กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

โรคงูสวัดในเด็ก

โรคงูสวัดในทารก เด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น อาการเป็นอย่างไร รักษายังไง ป้องกันได้อย่างไรบ้าง
เผยแพร่ครั้งแรก 7 เม.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 2020 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที
โรคงูสวัดในเด็ก

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • โรคงูสวัดในเด็กมีสาเหตุหลักมาจากมารดาติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระหว่างตั้งครรภ์ ร่วมกับเด็กไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรค และมีภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ
  • อาการโรคงูสวัดในหญิงตั้งครรภ์มักไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กทารก แต่หากมารดาป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกัน เด็กทารกจะมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • การดูแลผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคงูสวัดโดยหลักๆ คือ การรับประทานยาต้านเชื้อกับยารักษาอาการอื่นๆ และดูแลแผลผื่นพุพองของเด็กที่ตกสะเก็ดให้สะอาด ปิดแผลให้มิดชิด ควรให้เด็กหยุดเรียน และพักผ่อนให้เพียงพอจนกว่าแผลตกสะเก็ดจะแห้งสนิท
  • วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดโรคงูสวัดได้ สามารถให้เด็กเข้ามารับการฉีดได้ตั้งแต่อายุ 12-18 เดือน ส่วนวัคซีนป้องงูสวัดยังไม่จำเป็นต้องฉีด เพราะมักถูกแนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุมากว่า
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด

โรคงูสวัดในเด็ก แม้จะพบได้ไม่บ่อย และมักไม่มีอาการรุนแรงอย่างงูสวัดในผู้ใหญ่ แต่ก็เป็นโรคที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย

เนื่องจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดงูสวัด และอีสุกอีใสเป็นชนิดเดียวกัน ทำให้เด็กๆ ที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน เสี่ยงเป็นโรคงูสวัดได้ในวันหน้า งูสวัดเกิดจากอะไร ป้องกันและรักษาอย่างไร คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ไว้เพื่อป้องกันลูกน้อยให้ปลอดภัยจากโรคนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ฉีดวัคซีนงูสวัดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 4292 บาท ลดสูงสุดถึง 655 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ความหมายของโรคงูสวัด

โรคงูสวัด (Shingles) เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella Zoster Virus: VZV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส

โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้หลังจากก่อโรคอีสุกอีใสในผู้ป่วยคนใดคนหนึ่งแล้ว เมื่อผู้ป่วยหายจากโรคจนเป็นปกติ เชื้อไวรัสชนิดนี้จะยังไม่หายไปในทันที แต่จะยังซ่อนตัวอยู่ในปมประสาท

เมื่อไรที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง อ่อนเพลีย อายุมากขึ้น ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม หรือมีโรคประจำตัว เชื้อไวรัสชนิดนี้ก็จะออกมาจากปมประสาท และก่อโรคงูสวัดขึ้น

และถึงแม้คุณจะไม่เคยป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส แต่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาก่อน ก็ยังมีความเสี่ยงที่คุณจะป่วยเป็นโรคงูสวัดได้

กล่าวคือ ไม่ว่าคุณจะเคยเป็นโรคอีสุกอีใสหรือไม่ หรือเคยได้รับวัคซีนป้องกันมาก่อนแล้ว ก็ล้วนมีความเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดกันได้ทั้งนั้น เพียงแต่ระดับความเสี่ยงจะต่างกันเท่านั้น

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคงูสวัดในเด็ก

โรคงูสวัดมักเกิดขึ้นกับเด็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และมีความเสี่ยงสูง เช่นเด็กที่มีภาวะต่อไปนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ฉีดวัคซีนงูสวัดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 4292 บาท ลดสูงสุดถึง 655 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

  • เคยเป็นโรคอีสุกอีใสก่อน 1 ขวบ
  • แม่ของเด็กเป็นโรคอีสุกอีใสในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์
  • เด็กป่วยเป็นโรคที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ติดเชื้อเอชไอวี มะเร็ง 
  • มีโรคประจำตัวที่ต้องใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ยาสเตียรอยด์ หรือยากดภูมิคุ้มกัน

