หน้าที่ของไต เป็นอย่างไร การทำงานเป็นแบบไหน สำคัญไหม?

ไต เป็นอวัยวะที่ทำงานหนักที่สุดในระบบทางเดินปัสสาวะ มีหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากเลือด ดูดกลับน้ำ สารอาหาร แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ควบคุมสมดุลต่างๆ ของร่างกาย และยังสามารถหลั่งฮอร์โมนที่สำคัญหลายชนิด
เผยแพร่ครั้งแรก 3 เม.ย. 2020 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
หน้าที่ของไต เป็นอย่างไร การทำงานเป็นแบบไหน สำคัญไหม?

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • ไตเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย ลักษณะคล้ายถั่วอยู่บริเวณสองข้างของกระดูกสันหลัง มีหน้าที่ในการรักษาสมดุลและขับของเสียออกจากร่างกายทางปัสสาวะ
  • ไตช่วยควบคุมระดับความเป็นกรด-เบส แร่ธาตุ และน้ำ ภายในร่างกาย โดยแต่ละนาทีไตจะกลั่นของเสียออกจากเลือดที่หมุนเวียนออกมาเฉลี่ยประมาณ 1 มิลลิลิตร เกิดเป็นปัสสาวะ
  • สิ่งที่ไตขับออกมาได้แก่ ยูเรีย (Urea) เกิดจากการย่อยสลายโปรตีน และกรดยูริก (Uric acid) เกิดจากการย่อยสลายกรดนิวคลีอิก
  • นอกจากนี้ไตจะควบคุมระดับ pH ในเลือดให้อยู่ระหว่าง 7.38-7.42 หากระดับ pH ในเลือดมีปริมาณแตกต่างไปจากนี้ จะส่งผลให้โปรตีนและเอนไซม์เสื่อมสภาพจนทำงานไม่ได้ อาจนำไปสู่การเสียชีวตได้
  • ไตเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ควรหมั่นดูแลรักษาและตรวจสุขภาพกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ (ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพได้ที่นี่)

หลายคนน่าจะทราบกันบ้างแล้วว่า ไต มีหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกาย

ของเสีย คือสารที่เกิดขึ้นมาจากกระบวนการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อาจเป็นสารที่เป็นพิษส่งผลเสียต่อร่างกายโดยตรง หรือสารที่มีประโยชน์แต่มีปริมาณมากเกินไปก็ได้

ร่างกายของมนุษย์มีระบบจัดการของเสียที่หลากหลายใช้กำจัดสารเหล่านี้ออกไป ได้แก่ ทางลำไส้ในรูปแบบของอุจจาระ ผ่านทางปอดในรูปแบบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทางผิวหนังในรูปแบบของเหงื่อ และทางไต ในรูปแบบของปัสสาวะ ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักของบทความนี้

ไต เป็นอวัยวะคู่หนึ่งรูปร่างคล้ายถั่ว อยู่ที่ตำแหน่งทั้งสองข้างของกระดูกสันหลัง บริเวณใต้กระดูกซี่โครงทางด้านหลังเยื่อบุช่องท้อง ตรงเหนือเอว

ไตของผู้ใหญ่มีขนาดประมาณหนึ่งกำปั้น ความยาวประมาณ 11 เซนติเมตร กว้าง 6 เซนติเมตร หนา 3 เซนติเมตร และหนักประมาณ 150 กรัม

บทบาทของไตต่อร่างกายคืออะไร ไตเป็นอวัยวะสำคัญแค่ไหน?

ไตเป็นอวัยวะสำคัญในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำงานร่วมกับระบบทางเดินหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นที่จะทำการส่งต่อเลือดเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟอกที่ไตในหน่วยที่เล็กที่สุดอย่างเนฟรอน (Nephron) หรือหน่วยไต ซึ่งประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยโกลเมอรูลัส (Glomerulus) กระจุกกันอยู่ในแคปซูลของโบวแมน (Bowman’s capsule) และท่อไตที่มีความสำคัญในการดูดกลับสารที่จำเป็นและขับสารที่ไม่จำเป็นต่างๆ ออกนอกร่างกาย

ด้วยกลไกข้างต้นนี้ ไตจึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสมดุลของปริมาณน้ำ เกลือแร่ กรด-เบส และของเสียต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ไตยังสามารถหลั่งฮอร์โมนหลายชนิดที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย และบางชนิดยังส่งผลโดยตรงต่อสมดุลความดันเลือดอีกด้วย

ไตมีระบบการทำงานอย่างไร?

ทุกๆ 1 นาทีมีเลือดไหลผ่านเข้ามาที่หน่วยไตประมาณ 600 มิลลิลิตร ซึ่งจะผ่านการกรองออกมาประมาณ 20% คือ 120 มิลลิลิตร ซึ่งเรียกว่าอัตราการกรองของไต (Glomerular Filtration Rate: GFR) เป็นค่าที่ทางการแพทย์ใช้อ้างอิงประสิทธิภาพการทำงานของไตโดยรวม

ที่หน่วยไต หลังจากที่เลือดผ่านการกรองที่เส้นเลือดฝอยโกลเมอรูลัสแล้ว ของเหลวที่ได้จากขั้นตอนนี้จะถูกลำเลียงต่อไปตามท่อไตเล็กๆ และระหว่างนี้เองจะมีการดูดกลับน้ำและสารบางอย่างที่มีประโยชน์เพื่อนำกลับไปใช้ต่อไป จนเหลือปัสสาวะปริมาณเฉลี่ยเพียง 1 มิลลิลิตรต่อนาที

หน้าที่และประโยชน์ของไต มีอะไรบ้าง?

