การมีผิวสีแทนเคยเป็นหนึ่งในลักษณะที่ถูกมองว่าสุขภาพดี แต่ก็ไม่สามารถปกปิดสีผิวที่แท้จริงไปได้ และเมื่อรวมกับว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ ทำให้การอาบแดดมีอันตรายมากขึ้น ปัญหาก็คือการได้รับแสงแดดเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้เราได้รับวิตามินดี ซึ่งจำเป็นต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีที่จะทำให้ได้รับวิตามินดีตามต้องการโดยไม่เพิ่มความเสี่ยงจากการโดนแสงแดดมากเกินไป
ความเสี่ยงของการอาบแดดระหว่างตั้งครรภ์
นอกจากความเสี่ยงของการอาบแดดตามปกติแล้ว (เช่นผิวไหม้, เป็นมะเร็งผิวหนังและอื่น ๆ) การอาบแดดระหว่างตั้งครรภ์ยังจะเพิ่มความเสี่ยงดังต่อไปนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- การได้รับแสงแดดสามารถเพิ่มระดับอุณหภูมิกายของหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ได้ ทำให้มีการขาดน้ำได้ง่ายขึ้นซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอาการของการคลอดก่อนกำหนด และยังทำให้อุณหภูมิของทารกเพิ่มสูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลให้มีการทำลายสมองหากอุณหภูมิดังกล่าวสูงเกินไปและคงอยู่นานเพียงพอ
- ระหว่างตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายโดยเฉพาะเอสโตรเจนจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดกระบนใบหน้าเมื่อโดนแดดและรังสี UV จุดเหล่านี้มักเกิดที่บริเวณหน้าผาก และจมูก และอาจจะหายไปหรือไม่หายหลังจากการตั้งครรภ์ก็ได้
- การโดนแสดงแดดโดยเฉพาะเมื่อเกิดอาการผิวไหม้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเม็ดสี
การทำให้ผิวเป็นสีแทนแบบเทียม
คำตอบง่าย ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวสีแทนอาจเป็นการอาบแดดแบบเทียม เนื่องจากเมื่อพิจารณาแล้วพบว่าการทารองพื้นก่อน และตัวผู้อาบแดดนั้นมักจะอยู่ระยะสั้นและยังไม่มีการศึกษาที่แน่ชัดโดยเฉพาะต่อการตั้งครรภ์ ทำให้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการอาบแดด
แพทย์หลายคนไม่เห็นด้วยกับการใช้วิธีนี้และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอาบแดดเทียมเช่นเดียวกับการอาบแดด
การทารองพื้นก่อนอาบแดดช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุณหภูมิที่สูงเกินไปที่เกิดจากการได้รับแสงแดดตามธรรมชาติ แต่อาจจะยังคงทำให้มีความเสี่ยงต่อปัญหาของผิวหนังในหญิงตั้งครรภ์และปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการได้รับแสงแดดเหมือนเดิม รังสี UV ที่ส่งออกมาจากเครื่องอาบแดดเทียมนั้นยังเพิ่มความเสี่ยงในการเพิ่มอายุให้กับผิว ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังตามมา
ทางเลือกอื่นของการอาบแดดมีอะไรบ้าง?
การใช้ครีมทาผิวสีแทนหรือโลชั่นถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในฤดูร้อนและฤดูหนาว สารที่ออกฤทธิ์หลักในครีมเหล่านี้คือ Dihydroxyacetone (DHA) ซึ่งจะถูกดูดซึมทางผิวหนัง การได้รับสารนี้ที่ผิวหนังจะทำให้ร่างกายดูดซึมและผ่านเข้าสู่ทารกได้ โดยปริมาณที่ผ่านเข้าไปนั้นมีความแตกต่างกันขึ้นกับปริมาณที่ใช้ ความถี่ และผิวหนังมีแผลเปิดหรือไม่ นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังไม่ช่วยป้องกันรังสี Ultraviolet จากแสงแดด ดังนั้นจึงยังต้องมีการใช้ครีมกันแดดร่วมกับการใช้ครีมเหล่านี้เพื่อให้มีการป้องกัน
คำแนะนำที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการถูกแสงแดดในผู้หญิงตั้งครรภ์
คำถามที่ใหญ่ที่สุดในช่วงสุดท้ายก็คือคำถามที่ต้องการคำตอบตามแต่ละบุคคล เพราะแม้ว่าจะมีงานวิจัยและคำเตือนออกมาหลายปีแต่ก็ยังมีคนหลายล้านคนที่ชื่นชอบการอาบแดด และในกลุ่มคนเหล่านี้ก็มักจะพบว่าการตั้งครรภ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความชอบของพวกเขา ดังนั้นการทำความเข้าใจกับข้อควรระวังและความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
ข้อควรระวังที่สำคัญที่สุดก็คือต้องดื่มน้ำให้เพียงพอและจำกัดการออกแดดให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไปและใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการทำลายผิวหนังของคุณ
- หลีกเลี่ยงช่วงกลางวัน
- ใส่เสื้อผ้าที่เบา สบาย คลุมผิวหนัง
- สวมหมวกขนาดใหญ่และแว่นกันแดดเพื่อป้องกันตา หู และใบหน้า
- ทาครีมกันแดดที่เหมาะสมและได้รับอนุมัติให้ใช้ระหว่างการตั้งครรภ์
ปรึกษาแพทย์หรือผดุงครรภ์เกี่ยวกับการรับประทานวิตามินดีเสริม