นอกจากนี้เด็กแรกเกิด หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ควรอยู่ให้ห่างจากผู้ป่วยโรคงูสวัดและโรคอีสุกอีใสไว้เป็นดีที่สุด เพราะจะเสี่ยงติดเชื้อ โดยอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และถึงขั้นเสียชีวิตได้

อาการโรคงูสวัดในเด็ก

อาการของโรคงูสวัดในเด็กไม่แตกต่างไปจากอาการของผู้ป่วยโรคงูสวัดวัยอื่นนัก โดยลำดับอาการมีดังต่อไปนี้

  • ผู้ป่วยอาจรู้สึกชา ปวดเสียว รู้สึกคันตามร่างกายบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ผู้ป่วยเด็กโรคงูสวัดมักไม่มีอาการเจ็บปวดผิวหนังเหมือนผู้ป่วยวัยอื่น
  • ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ หรืออาจเพียงภายใน 2-3 วัน จะเริ่มมีผื่นแดงขึ้นตามร่างกายซีกใดซีกหนึ่ง โดยผื่นอาจมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ หรืออาจเป็นแถบผื่นกว้าง ยาว ตำแหน่งของร่างกายที่ผื่นขึ้น คือ แนวเส้นประสาทที่เชื้อไวรัสซ่อนตัวอยู่
  • ผื่นแดงเริ่มเปลี่ยนเป็นตุ่มพุพอง มีหนองอยู่ข้างในคล้ายตุ่มน้ำในโรคอีสุกอีใส ร่วมกับมีอาการระคายเคืองผิวหนัง
  • ตุ่มพุพองกระจายตัวไปทั่วพื้นที่ที่มีผื่นแดง แต่จะไม่ลุกลามไปที่ร่างกายอีกซีกหนึ่ง
  • ตุ่มพุพองเริ่มแตก และของเหลวข้างในจะไหลออกมาจนแผลกลายเป็นแผลแห้งตกสะเก็ด ซึ่งถือเป็นระยะสุดท้ายของการเกิดผื่นแล้ว แต่อาการเจ็บแสบ ระคายเคืองผิวหนังจะยังคงอยู่กับผู้ป่วยเป็นเดือน หรือเป็นปี

ในช่วงที่เกิดอาการผื่น และตุ่มพุพองเด็กอาจมีอาการไข้ขึ้น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ และปวดแสบตามตุ่มผื่นด้วย

อาการแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดในเด็กจะเหมือนกับกลุ่มผู้ป่วยโรคงูสวัดวัยอื่นๆ แต่มักพบได้น้อยกว่า โดยหากผื่นงูสวัดขึ้นบริเวณใดของร่างกาย บริเวณนั้นก็เสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายหนัก เช่น

  • หากเกิดผื่นที่ดวงตา ก็เสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อดวงตา และกระจกตาจนตาบอด เกิดอัมพาตครึ่งหน้า ไม่สามารถเคี้ยวอาหาร หรือหลับตาได้ตามปกติ
  • หากเกิดผื่นที่หู ก็เสี่ยงที่การได้ยินจะลดลง หรืออาจสูญเสียการได้ยินไปเลย รวมถึงเสียการทรงตัวด้วย

นอกจากนี้หลังจากผื่นโรคงูสวัดหายดีแล้วแล้ว เด็กอาจยังคงรู้สึกเจ็บตามแนวเส้นประสาทที่เกิดผื่นงูสวัดได้ โดยอาการนี้จะเรียกว่า “อาการปวดปลายประสาทหลังจากเป็นงูสวัด (Postherpetic neuralgia)”

โรคงูสวัดในเด็กทารก

หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่เคยป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน หรือไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสเลย คือ กลุ่มเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคงูสวัดในระหว่างตั้งครรภ์ได้ผ่านการติดเชื้อไวรัสจากผู้อื่นในขณะที่ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอขณะตั้งครรภ์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ฉีดวัคซีนงูสวัดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 4292 บาท ลดสูงสุดถึง 655 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