ไตมีหน้าที่และประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

1. กำจัดของเสีย

ไต กำจัดของเสียไปในรูปแบบของปัสสาวะ สารประกอบ 2 อย่างหลักๆ ที่ไตกำจัดออกไป ได้แก่

  • ยูเรีย (Urea) เกิดจากการย่อยสลายโปรตีน
  • กรดยูริค (Uric acid) เกิดจากการย่อยสลายกรดนิวคลีอิก

2. ดูดกลับสารต่างๆ

ไตดูดกลับทั้งสารอาหาร แร่ธาตุ และสารที่จำเป็นต่อการรักษาสมดุลของร่างกาย ได้แก่

  • น้ำตาลกลูโคส
  • กรดอะมิโน
  • ไบคาร์บอเนต
  • โซเดียม
  • โพแทสเซียม
  • แมกนีเซียม
  • ฟอสเฟต
  • คลอไรด์
  • น้ำ

3. ควบคุมสมดุลกรด-ด่าง

ในร่างกายคนเราจะควบคุมระดับ pH ในเลือดให้อยู่ระหว่าง 7.38-7.42 หากค่าต่ำหรือสูงเกินไป โปรตีนและเอนไซม์ต่างๆ จะเสื่อมสภาพจนไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป

สุดท้ายอาจถึงแก่ชีวิตได้ในรายที่ค่าผิดปกติมากๆ และไม่ได้รับการรักษา

ไตและปอดเป็นสองอวัยวะที่ทำหน้าที่หลักในการควบคุมสมดุลนี้ โดยปอดจะใช้การเปลี่ยนแปลงอัตราการหายใจเพื่อควบคุมระดับคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนไตมีประบวนการ 2 อย่างหลักๆ คือ

  1. ใช้ไบคาร์บอเนตช่วยลดความเป็นกรด ซึ่งไตสามารถดูดกลับหรือขับไบคาร์บอเนตทิ้งได้ ขึ้นกับค่า pH ในขณะนั้น
  2. ขับกรดในรูปของประจุไฮโดรเจนหรือสารประกอบที่มีคุณสมบัติเป็นกรด ได้แก่ กรดซัลฟิวริก กรดฟอสฟอริก และกรดแลคติกออกไป

4. ควบคุมสมดุลน้ำ

เมื่อร่างกายขาดน้ำ สมองในส่วนไฮโปทาลามัสจะตอบสนองโดยสั่งการให้ต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมนแอนติไดยูริก (Antidiuretic hormone: ADH) ซึ่งส่งผลให้ไตดูดกลับน้ำมากขึ้น เป็นผลให้ความเข้มข้นของปัสสาวะเพิ่มขึ้น

5. ควบคุมสมดุลความดันเลือด

ไตควบคุมสมดุลความดันเลือดด้วยระบบเรนนิน-แองจิโอเทนซิน-อัลโดสเตอโรน (Renin Angiotensin Aldosterone System: RAAS) เริ่มจากหลั่งเรนนิน (Renin) ออกมาเมื่อมีระดับโซเดียมในเลือดต่ำลงหรือความดันหลอดเลือดทั่วร่างกายมีความต่ำลง จากนั้นเรนนินจะไปเปลี่ยนแองจิโอเทนซิโนเจน (Angiotensinogen) ซึ่งสร้างจากตับ ไปเป็น แองจิโอเทนซินหนึ่ง (Angiotensin I) ซึ่งจะโดนเปลี่ยนอีกทีไปเป็นจิโอเทนซินสอง (Angsiotensin II) โดยเอนไซม์แองจิโอเทนซินคอนเวิร์ตติง (Angiotensin Converting Enzyme: ACE) ที่สร้างจากปอด

Angiotensin II มีฤทธิ์ 2 อย่าง คือ

  • ทำให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรุนแรง ส่งผลให้ความดันเพิ่มสูงขึ้น
  • กระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งอัลโดสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดการดูดกลับโซเดียมและขับโพแทสเซียมทิ้งที่ท่อไต

6. หลั่งสารที่จำเป็น

ไตมีหน้าที่หลั่งสารที่สำคัญต่างๆ ดังนี้

  • อีริโทโพริติน (Erythropoietin) เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง หากขาดฮอร์โมนชนิดนี้จะเกิดอาการซีดได้
  • เรนนิน (Renin) เป็นฮอร์โมนใน RAAS ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมสมดุลความดันเลือด
  • แคลซิทริออล (Calcitriol) เป็นรูปที่ออกฤทธิ์ได้ทันที (Active form) ของวิตามินดี มีผลไปเพิ่มระดับแคลเซียมในเลือด

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


6 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
นพ. ธีรวัฒน์ สุวรรณี, กลไกการทำงานของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ(http://www.idoctorhouse.com/library/physiology-kub/), 4 มิถุนายน 2559.
นพ. สันต์ ใจยอดศิลป์, เจาะลึกระบบ renin angiotensin สำหรับแล็บเทคนิเชียน (http://visitdrsant.blogspot.com/2017/04/renin-angiotensin.html), 16 เมษายน 2560.
Mwit.ac.th, ระบบการกำจัดของเสีย (http://www.mwit.ac.th/~jat/contents/30102/Waste%20disposal%20system.htm).

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)