หูดข้าวสุก (Molluscum Contagiosum) มีรอยโรคเล็กๆ คล้ายสิวบริเวณผิวหนังชั้นนอก หูดข้าวสุกพบได้ตั้งแต่ทารก เด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
สำหรับผู้ใหญ่โดยทั่วไปแล้วสามารถหายได้เอง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในตัวเราจะกำจัดไวรัสชนิดนี้ได้ภายใน 6-12 เดือนแม้ไม่ได้รักษา แต่สำหรับทารก และเด็กที่มีอายุระหว่าง 1-10 ปี หากติดเชื้อจะมีผลกระทบมากเนื่องจากยังมีภูมิต้านทานโรคน้อย
ตรวจ STD วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 76%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หูดข้าวสุกเกิดจากเชื้อไวรัสที่อาศัยอยู่ที่ผิวหนังชั้นนอก ไม่ได้เข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือด หรือประสาท คุณสามารถติดเชื้อนี้ได้ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์และยังสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสกับรอยโรค การใช้เสื้อผ้า หรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน โดยไม่ว่าจะผู้ใหญ่ หรือเด็กสามารถติดเชื้อหูดข้าวสุกได้
อาการของโรคหูดข้าวสุกคือ เป็นตุ่มสีเนื้อที่ผิวหนัง ขนาดเล็ก โดยทั่วไปไม่มีอาการเจ็บ แต่บางครั้งอาจมีอาการผื่นแดงคัน หรือบวมร่วมด้วยได้
สาเหตุการเกิดหูดข้าวสุก
โรคหูดข้าวสุกเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มพอกซ์วิริเด (Poxviridae) ซึ่งเป็นไวรัสตระกูลเดียวกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้ทรพิษ โดยรายงานของสถาบันโรคผิวหนังแห่งสหรัฐอเมริกา (ACD) พบว่า ไวรัสชนิดนี้เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่อุ่นและชื้น
หากคุณอาศัยอยู่ในภูมิอากาศร้อนชื้น แล้วเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (ประเภทของผื่นผิวหนังอักเสบที่พบได้บ่อยที่สุด) หรือมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ เช่น เป็น HIV หรือ AIDS คุณจะมีความเสี่ยงการเป็นโรคหูดข้าวสุกเพิ่มขึ้นกว่าคนทั่วไป
ตัวไวรัสอาศัยอยู่ในผิวหนังกำพร้า หรือชั้นผิวหนังนอกสุด หลังจากติดเชื้อประมาณ 7 สัปดาห์ มีลักษณะรอยโรค ดังนี้
- เริ่มจากมีจุดสีแดง
- กลายเป็นตุ่มเล็กๆ สีแดง เส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยอยู่ที่ 3 - 5 มิลลิเมตร และอาจมีตุ่มคล้ายมีสารสีขาวๆ อยู่ข้างใน
- บางตุ่มอาจมีรอยบุ๋มตรงกลาง ถ้าหากบีบ หรือเกิดอาการระคายเคืองอาจทำให้มีน้ำหนองสีขาวเหนียว หรือเทาไหลซึมออกมา
หูดข้าวสุกสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทั่วร่างกายโดยเฉพาะบนใบหน้า คอ แขน ขา ท้อง และบริเวณอวัยวะเพศ น้อยครั้งที่จะเกิดขึ้นบนฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า โดยทั่วไปแล้วมักจะไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อาจเกิดอาการคัน เจ็บ และอักเสบ (มีรอยแดงและบวม) ได้ โดยเฉพาะเมื่อเกา
ตรวจ STD วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 76%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หูดข้าวสุกเป็นโรคติดต่อหรือไม่?