อย่างไรก็ตาม อาการของโรคงูสวัดในหญิงตั้งครรภ์มักไม่รุนแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทารก แต่หากหญิงตั้งครรภ์รายนั้นป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสแทน นั่นถือเป็นสัญญาณอันตรายมากกว่าโรคงูสวัดเสียอีก

เพราะอาการของโรคงูสวัดในหญิงตั้งครรภ์จะไม่แตกต่างจากอาการของผู้ป่วยทั่วไป รวมถึงมีระยะเวลาของโรคประมาณ 2-4 สัปดาห์ก็อาการดีขึ้นแล้ว แต่โรคอีสุกอีใสในหญิงตั้งครรภ์สามารถทำให้ทารกในครรภ์เกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมาย เช่น

  • เป็นโรคอีสุกอีใสแต่กำเนิด (Foetal varicella syndrome) มักพบในทารกที่มารดาป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้าย
  • ต้องคลอดก่อนกำเนิด
  • ติดเชื้ออีสุกอีใสชนิดรุนแรงจนเสียชีวิต พบมากในเด็กทารกที่มารดาป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสก่อน หรือหลังคลอด 7 วัน

ดังนั้นอาการของโรคงูสวัดในเด็กทารกจึงไม่รุนแรงเท่าโรคอีสุกอีใสซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกัน

ผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตรจึงต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัส VZV ในระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันไม่ให้การตั้งครรภ์มีอันตราย

โรคงูสวัดในเด็กเล็ก

เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ และเด็กที่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับสุขภาพบางอย่าง คือ กลุ่มเด็กที่เสี่ยงเป็นโรคงูสวัดได้ง่ายกว่าเด็กปกติทั่วไป โดยมีสาเหตุหลักดังต่อไปนี้

  • ยังไม่เคยรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาก่อน
  • มีภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ร่างกายไม่แข็งแรง
  • ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เป็นโรคมะเร็ง เป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง
  • ต้องรักษาโรคประจำตัวซึ่งวิธีรักษานั้นส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เช่น ยาสเตียรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกัน การใช้รังสีรักษา หรือทำเคมีบำบัดรักษาโรคมะเร็ง
  • มารดาป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์
  • เคยเป็นโรคอีสุกอีใสก่อนอายุ 1 ขวบ

อย่างไรก็ตาม เด็กเล็กที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสเรียบร้อยแล้ว ก็ยังเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดได้อยู่ แต่ความเสี่ยงค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย และความเสี่ยงนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น

ทางที่ดี คุณควรให้เด็กในบ้านไปรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว

เมื่อไรควรพาลูกไปพบแพทย์?

คุณควรพาลูกไปพบแพทย์ หากพบว่ามีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้

  • มีผื่นขึ้นตามใบหน้า หรือรอบดวงตา เพราะเด็กเสี่ยงตาบอด หรือเป็นโรคแทรกซ้อนรุนแรงในดวงตา
  • เด็กมีไข้สูง รับประทานยาแล้วไข้ไม่ลด
  • เด็กร้องว่า ผื่นทำให้รู้สึกคัน และเจ็บปวด
  • สังเกตเห็นผื่น หรือตุ่มพุพองที่คาดว่า อาจเกิดจากงูสวัด
  • ตุ่มผื่นเกิดขึ้นนานกว่า 2 สัปดาห์
  • ตุ่มดูคล้ายมีการติดเชื้อ หรือเด็กมีไข้ร่วมด้วย

วิธีรักษา และดูแลผู้ป่วยเด็กโรคงูสวัด

เมื่อเด็กป่วยเป็นโรคงูสวัด แพทย์จะจ่ายต้านไวรัสร่วมกับยาลดอาการของโรค

ตัวยาจะช่วยลดความรุนแรง และอาการแทรกซ้อนจากโรคได้ดี แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคงูสวัดให้หมดไปได้ เช่น ยาแก้อักเสบ ครีมลดผื่นให้กับผู้ป่วย ยาแก้ปวดชนิดรับประทานอย่างยาพาราเซตามอล โดยยายอดนิยมที่มักใช้รักษาโรคงูสวัด คือ ยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir)

