การตั้งครรภ์อาจเป็นเป้าหมายและความฝันของคู่รักหลายๆ คน แต่ขณะเดียวกัน การตั้งครรภ์ก็เป็นสิ่งที่คู่รักอีกหลายคู่ไม่คาดคิด และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเช่นกัน เนื่องจากความไม่พร้อมหลายอย่าง เช่น ยังเรียนไม่จบ ฐานะทางการเงินไม่อำนวย มีปัญหาภายในครอบครัว การตั้งครรภ์จากอาชญากรรมทางเพศ
กรณีที่การตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้ขึ้น หลายคนจึงเลือกที่จะยุติการตั้งครรภ์ หรือที่เรียกทั่วไปว่า “การทำแท้ง” นั่นเอง
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ความหมายของการทำแท้ง
การทำแท้ง (Induced abortion) คือ การทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลง ผ่านกระบวนการทางการแพทย์เพื่อให้ทารกหยุดการเจริญเติบโต และหยุดมีชีวิตก่อนที่จะคลอดออกมา
หลายคนอาจคิดว่า การทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม แต่ความจริงแล้วในหลายๆ ประเทศได้เล็งเห็นเหตุผลและความจำเป็นของผู้ต้้งครรภ์ ที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์จึงมีกฎหมายอนุญาตให้สามารถทำแท้งได้อย่างเสรี เช่น สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ สเปน เนปาล
ส่วนกฎหมายในประเทศไทยนั้นยังไม่เปิดให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้อย่างเสรี และการทำแท้งเองถือเป็นเรื่องผิดจารีต ประเพณี รวมถึงไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม
อย่างไรก็ตาม หากหญิงตั้งครรภ์คนใดที่ประสงค์จะทำแท้ง จะต้องยื่นเรื่องให้แพทย์พิจารณาถึงสาเหตุที่ต้องการทำแท้ง ปัจจุบันเหตุผลเดียวที่สามารถให้หญิงตั้งครรภ์สามารถทำแท้งได้ก็คือ การตั้งครรภ์นั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของหญิงที่อุ้มครรภ์
หลายคนอาจสงสัยอีกว่า แล้วหากผู้หญิงตั้งครรภ์ต้องการทำแท้งเพราะกังวลเรื่องสุขภาพของทารกในครรภ์ว่า อาจเกิดมาพิการ หรือการเจริญเติบโตผิดปกติ จะสามารถทำได้หรือไม่?
คำตอบคือ แพทย์จะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไปว่า จะทำแท้งได้หรือไม่นั้น แล้วแต่ผลการตรวจสุขภาพทั้งแม่และเด็ก รวมถึงการวินิจฉัยการตั้งครรภ์อย่างละเอียดแล้ว เช่น หากการเจริญเติบโตของทารกไม่สมบูรณ์ หรือการตั้งครรภ์เสี่ยงส่งผลเสียต่อสุขภาพของแม่ ก็อาจพิจารณาให้ทำแท้งได้
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ประเภทของการทำแท้ง
การทำแท้งแบ่งออกได้หลักๆ 2 วิธี ได้แก่
- การทำแท้งด้วยการใช้ยา (Medical abortion) เป็นการทำแท้งผ่านการใช้ยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์ แต่หากอายุครรภ์มากกว่านั้นก็สามารถใช้ได้ แต่โอกาสยุติการตั้งครรภ์สำเร็จจะต่ำลง และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนมากขึ้น
- การทำแท้งด้วยการศัลยกรรม (Surgical abortion) เป็นการทำแท้งผ่านการทำหัตถการกับแพทย์เพื่อยุติการตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 14 สัปดาห์ โดยปกติมักเป็นการใช้กระบอกสุญญากาศดูดเอาเนื้อเยื่อซึ่งหมายถึงตัวทารกออกมาจากมดลูก
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการทำแท้งด้วยยาว่า มียาทำแท้งชนิดใดที่ถูกกฎหมายประเทศไทยบ้าง รวมถึงข้อควรระวังที่ควรรู้
ยาทำแท้งที่ถูกกฎหมาย
ยาทำแท้งถูกกฎหมายในประเทศไทยจะต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น โดยยาทำแท้งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายแล้ว จะได้แก่
1. ยามิฟิพริสโตน
