ในชนบทที่ไม่มีแพทย์ พยาบาลหรือผู้รู้จักการพยาบาลผู้ถูกงูพิษกัด ผู้ป่วยถูกงูพิษกัดมักเสียชีวิตลงในเวลาอันสั้น การรู้จักการพยาบาลผู้ถูกงูพิษกัดจึงมีความสำคัญ เพราะการช่วยเหลือเบื้องต้นนี้สามารถช่วยชีวิต และลดการทุพพลภาพได้
งูพิษในประเทศไทยที่สำคัญมี งูจงอาง งูเห่า งูสามเหลี่ยม งูแมวเซา งูกะปะ งูเขียวหางไหม้ และงูทะเล
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ลักษณะที่สำคัญของงูพิษ หากไม่รู้จักชนิดของงูพิษ แต่สามารถจับได้ หรือตีงูตัวที่กัดนั้นไว้ให้ใช้ไม้เล็ก ๆ สอดเข้าไปในปาก และกวาดไม้ออกมาโดยให้ไม้นั้นเชิดเพดานปากด้านบน เพื่อดูลักษณะของเขี้ยวบน ถ้าเป็นงูพิษแถวฟันบนจะมี 2 เขี้ยวยาวดังรูป ถ้างูไม่มีพิษ จะมีลักษณะฟันบนเรียบเสมอกันเป็นแถวไม่มีเขี้ยว
ลักษณะของบาดแผลจากงูพิษกัดจะพบมีรอยเขี้ยว 1-2 รอย มีเลือดไหลซึมจากรอยเขี้ยวตลอดเวลา และพบมีอาการปวดบวมแดง มีถุงน้ำเลือดรอบรอยเขี้ยว และลุกลามออกอย่างรวดเร็วอาจพบรอยเขี้ยวและมีอาการชารอบ ๆ รอยเขี้ยว และมีอาการหนังตาตกลืมตาไม่ขึ้นร่วมด้วย
การพยาบาลผู้ป่วยถูกงูพิษกัด
การพยาบาลผู้ป่วยถูกงูพิษกัด ในผู้ป่วยที่ไม่รู้จักชนิดของงูและไม่สามารถจะจับหรือตีงูตัวที่กัดมาตรวจดูได้และกรณีที่มีลักษณะแผลไม่บ่งชัดว่างูพิษหรือไม่ ผู้ป่วยเหล่านี้ควรจะได้รับการพยาบาลเช่นเดียวกับผู้ป่วยถูกงูพิษกัดทุกราย
- ใช้สายรัด รัดแขนหรือขา เหนือบริเวณถูกงูกัดราว 6 นิ้ว (ระหว่างแผลกับหัวใจ) รัดไว้นาน 15 นาที และคลายออก 1 นาที สลับกันไปเรื่อย ๆ
- ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่สะอาด
- นำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล