เคยไหมที่รู้สึกรำคาญใจกับเหนียง หนอก หน้าท้องยื่นๆ พุงใหญ่ๆ เอวหนาๆ ต้นแขนต้นขาใหญ่ ขาเบียด ฯลฯ จะใส่อะไรก็แน่นไปหมด ต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก บ้างครั้งถึงขั้นขาดความมั่นใจไปเลยก็มี แต่ไม่ว่าจะพยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างไร ก็ไม่สามารถลดไขมันส่วนเกินเหล่านั้นออกไปได้ตามที่ใจต้องการสักที ยิ่งถ้าอายุเข้าสู่เลข 3-4-5-6 ด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้ความพยายามมากขึ้นไปอีก
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปแบบถาวร อยากมีรูปร่างฟิต เฟิร์ม ดูดี และใช้เวลาไม่นานก็เห็นผล ที่สำคัญไม่อยากเจ็บตัว ไม่ว่าจะด้วยการฉีด การดูด การเจาะ หรือการผ่าตัด ขอแนะนำ การกำจัดไขมัน กระชับสัดส่วนด้วยเทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยความเย็น (CoolSculpting) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ทางเลือกที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้ครอบคลุมที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เทคโนโลยี CoolSculpting กำจัดไขมันได้อย่างไร
ดอกเตอร์อาร์. รอกซ์ เอนเดอสัน (R.Rox Anderson) และนายแพทย์ไดเทอร์ แมนสไตน์ (Dieter Manstein) จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกับบริษัท ZELTIQ ในการคิดค้น และพัฒนาเทคโนโลยี CoolSculpting ขึ้นเพื่อกำจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายอย่างถาวร
กลไกสำคัญชองเทคโนโลยีนี้สอดคล้องกับชื่อ CoolSculpting เนื่องจากเป็นการส่งผ่านความเย็นอุณหภูมิติดลบตั้งแต่ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียสลงไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนังบริเวณที่ต้องการโดยใช้เวลา 35-45 นาที วิธีการนี้ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดูด ไม่ต้องเจาะ และไม่ต้องฉีด เพียงแค่ใช้ applicator (หัวเครื่องส่วนที่ปล่อยความเย็น) ติดตั้งบริเวณที่ต้องการเท่านั้น
เมื่อเซลล์ไขมันบริเวณที่ทำได้รับความเย็นอุณหภูมิติดลบติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ เซลล์ไขมันก็จะแข็งตัว หยุดการเจริญเติบโตแล้วก็จะตายลง จากนั้นเม็ดเลือดขาวจะค่อยๆ ย่อยสลายซากเซลล์ไขมันและขับออกจากร่างกาย ผ่านกลไกตามธรรมชาติ
สัมผัสความแตกต่างของรูปร่างได้ แม้ในครั้งแรก
เทคโนโลยี CoolSculpting สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินจากบริเวณที่ต้องการได้ราว 20-30% ของปริมาณไขมัน
สะสมที่มีอยู่ในบริเวณนั้นๆ โดยเราสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการทำ CoolSculpting ได้หลังจากนั้นเพียง 20 วัน เมื่อเซลล์ไขมันค่อยๆ ลดจำนวนลง ชั้นไขมันที่เคยเรียงตัวกันหนาจึงบางเบาลงตามไปด้วย ทำให้เริ่มเห็นผลความเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นภายในระยะเวลา 1 – 3 เดือน ซึ่งหากต้องการทำซ้ำอีกก็สามารถทำซ้ำได้ ทั้งนี้ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับเพศ ปริมาณไขมันสะสม ความหนาแน่นของไขมัน และตำแหน่งของไขมันสะสม ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ผู้ผลิตเครื่อง CoolSculpting
คราวนี้ความฝันที่จะสลายไขมันส่วนเกินที่กวนใจก็เริ่มส่อเค้าเป็นจริง ไม่ใช่เพียงความฝันลางเลือนอีกต่อไป
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากนี้เทคโนโลยี CoolSculpting ยังผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) ว่า สามารถกำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง และได้รับเลือกให้เป็นวิธีกำจัดไขมันถาวรยอดนิยมอันดับ 1 จากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Society for Dermatologic Surgery: ASDS) อีกทั้งยังได้รับรางวัล Best Body Treatment จากนิตยสาร NewBeauty จากประเทศสหรัฐอเมริกาติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน
ปัญหาแบบไหนบ้างที่สามารถแก้ได้ด้วยการทำ CoolSculpting
- ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมเฉพาะส่วน เช่น ใต้คาง (เหนียง) สันคอ (หนอก) หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก หรือแม้แต่บริเวณหลัง
- คุณแม่หลังคลอดบุตรที่ต้องการรูปร่างที่ดีกลับคืนมาในเวลาไม่นาน
- ผู้ที่ไม่สามารถลดไขมันสะสมได้เองด้วยวิธีลดน้ำหนัก หรือการออกกำลังกาย
มีข้อห้ามการทำ CoolSculpting สำหรับคนกลุ่มต่อไปนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- ผู้ที่มีภาวะแพ้ความเย็นอย่างรุนแรง
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดซึ่งต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยหากมีการผ่าตัดบริเวณที่ทำ CoolSculpting จะต้องเว้นระยะในการทำ CoolSculpting อย่างน้อย 6 เดือนก่อนจึงจะสามารถทำได้ ส่วนบริเวณอื่นๆ ที่ไม่ได้ผ่าตัดสามารถทำ CoolSculpting ได้ตามปกติ ขณะที่ผู้เป็นโรคใส้เลื่อนซึ่งไม่สามารถทำ CoolSculpting บริเวณหน้าท้องได้ แต่ยังสามารถทำในบริเวณอื่นๆ ได้
ขั้นตอนการทำ CoolSculpting
- ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการกำจัดไขมันด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting ควรศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้น หรือสอบถามข้อสงสัยกับผู้เชี่ยวชาญ (CoolSculpting Specialist) โดยตรง เพื่อซักถามประวัติสุขภาพ ประเมินจุดที่ต้องการกำจัดไขมัน คาดการณ์ผลลัพธ์ที่จะได้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความคุ้มค่าสุงสุดในการรักษา
- ผู้เชี่ยวชาญจะวางแผนการวาง Applicator (หัวเครื่องที่ใช้ในการรักษา) ตามจุดที่ลูกค้าต้องการ และเลือกขนาด applicator ที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้การกำจัดเซลล์ไขมันมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่สำคัญได้รูปร่างตามต้องการ ไม่ผิดส่วน และมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมมาตร
- เริ่มวาง Applicator ลงบนบริเวณที่ต้องการ โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือเจาะผิวหนัง ในช่วง 5 นาทีแรกอาจรู้สึกไม่สบายผิวเล็กน้อยเพราะแรงดูดจาก Applicator จากนั้นจะรู้สึกเย็นจัดที่ผิวหนังบริเวณนั้นและรู้สึกชาไปตลอด 35 นาทีที่ทำ หลังจากถอด Applicator ออก อาจมีรอยช้ำ นูนแดงบริเวณผิวหนังเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หลังจากทำ CoolSculpting เสร็จ ควรนวดผิวหนังบริเวณนั้นทันทีเป็นเวลา 2 นาที แม้การนวดอาจทำให้รู้สึกไม่สบายผิวเพราะยังรู้สึกชาๆ จากความเย็นอยู่ แต่มีผลวิจัยแสดงให้เห็นว่า การนวดหลังทำ CoolSculpting จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการกำจัดไขมันได้มากขึ้นถึง 68%
ข้อดีของการทำ CoolSculpting
- ปลอดภัยเพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดูด ไม่ต้องเจาะ ไม่ต้องฉีด หรือมีแผลเปิดใดๆ ทั้งสิ้น
- ผลลัพธ์ในการลดไขมันดีกว่า “การนวดด้วยเครื่อง” เพราะการนวดด้วยเครื่องสามารถกระชับสัดส่วนได้ระยะสั้นๆ และไม่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันออกไปได้
- ปลอดภัยกว่า “การอดอาหาร” เพราะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย
- กำจัดเฉพาะเซลล์ไขมัน ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ เพราะเซลล์ไขมันเป็นเซลล์ที่ไวต่อความเย็นที่สุด
- ใช้เวลาน้อยเพียง 35-60 นาที และสามารถกลับไปทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลได้จริง สัมผัสความแตกต่างได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ผลลัพธ์และความปลอดภัยของการทำ CoolSculpting เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่นๆ
- ผลลัพธ์ในการลดไขมันดีกว่า “การทำเทอร์มาจ เอฟแอลเอ็กซ์ (Thermage FLX)” เพราะเป็นการกำจัดไขมันถาวร ไม่ใช่แค่การยกกระชับผิว
- ปลอดภัยกว่า “การทำไฮฟู บอดี้ (HIFU Body)” เพราะไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียงอื่นๆ และไม่เสี่ยงต่อการเกิดแผลไหม้
