โรคมะเร็งผิวหนังชนิดเบซาลเซลล์ (BCC) เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีจุดเริ่มต้นมาจากเบซาลเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ภายในผิวหนังทำหน้าที่สร้างเซลล์ผิวหนังใหม่เมื่อเซลล์เดิมตาย เป็นมะเร็งผิวหนังที่ถูกตรวจพบมากที่สุดแผลของมะเร็งผิวหนัง BCC มักจะมีลักษณะเหมือนขี้ผึ้ง มักจะเกิดบริเวณที่ผิวหนังถูกแสงแดดมากที่สุด รวมทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอด้วย เช่นเดียวกับมะเร็งผิวหนังส่วนใหญ่ มะเร็งผิวหนัง BCC ถูกสันนิษฐานว่ามีสาเหตุมากจากการที่ผิวหนังสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ทั้งรังสีจากแสงแดดและเตียงอาบแดดเป็นเวลานาน
อาการของโรคมะเร็งผิวหนัง BBC
เช่นเดียวกับมะเร็งผิวหนังชนิดอื่นๆ อาการหลักๆของมะเร็งผิวหนัง BCC ก็คือ อาการเจ็บที่รักษาไม่ได้ หรืออาการเลือดออกซ้ำๆและตกสะเก็ดในที่สุด
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มะเร็ง BCC ยังสามารถเกิดในลักษณะดังต่อไปนี้ด้วย เช่น
- มีลักษณะเหมือนไข่มุกสีขาวหรือขี้ผึ้ง (สีน้ำตาลหรือดำในคนผิวคล้ำ) ซึ่งมองเห็นเส้นเลือดที่อาจมีเลือดออกและพัฒนาเป็นสะเก็ดในเวลาต่อมา
- แผ่นเรียบๆสีน้ำตาลหรือสีแดงเรื่อๆบนแผ่นหลังหรือหน้าอก
- แผลเป็นสีขาวคล้ายขี้ผึ้งที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งที่บุกรุกหรือสร้างความเสียหายให้กับร่างกายโดยเฉพาะนั้นเรียกว่า Morpheaform BCC
คุณควรจะไปหาหมอโดยเร็วเมื่อคุณมีอาการหรือสัญญาณบ่งบอกใดๆก็ตาม
อาการของโรคมะเร็งผิวหนัง BBC
ปัจจุบันมีวิธีการรักษาโรคมะเร็งผิวหนัง BCC อยู่หลายวิธี ซึ่งวิธีไหนจะได้ผลดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับชนิด ตำแหน่งและความรุนแรงของมะเร็ง
วิธีการรักษาทั่วๆไป ได้แก่:
- วิธี Electrodesiccation and curettage (ED&C)
- การตัดก้อนที่ผิวหนัง
- การแช่น้ำแข็ง
- การผ่าตัดด้วยวิธี Mohs
- การใช้ยาทาที่ผิวหนัง
- ยาสำหรับมะเร็งระยะลุกลาม
วิธีรักษาที่เรียกว่า ED&C เป็นการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์จะเอาผิวหน้าของมะเร็งออกโดยใช้เครื่องมือขูด (curette) จากนั้นจะทำการจี้ฐานมะเร็งด้วยเข็มไฟฟ้า วิธี ED&C มักจะใช้กับแผลเล็กๆบริเวณขาและหู ในการตัดเอาก้อนที่ผิวหนังออกนั้น แพทย์จะตัดเอาเนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งและผิวหนังบริเวณโดยรอบออก กระบวนการนี้มักจะใช้ในกรณีที่มะเร็งผิวหนัง BCC มีขนาดใหญ่และอาจทำให้เกิดแผลเป็น ส่วนมะเร็งผิวหนัง BCC ที่บางมากๆหรืออยู่ติดกับผิวหนังชั้นบนมากๆ แพทย์อาจแนะนำให้ฆ่าเซลล์มะเร็งดังกล่าวด้วยการจี้ด้วยไนโตรเจนเหลว บางครั้งก็เรียกวิธีนี้ว่า การรักษาโดยใช้ความเย็น (cryosurgery) การผ่าตัดด้วยวิธี Mohs แพทย์จะกำจัดเซลล์มะเร็งออกเป็นชั้นๆ โดยจะทำการตรวจสอบเซลล์แต่ละชั้นด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้กำจัดเซลล์ร้ายออกโดยที่ไม่ตัดเนื้อเยื่อดีที่อยู่รอบๆออกมากจนเกินไป การผ่าตัดด้วยวิธี Mohs นี้ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยกลับมาเป็นมะเร็งผิวหนัง BCC อีกครั้ง หรือเมื่อแผลจากมะเร็งมีขนาดใหญ่ ลึก และเติบโตอย่างรวดเร็วบนใบหน้า หรือผู้ป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังBCC ชนิดMorpheaform อาจใช้ขี้ผึ้งใช้ภายนอกเพื่อรักษามะเร็งผิวหนังBCC ที่อยู่บนพื้นผิวหนังซึ่งไม่ขยายลึกลงไปในชั้นผิวหนังมาก ซึ่งตัวยาที่ใช้ ได้แก่:
- ครีม Aldara (imiquimod)
- Carac, Fluoroplex, Efudex (fluorouracil)
การรักษาด้วยขี้ผึ้งทาภายนอกอาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์ วิธีสุดท้าย คือการใช้ยา Erivedge (vismodegib) ซึ่งใช้รักษามะเร็งผิวหนัง BCC ที่ลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆของร่างกาย (การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง) หรือมะเร็งไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่นๆ ตัวยา Vismodegib จะไปขัดขวางสัญญาณทางเคมีที่ทำให้มะเร็งที่เบซาลเซลล์เติบโตนั่นเอง
ถ้าเราโดดแดดเป็นเวลานานๆจะมีผลต่อการทำลายเซลล์ผิวหนังได้มากน้อยแค่ไหนครับ