์อาจจะตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้การผ่าตัดในการรักษาแทน
4.การผ่าตัด
หากคุณเป็นโรคนี้ซ้ำๆ หรือมีโพรงมากกว่า 1 โพรง แพทย์อาจจะแนะนำให้ทำการผ่าตัด
ในขั้นแรกนั้นจะเริ่มจากการฉีดยาชา ก่อนที่จะเปิดแผลออกและทำความสะอาดเอาหนองและสิ่งที่อยู่ภายในออก เมื่อเสร็จแล้วก็จะเย็บปิดแผล
หลังจากการผ่าตัด แพทย์จะอธิบายวิธีการทำแผลและแนะนำให้โกนขนที่บริเวณดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้มีขนขึ้นที่แผล
ผลลัพธ์ในการรักษา
โรคนี้มักจะสามารถหายได้ภายใน 4-10 สัปดาห์ขึ้นกับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นและวิธีที่ใช้ในการรักษา
ภาวะแทรกซ้อน
โรคนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่นการติดเชื้อที่แผลและการกลับเป็นซ้ำแม้ว่าจะใช้การผ่าตัดในการรักษาก็ตาม
อาการที่บ่งบอกว่าแผลนั้นติดเชื้อประกอบด้วย
- เจ็บอย่างรุนแรง
- ผิวหนังอักเสบและบวม
- มีไข้สูง
- มีเลือดและหนองไหลออกจากบริเวณแผล
- แผลมีกลิ่นเหม็น
วิธีการป้องกัน
คุณสามารถป้องกันการเกิดโรคนี้ได้โดยการทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวเป็นประจำทุกวันด้วยสบู่อ่อนๆ และล้างให้สะอาด ดูแลให้แห้ง และหลีกเลี่ยงการนั่งเป็นเวลานานๆ