ลีน่าร์ กาซอ
เขียนโดย
ลีน่าร์ กาซอ

ถั่วพิสตาชิโอ ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อคนรักสุขภาพ

ถั่วที่ไม่เหมือนถั่วทั่วไป สารอาหารสูงมาก แต่รับประทานมากจะอ้วนหรือเปล่า?
เผยแพร่ครั้งแรก 25 มิ.ย. 2020 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
ถั่วพิสตาชิโอ ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อคนรักสุขภาพ

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • พิสตาชิโอเป็นเมล็ดจากต้นพิสตาชิโอที่มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศอิหร่าน มีได้หลายสี ตั้งแต่เหลืองไปจนถึงเขียว
  • ถั่วพิสตาชิโอ 28 กรัม หรือประมาณ 49 เม็ด ให้พลังงาน 159 กิโลแคลอรี และมีสารอาหารอื่นๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ โปรตีน ไขมัน และวิตามินบี6 สูง
  • สรรพคุณของพิสตาชิโอมีสามารถลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ข้อควรระวังของถั่วพิสตาชิโอคือ ส่วนมากมักทำมาในรูปแบบคั่วเกลือ พิสตาชิโอคั่ว 1 ถ้วยอาจมีโซเดียมถึง 526 กรัม
  • ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพได้ที่นี่

ถั่วพิสตาชิโอ (Pistachio) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Pistacia vera L. ถึงจะถูกเรียกว่าเป็นถั่ว แต่ความจริงพิสตาชิโอเป็นเมล็ดจากต้นพิสตาชิโอที่มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศอิหร่าน ก่อนจะกระจายไปในประเทศอื่นๆ ไม่ได้เป็นไม้ล้มลุกเหมือนพืชตระกูลถั่วทั่วไป

แม้เรามักจะคุ้นเคยกับถั่วพิสตาชิโอสีเขียว แต่จริงๆ แล้วเมล็ดพิสตาชิโอมีได้หลายสี ตั้งแต่เฉดสีเหลืองไปจนถึงสีเขียว มักยาวประมาณ 1 นิ้ว มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว เปลือกหุ้มสีขาวค่อนข้างแข็งมาก จึงควรอบก่อนแกะเปลือกออก หรือหากอบแล้วเปลือกไม่เปิดจะต้องใช้อุปกรณ์ทุบ

สารอาหารจากถั่วพิสตาชิโอ

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture: USDA) ระบุว่า ถั่วพิสตาชิโอ 1 ออนซ์ (28 กรัม) หรือประมาณ 49 เม็ด มีสารอาหารดังนี้

  • แคลอรี 159 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 8 กรัม
  • ไฟเบอร์ 3 กรัม
  • โปรตีน 6 กรัม
  • ไขมัน 13 กรัม (เป็นไขมันไม่อิ่มตัว 90%)
  • โพแทสเซียม 6% จากปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
  • ฟอสฟอรัส 11% จากปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
  • วิตามินบี6 28% จากปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
  • ไทอามีน 21% จากปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
  • ทองแดง 41% จากปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
  • แมงกานีส 15% จากปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน

ประโยชน์ของถั่วพิสตาชิโอ

นักโบราณคดีเชื่อว่า พิสตาชิโอกลายมาเป็นอาหารตั้งแต่ช่วง 7,000 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงปัจจุบัน และเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

มีงานวิจัยบางส่วนที่สนับสนุนสรรพคุณของพิสตาชิโอ ดังนี้

  • สารอาหารสูง ทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ นอกจากนี้ ถั่วพิสตาชิโอยังเป็นหนึ่งในอาหารที่มีวิตามินบี6 มากที่สุด และถั่วพิสตาชิโอเพียง 1 ออนซ์ มีโพแทสเซียมมากกว่ามีส่วนกล้วยผลใหญ่ครึ่งผล
  • แคลอรีต่ำ พิสตาชิโอถือเป็นหนึ่งในถั่วที่แคลอรีต่ำที่สุด โดยปริมาณ 1 ออนซ์หรือ 28 กรัมมีแคลอรีเพียง 159 กิโลแคลอรี ขณะที่แมคคาเดเมียมี 204 กิโลแคลอรี พีแคนส์มี 196 กิโลแคลอรี หรือวอลนัทที่มี 185 กิโลแคลอรี
  • ลดความเสี่ยงมะเร็ง พิสตาชิโอมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าถั่วชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแกมมา-โทโคฟีรอล ไฟโตสเตอรอล และแซนโทฟิลล์ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งและป้องกันไม่ให้เซลล์ในร่างกายเสียหาย
  • บำรุงสุขภาพตา สารลูทีนและซีแซนทีนในพิสตาชิโอช่วยลดโอกาสการเปิดปัญหาทางสายตา เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจก
  • กระตุ้นการทำงานระบบทางเดินอาหาร เพราะมีไฟเบอร์สูง เช่นเดียวกับถั่วชนิดอื่นๆ
  • โปรตีนสูง พิสตาชิโอมีโปรตีนปรมาณ 21% ของน้ำหนักถั่ว ทำให้เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ และยังมีกรดอะมิโนสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ซึ่งกรดอะมิโนทำหน้าที่เป็นหน่วยโครงสร้างของโปรตีน
  • ช่วยลดน้ำหนัก แม้จะเป็นอาหารพลังงานสูง แต่ถั่วก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีสำหรับการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะพิสตาชิโอที่มีไฟเบอร์และโปรตีนสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้นและช่วยให้รับประทานอาหารน้อยลง

ข้อควรระวังในการบริโภคถั่วพิสตาชิโอ

แม้ถั่วพิสตาชิโอดิบจะมีสารอาหารสูงมาก แต่ควรระวังการรับประทานถั่วพิสตาชิโอแบบคั่วที่มักเป็นการคั่วเกลือ เพราะการรับประทานเกลือในปริมาณมากหมายถึงการรับประทานโซเดียมมากกว่าที่ร่างกายต้องการ โดยถั่วพิสตาชิโอคั่ว 1 ถ้วยอาจมีโซเดียมถึง 526 กรัม

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชันล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Jayne Leonard, What are the benefits of pistachios? (https://www.medicalnewstoday.com/articles/322899#myths-about-pistachios), 29 August 2018.
Webmd, Health Benefits of Pistachios (https://www.webmd.com/food-recipes/benefits-pistachios#1)
Audur Benediktsdottir, 9 Health Benefits of Pistachios (https://www.healthline.com/nutrition/9-benefits-of-pistachios#2), 23 October 2019.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)