ยามิฟิพริสโตน (Mifepristone) เป็นยายับยั้งการทำงานของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Anti-progesterone) ทำให้ผนังมดลูกไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อน และทำให้ปากมดลูกเปิดขยายตัว โดยปกติเป็นยาในรูปแบบยาเม็ดรับประทาน
2. ยาไมโซพรอสตอล
ยาไมโซพรอสตอล (Misoprostol) เป็นยาเพิ่มการหดรัด และบีบตัวของมดลูก ทำให้ปากมดลูกนิ่ม และขับตัวอ่อนออกมา ยามี 3 รูปแบบ คือ แบบสอดช่องคลอด แบบอมเม็ดยาไว้ใต้ลิ้น และแบบอมเม็ดยาไว้ที่กระพุ้งแก้ม
การทำแท้งด้วยยามักจะเป็นการใช้ยามิฟิพริสโตนและไมโซพรอสตอลควบคู่กัน โดยยามิฟิพริสโตนจะทำให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตไม่ได้และทำให้ปากมดลูกขยายตัว ส่วนยาไมโซพรอสตอลจะช่วยทำให้ปากมดลูกนิ่มขึ้นและมดลูกบีบตัวกว่าเดิม จนขับตัวอ่อนออกมาได้ง่าย
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การทำแท้งด้วยยาทั้ง 2 ตัวนี้ควรจะอยู่ภายในอายุครรภ์ไม่เกิน 9-12 สัปดาห์ โอกาสการทำแท้งจึงจะประสบความสำเร็จสูง และไม่เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน
การใช้ยาทำแท้งเพื่อยุติการตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์
การใช้ยามิฟิพริสโตนและไมโซพรอสตอลเพื่อยุติการตั้งครรภ์จะต้องใช้ผ่านคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น โดยทางโรงพยาบาลอาจให้หญิงตั้งครรภ์เริ่มใช้ยาเบื้องต้นก่อนที่โรงพยาบาลและจะจ่ายยาส่วนหนึ่งกลับไปใช้ที่บ้าน
นอกจากนี้แพทย์จะให้ข้อมูลการใช้ยาที่เหมาะสม อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงนัดหมายให้กลับมาตรวจสุขภาพ และผลของการทำแท้งในภายหลัง
การใช้ยาทำแท้งเพื่อยุติการตั้งครรภ์ที่เกิน 12 สัปดาห์
การทำแท้งจะมีโอกาสประสบความสำเร็จและปลอดภัยสูงหากอายุครรภ์ยังน้อย อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ก็ยังสามารถรับประทานยาทำแท้งได้ แต่เสี่ยงต่ออาการปวดท้องและอาจเกิดอาการแทรกซ้อนหลังจากใช้ยาได้มากกว่า ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาทำแท้ง
ในระหว่างใช้ยา หรือหลังจากยุติการตั้งครรภ์สำเร็จแล้ว อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างจากการใช้ยา โดยจะมีอาการแสดงดังนี้
- มีไข้ ตัวหนาวสั่น สามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาลดไข้ หากรักษาด้วยตนเองแล้วไข้ยังไม่ลด แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์
- คลื่นไส้อาเจียน แต่โดยปกติอาการจะดีขึ้นเอง หรือหากรู้สึกอ่อนเพลีย อาเจียนบ่อยๆ ก็สามารถใช้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้
- ปวดท้องน้อย เป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดอย่างยาไอบูโพรเฟน หรือพาราเซตามอล
- มีเลือดออกจากช่องคลอด เป็นอาการที่พบได้ในระยะ 1 สัปดาห์แรกหลังยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีเลือดออกกะปริบกะปรอยออกมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลอาจพิจารณาให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด และตรวจหาความผิดปกติ
หากเลือดยังไหลอย่างต่อเนื่องจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยมากกว่า 2 แผ่นต่อชั่วโมง - รู้สึกเจ็บที่มดลูก หรือปีกมดลูก ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ สามารถรักษาได้ด้วยการจ่ายยาปฏิชีวนะที่สั่งจ่ายโดยแพทย์
