"ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง" มักเกิดกับทารกที่คลอดก่อนกำหนด

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
"ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง" มักเกิดกับทารกที่คลอดก่อนกำหนด

อวัยวะเพศของเด็กผู้ชายนั้น ควรมีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์มาตั้งแต่เกิด แพทย์มักจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบตั้งแต่ช่วงแรกเกิด ว่าอวัยวะเพศรวมไปถึงลูกอัณฑะของทารกนั้นมีความปกติดีหรือไม่ ซึ่งความผิดปกติที่นำมาเสนอในบทความนี้คือ ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง

ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง

ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง (Undescended Testicle) คือการที่ลูกอัณฑะไม่ได้อยู่ในถุงอัณฑะ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ความผิดปกตินี้พบไม่บ่อยนัก แต่ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมักจะมีโอกาสตกอยู่ในภาวะนี้มากกว่าทารกที่คลอดตามกำหนด 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

สาเหตุ

สาเหตุของการเกิดภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุงนั้นยังไม่มีการยืนยันใดๆ แต่สิ่งที่สังเกตได้คือความผิดปกตินี้มักจะพบในทารกที่คลอดก่อนกำหนด ทางการแพทย์ได้ลงความเห็นถึงปัจจัยเสี่ยง 9 ประการที่อาจทำให้ทารกตกอยู่ในภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุงได้ ดังนี้

  1. น้ำหนักแรกเกิดน้อย
  2. ความไม่สมบูรณ์เต็มที่ของเซลล์ต่างๆในร่างกายเมื่อทารกคลอดก่อนกำหนด
  3. ภาวะแทรกซ้อนที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ เช่นภาวะดาวน์ซีนโดรม (Down Syndrome) และความผิดพลาดของผนังหน้าท้องด้านใน
  4. บุคคุลในครอบครัวเคยตกอยู่ในภาวะนี้
  5. ผู้ปกครองมีการสัมผัสสารกำจัดศัตรูพืช
  6. มารดาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์
  7. มารดาสูบบุหรี่หรือดมกลิ่นบุหรี่มากในขณะตั้งครรภ์
  8. มารดาเป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากเกินกว่าปกติ
  9. มารดาเป็นโรคเบาหวาน

การสังเกต

แพทย์หรือแม้แต่ผู้ปกครองเองสามารถสังเกตภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุงนี้ได้จากการที่คลำแล้วไม่พบลูกอัณฑะอยู่ในบริเวณถุงอัณฑะเลย แต่หากพบว่าลูกอัณฑะอยู่เหนือบริเวณถุงอัณฑะขึ้นไป หรือใกล้บริเวณหน้าขาก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะการที่ลูกอัณฑะอยู่ผิดที่ในลักษณะนี้จะสามารถย้ายกลับมาอยู่ในถุงอัณฑะตามปกติได้เอง

การรักษา

ในกรณีที่คลำแล้วแพทย์ไม่สามารถระบุตำแหน่งของลูกอัณฑะได้เลย อาจเป็นไปได้ว่าลูกอัณฑะนั้นมีการเจริญเติบโตช้ากว่าปกติจึงยังคงฝังตัวอยู่ในท้องของทารก บางครั้งแพทย์จะค่อยๆลองดันบริเวณท้องน้อยของทารกเพื่อให้ลูกอัณฑะลงมาอยู่ในถุงห่อหุ้มตามที่ควรจะเป็น หากไม่สำเร็จ ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะแนะนำให้รอดูไปสักระยะก่อน เพราะประมาณร้อยละ 3 - 5 เปอร์เซ็นต์ของภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุงนี้จะหายไปเองได้ภายใน 4 - 6 เดือน

แต่หากความผิดปกตินี้ยังไม่หายไปเองเมื่อเด็กมีอายุครบ 6 เดือน ผู้ปกครองควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อทำการผ่าตัด การผ่าตัดนั้นจะช่วยย้ายลูกอัณฑะจากท้องของเด็กไปอยู่ในถุงอัณฑะและยึดไว้เพื่อไม่ให้ย้ายกลับขึ้นไปที่บริเวณท้องได้อีก


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Cryptorchidism in Boys With Cerebral Palsy Is Associated With the Severity of Disease and With Co-Occurrence of Other Congenital Anomalies. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5911456/)
Preterm birth and risk of epilepsy in Swedish adults. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3182754/)
Testicular Disorders and Infertility: Hypogonadism, Testicular Trauma, Torsion, and More. WebMD. (https://www.webmd.com/infertility-and-reproduction/guide/testicular-disorders)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)