การปฐมพยาบาลผู้ป่วยในลักษณะนี้ขณะนำส่งโรงพยาบาล อาจช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ เช่นในรายที่ถูกไฟฟ้าช๊อตทำให้ระบบการหายใจหยุดทำงานและหัวใจหยุดเต้น หรือผู้ป่วยที่หยุดหายใจเนื่องมาจากจมน้ำ ตกอยู่ในที่อับอากาศ สำลักควัน หรือสูดก๊าซพิษจนหมดสติ มีวิธีการดำเนินการดังนี้
1. การช่วยหายใจโดยให้ลมหายใจทางปาก (เป่าปาก)
ให้วางคนเจ็บนอนหงายราบ ให้ศีรษะแหงนต่ำ และลำคอยืดออก สอดนิ้วหัวแม่มือเข้าไปในปาก จับขากรรไกล่างยกขึ้นจนปากอ้าง ล้วงเอาสิ่งอื่นใดที่อาจติดค้างอยู่ในปาก และลำคอออกให้หมด เพื่อมิให้ขวางทางลมแล้วบีบจมูกคนเจ็บให้แน่น ทาบปากปิดปากคนเจ็บให้สนิท แล้วเป่าลมเข้าไปเป็นจังหวะประมาณ 12-15 ครั้งต่อนาที หากไม่สามารถอ้าปากคนเจ็บได้ ให้ปิดปากคนเจ็บให้สนิทแล้วป่าลมเข้าทางจมูกแทน ให้ทำการเป่าปากไปเรื่อย ๆ ขณะนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล จนกว่าผู้ป่วยจะฟื้นคืนสติ หรือได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์
2. การนวดหัวใจ
กระทำไปขณะเดียวกับการช่วยหายใจเป่าปาก โดยวางสันมือซ้อนทับกันลงบนทรวงอกบริเวณหัวใจ เหยียดแขนตรงแล้วกดสันมือลงด้วยน้ำหนักตัวเป็นจังหวะ ๆ โดยทำสลับกับการช่วยหายใจ คือเป่าปาก 2 ครั้ง แล้วนวดหัวใจ 15 ครั้ง แล้วกลับไปเป่าปากอีกทำเช่นนี้สลับกันไป จนกว่าผู้ป่วยจะฟื้นคืนสติ หรือได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์
ถ้ามีผู้ช่วยอีกหนึ่งคน ให้คนหนึ่งช่วยหายใจโดยวิธีเป่าปากดังกล่าวแล้ว และอีกคนหนึ่งนวดหัวใจสลับกันไป จนกว่าจะถึงโรงพยาบาลหรือมีแพทย์มาช่วย