- ท้องเสีย เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการใช้ยาไมโซพรอสตอล ซึ่งโดยปกติอาการจะดีขึ้นเองเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน แต่หากรู้สึกอ่อนเพลีย ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อขอให้น้ำเกลือ และจ่ายยาแก้ท้องเสียให้ได้
นอกจากผลข้างเคียงทางร่างกาย ผู้หญิงที่เพิ่งยุติการตั้งครรภ์หลายคนมักจะมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และเครียดจากการทำแท้ง หลายคนอาจรู้สึกว่า เพิ่งฆ่าลูกของตัวเองไป รู้สึกผิดบาป รับตัวเองไม่ได้ที่จะกลับไปใช้ชีวิตต่อในสังคม
กรณีเช่นนี้อาจลองปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาความเครียดที่เกิดขึ้น หรือแนะนำวิธีบำบัดความเครียด
ในส่วนผู้ใกล้ชิดจะต้องคอยอยู่เป็นเพื่อน พูดคุยให้กำลังใจ ทั้งนี้อาจลองปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับแนวทางการสื่อสารกับผู้หญิงที่จะต้องเข้ากระบวนการทำแท้งอย่างเหมาะสม
ผู้ที่ห้ามในการใช้ยาทำแท้งอย่างเด็ดขาด
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์แฝด
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์นอกมดลูก
- หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคไต
- ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคพอร์ฟิเรียทางพันธุกรรม (โรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของเอนไซม์ที่ใช้สร้างสารพอร์ไฟริน ส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อระบบประสาท และผิวหนังของทารก)
ข้อควรระวังในการใช้ยาทำแท้ง
ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่มีความผิดปกติดังต่อไปนี้ ต้องแจ้งโรคประจำตัวและความผิดปกติให้แพทย์ทราบเสียก่อนจะตัดสินใช้ยาทำแท้ง เพราะมีความเสี่ยงจะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้มาก ได้แก่
- เป็นโรคหัวใจ หรือมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- มีภาวะโลหิตจาง
- มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
- เคยใช้ยากลุ่มที่มีสารสเตียรอยด์ (Steroid) มานาน
- มีแผลเป็นที่มดลูก
- มีห่วงอนามัยอยู่ในมดลูก
ข้อได้เปรียบและข้อด้อยของการใช้ยาทำแท้งเพื่อยุติการตั้งครรภ์
การใช้ยายุติการตั้งครรภ์มีข้อได้เปรียบบางอย่างที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการทำแท้งด้วยการศัลยกรรม เช่น
- ไม่ต้องดมยาสลบ ไม่ต้องเข้าห้องผ่าตัด
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อน้อยกว่า
- ดูเป็นการแท้งโดยธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้หญิงตั้งครรภ์บางรายที่ประสงค์จะทำแท้งรู้สึกสบายใจกว่าการเข้าห้องทำหัตถการที่โรงพยาบาล
- รู้สึกเจ็บน้อยกว่า ไม่มีแผล
อย่างไรก็ตาม การทำแท้งด้วยยาก็มีจุดด้อยคือ ตรวจสอบได้ยากกว่าว่า ยุติการตั้งครรภ์สำเร็จแล้ว และไม่มีเนื้อเยื่อตัวอ่อนค้างอยู่ในมดลูก
ถึงแม้จะมียาทำแท้งที่ถูกกฎหมาย และมีแพทย์ที่พร้อมจะดูแลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ แต่ด้วยค่านิยมของคนไทยที่มองว่า การทำแท้งเป็นเรื่องผิดศีลธรรม เป็นบาป จึงทำให้เกิดปัญหาการเปิดคลินิกทำแท้ง และการขายยาทำแท้งเถื่อนขึ้น
ทุกคนจึงควรตีความและพยายามทำความเข้าใจนิยามของการทำแท้งเสียใหม่ว่า ความจริงแล้ว การทำแท้งนับเป็นอีกทางออกที่จำเป็นของผู้หญิงหลายคน เพื่อจะได้สามารถดำเนินชีวิตในแนวทางที่ดีกว่า รวมทั้งเพื่อให้เด็กทุกคนที่เกิดมาได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม และมีคุณภาพต่อไป
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์ คลอดบุตร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android