- ปลอดภัยกว่า “การทำสคลัพชัวร์ (Sculpsure)” เพราะไม่เสี่ยงต่อการเกิดแผลไหม้
- ปลอดภัยกว่า “การดูดไขมัน” เพราะไม่ต้องวางยาสลบ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ไม่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ และไม่ทำให้ผิวเป็นคลื่น หรือมีรอยฟกช้ำ
- ปลอดภัยกว่า “การใช้ยาลดน้ำหนัก” เพราะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย
ควรทำ CoolSculpting ที่ไหนดี
ปัจจุบันการกำจัดไขมันด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting เป็นที่นิยมค่อนข้างมากในประเทศไทยเพราะมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยง ไม่ต้องพักฟื้น และได้ผลจริง แม้เครื่อง CoolSculpting พระเอกของการกำจัดไขมันวิธีนี้จะมีคุณลักษณะเหมือนกัน มีซอฟท์แวร์เชื่อมโยงเพื่อเก็บข้อมูลและมีการอัพเดทโปรแกรมใหม่ๆ เช่นเดียวกัน แต่สถาบันความงามแต่ละแห่งก็มีจุดเด่นในการให้บริการแตกต่างกัน
หากสนใจกำจัดไขมันด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting ที่เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center) ศูนย์ บริการด้านความงาม ผิวพรรณ และเรือนร่าง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก ก็มีให้บริการเช่นกัน โดยเอเพ็กซ์นับเป็นผู้ให้บริการ CoolSculpting ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการทำ CoolSculpting จากสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เอเพ็กซ์มีเคสการทำ CoolSculpting มากกว่า 10,000 และถือว่า มีเคสการทำ CoolSculpting สูงที่สุดในเอเชีย
ในส่วนของเครื่องมือ นอกเอเพ็กซ์จะมี applicator หลากหลายขนาดทำให้สามารถตอบรับความต้องการของผู้ใช้บริการได้มากและให้ประสิทธิภาพได้สูงสุดแล้ว ที่นี่ยังมี applicator รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า Petite ให้บริการ โดย Petite ใช้สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ใต้แก้มก้น บริเวณแขนผู้ที่มีรูปร่างเล็กแต่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วน ปัจจุบัน applicator รุ่น Petite นี้ในเมืองไทยยังมีให้บริการไม่กี่แห่ง
เอเพ็กซ์ยังพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ (CoolSculpting Specialist) ประจำทุกสาขา ที่สำคัญผู้เชี่ยวชาญทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง มีประสบการณ์ในการใช้เครื่องและการประเมินจุดกำจัดไขมัน
เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ยังมีบริการไอซ์แล็บ (Ice Lab) นวัตกรรมบำบัดความบาดเจ็บในร่างกายด้วยความเย็นสุดขั้ว (Cryotherapy) ระดับอุณหภูมิ -110 องศาเซลเซียส นอกจากบำบัดความบาดเจ็บในร่างกายแล้วยังสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้ด้วย หากทำควบคู่ไปกับการกำจัดไขมันด้วยเทคโนโลยี CoolSculpting จะช่วยเสริมประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น รับรองสวย หล่อ ดูดี ฟิตแอนด์เฟิร์มทันใจ แน่นอน
บทสรุป
ไม่ว่ากำจัดไขมันด้วยวิธีไหนก็ตาม ขอให้หาข้อมูล ศึกษาข้อดี-ข้อเสีย และข้อมูลความปลอดภัยจริงๆ ก่อนตัดสินใจทำ เมื่อตัดสินใจทำแล้ว หากอยากให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่กับเราไปนาน ๆ ต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพตั้งแต่ต้นทาง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่มีประโยชน์ถูกสุขลักษณะ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง และพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนที่ไขมันจะกลับมาสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกครั้ง
ถ้าทำได้อย่างนี้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มไม่หนีไปไหนแน่ สุขภาพก็จะดีตามไปด้วย
เลือกดูดีลและจองคิวเอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Apex Medical Center) ได้ที่นี่ หรือสอบถามได้ทางไลน์ @hdcoth
บทความที่เกี่ยวข้อง
คืนหุ่นฟิตด้วยนวัตกรรม CoolSculpting