ผู้เชี่ยวชาญในด้านการศึกษาแนะนำว่า การอ่านหนังสือให้ฟัง เป็นวิธีปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านอย่างได้ผลที่สุด ไม่ใช่ครูหรือเพื่อนอ่านให้ฟังในชั้นเรียนเท่านั้น ควรเริ่มอ่านดัง ๆ ให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเล็ก ยังไม่รู้หนังสือและยังไม่เข้าเรียน จะอ่านให้ฟังเวลาใดก็ได้ เวลาที่เหมาะที่สุดก็คือก่อนเข้านอน อย่างน้อยวันละสิบหรือสิบห้านาที
พ่อแม่ส่วนใหญ่มักเริ่มพูดกับลูกทารกตั้งแต่ลูกยังไม่รู้ภาษาพูดไปเรื่อย ๆ ลูกจะรับฟังหรือไม่ไม่สำคัญ เช่นเดียวกับการอ่านให้ลูกฟังตังแต่ลูกยังไม่รู้ภาษาย่อมทำได้ พ่อแม่เริ่มพูดกับทารกเมื่อไร ก็เริ่มอ่านหนังสือให้ฟังได้เมื่อนั้น
เริ่มจากการอ่านหนังสือที่มีรูปภาพเป็นส่วนใหญ่ หนังสือทั่งเล่มอาจมีแต่รูปกับคำบรรยายเพียบสองสามประโยค อ่านซ้ำ ๆ หลาย ๆ หนลูกก็ไม่เบื่อ ต่อมาจึงค่อยอ่านเรื่องที่ยากขึ้นและยาวขึ้นลูกก็จะตั้งใจฟัง เมื่ออ่านเป็นประจำจนกลายเป็นกิจวัตร จะพบว่าเป็นเลาที่ลูกรอคอย เป็นเวลาที่สงบ ลูกมักจะไม่ร้องกวน อ่านเพียงครู่เดียวลูกก็จะเริ่มง่วงผล็อยหลับไป ไม่มีปัญหาเรื่องการนอน
ในยุคที่พ่อและแม่ต้องทำงานนอกบ้านทั้งสองคน ในแต่ลันมีเวลาอยู่กับลุกน้อยมาก ควรปลีกเวลามาอ่านหนังสือให้ฟังก่อนนอน จะเป็นเวลาที่มีคุณภาพ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกดีขึ้น พ่อและแม่ผลัดกันอ่าน ไม่ยกให้เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่งแต่เพียงคนเดี่ยว ในวันใดที่ทั้งพ่อและแม่ไม่ว่าง อาจอัดเทปไว้ล่วงหน้า เปิดให้ลูกฟังแทน คุณย่าคุณยายหรือพี่ป้าน้าอาที่ไม่โอกาสใกล้ชิดลูกหลาน อาจอ่านเรื่องใส่เทปแล้ส่งทั้งหนังสือและเทปไปให้ จะช่วยให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดขึ้น
การอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเล็ก ช่วยหัดให้ลูกมีสมาธิเพราะตั้งอกตั้งใจฟัง นั่งหรือนอนนิ่ง ๆ อยู่ได้เป็นเวลานาน ทั้งช่วยให้ลูกเกิดจินตนาการนึกวาดภาพติดตามเรื่องราวไปได้เองในใจ ช่วยลูกให้เรียนรู้ภาษาได้เร็ว รู้จักศัพท์แสง รู้จักการใช้ถ้อยคำและสำนวน เริ่มรู้รสของภาษาตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อลูกเข้าเรียนมักจะมีความรู้เรื่องภาษาออกหน้าเพื่อนฝูง
ในตอนแรก
พ่อแม่จะเป็นผู้เลือกหนังสือหรือเรื่องที่จะอ่านประจำวัน เมื่อลูกโนขึ้น ลูกและผู้ใหญ่อาจจะช่วยกันเลือก บางครั้งลูกอาจจะเรียกร้องขออ่านหนังสือที่ผู้ใหญ่อ่าน ไม่เกี่ยงขออ่านเฉพาะเรื่องของลูกอีกต่อไป เมื่อลูกอ่านหนังสือคล่องแล้ว อาจอ่านเองล่วงหน้าไปก่อน แล้วนำมาเล่าต่อให้พ่อแม่ฟัง หรือลูกอาจอาสาอ่านให้พ่อแม่ฟังแทนก็ได้ เลาที่อ่านหนังสือด้วยกันนี้จึงเป็นโอกาสให้พ่อแม่ได้สอดแทรกความคิดเห็น แนะศีลธรรมและจรรยามารยาทไปได้ในตัว
จะเห็นได้ว่า การปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ เพียงสละเวลาวันละไม่กี่นาทีจะมีผลให้ลูกรักการอ่านอย่างถาวรต่อไปภายหน้า ถ้าไม่เริ่มต้นเสียตั้งแต่วันนี้ อาจจะสายเกินไป