หูดข้าวสุกเป็นโรคติดต่อที่ติดได้ง่ายผ่านการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคนี้ ผู้ใหญ่หลายรายติดเชื้อนี้ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์แต่ก็สามารถติดต่อผ่านช่องทางอื่นๆ ได้ด้วย โดยเฉพาะการสัมผัสผิวหนังบริเวณรอยโรคโดยตรง หรือจากการสัมผัสเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือของเล่น
นอกจากนี้โรคหูดข้าวสุกอาจกระจายไปที่บริเวณอื่นของร่างกายผ่านการเกา หรือสัมผัสได้ด้วย เด็กจะติดโรคหูดข้าวสุกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่จากการสัมผัสรอยโรคของคนอื่น หรือการเล่นของเล่นร่วมกับเด็กที่เป็นโรค ตุ่มหูดข้าวสุกในเด็กมักขึ้นที่บริเวณท้อง แขน ขา หรือใบหน้า แต่ไม่ใช่ที่อวัยวะเพศ
การรักษาหูดข้าวสุก
แม้ว่า ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงหากเป็นหูดข้าวสุกจะสามารถหายไปเองในระยะเวลา 6-12 เดือน แต่ไม่แนะนำให้ปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา
รายงานของสถาบันโรคผิวหนังแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่า การรักษาสามารถช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสไปยังผู้อื่นและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย รวมถึงควบคุมการแพร่เชื้อในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้
อีกทั้งรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค กล่าวว่า หากผู้ที่มีรอยโรคบริเวณอวัยวะเพศเป็นหูดข้าวสุกแนะนำให้รักษาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โดยมีแนวทางการรักษาดังนี้
- การผ่าตัดด้วยความเย็น (ใช้ความเย็นของไนโตรเจนเหลวจี้) เป็นการรักษาหลัก แพทย์จะนัดมาทำทุกสัปดาห์จนหาย
- การรักษาด้วยเลเซอร์
- การขูดเนื้อเยื่อ (ขูดเอาตุ่มออกด้วยเครื่องมือพิเศษ)
- การใช้ยาทา ที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์ หรือที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ครีมโพโดฟิลโลทอกซิน (Podophyllotoxin) ไอโอดีน และกรดซาลิกไซลิก โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (Potassium hydroxid) หรือ ยาต้านไวรัส
- ยารับประทาน เช่น ไคเมทิดีน (Cimetidine)
ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น มักไม่ตอบสนองต่อทางเลือกการรักษาหูดข้าวสุกแบบทั่วไป สำหรับคนเหล่านี้ การรักษามักเน้นในเรื่องทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงมากกว่า เช่น กับการฉีด interferon (สารกระตุ้นภูมิ) ในการรักษา
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การป้องกันหูดข้าวสุก
การรักษาสุขอนามัยที่ดี สามารถช่วยให้คุณอยู่ห่างจากการได้รับเชื้อ หรือแพร่กระจายเชื้อหูดข้าวสุกสู่ผู้อื่น
- รักษามือให้สะอาด
- ละเว้นการจับ แกะ หรือถูบริเวณรอยโรค
- ปิดรอยโรคด้วยผ้า หรือผ้าพันแผล
- อย่าใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ร่วมกับผู้อื่น
- อย่าลงเล่นกีฬาที่ต้องใช้การสัมผัสร่างกายโดยเฉพาะมวยปล้ำถ้าคุณมีการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระ ยกเว้นถ้าคุณแปะพลาสเตอร์กันน้ำบริเวณรอยโรค
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ถ้าคุณมีรอยโรคบริเวณอวัยวะเพศ
- อย่าโกน หรือทำกระบวนการ electrolysis (กระบวนการผ่านกระแสไฟฟ้าจากภายนอกเข้าไปในสารละลายอิเล็กโทรไลต์ แล้วทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี) ในส่วนของร่างกายที่มีรอยโรค
หูดข้าวสุก เป็นโรคติดเชื้อไวรัสทางผิวหนัง แม้ว่าในผู้ใหญ่จะสามารถหายได้เองภายใน 6-12 เดือน แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะโรคสามารถแพร่กระจายได้ผ่านการสัมผัส หรือการมีเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และเข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
เป็นหูดข้าวสุกที่อวัยวะเพศครับ เคยทำการรักษาด้วยวิธีจี้ด้วยไนโตรเจน เลเซอร์co2 หลายครั้ง ก้ยังมีตุ่มขึ้นอยู่ครับ อยากทราบวิธีให้หายขาด แล้วควรรักษา รพ. ไหนดีครับในกรุงเทพ ที่มีหมอเฉพาะทาง แนะนำด้วยครับ