ส่วนวิธีดูแลแผลโรคงูสวัดก็ไม่ได้แตกต่างไปจากการดูแลแผลของผู้ป่วยวัยอื่นๆ เช่น

  • หมั่นทำความสะอาดแผลผู้ป่วยให้สะอาด อย่าปล่อยให้อับชื้น โดยให้ใช้สบู่อ่อนๆ หรือน้ำสะอาดก็พอ
  • ไม่เกา หรือแกะแผล เพราะจะยิ่งทำให้เสี่ยงติดเชื้อ
  • ประคบเย็น หรือประคบอุ่นที่แผลเพื่อลดอาการปวด และอักเสบจากผื่น
  • ปิดแผลให้มิดชิดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
  • ให้เด็กใส่เสื้อผ้าสบายๆ ทำจากผ้าใยธรรมชาติ เพื่อลดความระคายเคืองผิวบริเวณที่มีผื่น
  • ใช้ยาทา หรือครีมรักษาแผลตามแพทย์สั่งเท่านั้น อย่าใช้สมุนไพรทาบริเวณแผลเอง เพราะอาจเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียจนแผลหายช้ากว่าเดิม และจะทำให้เด็กมีแผลเป็นตามตัวในภายหลัง
  • ให้เด็กหยุดเรียนจนกว่าแผลจะตกสะเก็ด และแห้งสนิทดี

วิธีป้องกันโรคงูสวัดในเด็ก

หากลูกของคุณยังไม่เคยป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส ให้รีบพาเขาไปรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสเมื่ออายุครบกำหนดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดทั้งโรคอีสุกอีใส และโรคงูสวัดในภายหลัง

โดยอายุเด็กที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโรคอีสุกอีใสเข็มแรกได้ คือ อายุ 12-18 เดือน หรือตอนอายุครบ 1 ขวบก็ได้

และอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ตัววัคซีนอาจป้องกันโรคไม่ได้ 100% แต่ก็ลดความเสี่ยงทำให้เกิดโรคไปได้ถึง 50% และยังทำให้อาการของโรคไม่รุนแรงจนเป็นอันตรายด้วย

อีกทั้งในปัจจุบันได้มีการคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดแยกออกมาจากวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสอีกอย่างด้วย แต่แพทย์มักไม่แนะนำให้ผู้ที่เคยรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดด้วย

อีกทั้งวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดมักแนะนำให้ฉีดในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมากกว่า เด็กๆ ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดมากนัก เนื่องจากโรคงูสวัดในวัยเด็กจะไม่รุนแรงเท่าโรคงูสวัดที่เกิดในวัยผู้ใหญ่

นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยเด็กที่มีอาการภูมิแพ้วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส หรือมีภาวะร่างกายที่ไม่พร้อมต่อการรับวัคซีน เช่น เป็นโรคมะเร็ง ภูมิคุ้มกันร่างกายมีปัญหา ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่พบได้แต่น้อย

ในกรณีนี้ผู้ปกครองอาจต้องปรึกษากับแพทย์เป็นพิเศษ ว่ามีแนวทางป้องกันโรคงูสวัดได้อย่างไร

นอกจากการรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสแล้ว ผู้ปกครองยังต้องดูแลให้เด็กมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เหมาะสม เพื่อให้ภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงด้วย เช่น

  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
  • หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
  • ไม่นอนดึก หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • รักษาสุขอนามัยร่างกายให้สะอาดเป็นประจำ

โรคอีสุกอีใส และโรคงูสวัดเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่สามารถป้องกันได้หากคุณรู้จักศึกษาวิธีรับมือ และป้องกันการเกิดโรคตั้งแต่เนิ่นๆ เพียงเท่านี้ความเสี่ยงของการเกิดโรคก็จะลดลง และอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาของโรคจนทำให้เกิดความเสียต่อร่างกายก็จะไม่เกิดขึ้น

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


20 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Is Shingles Contagious From Person to Person?. Verywell Family. (https://www.verywellfamily.com/is-shingles-contagious-2634655)
Shingles | Transmission - How Spreads | Herpes Zoster. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (https://www.cdc.gov/shingles/about/transmission.html)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)