มีบางอย่างที่คุณจำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อนที่ลูกก่อนวัยเรียนของคุณจะกลายไปเป็นนักเรียนอนุบาล มีบางสิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อช่วยลูกของคุณให้มีความพร้อมทางอารมณ์และสังคมสำหรับโรงเรียนอนุบาล และแม้แต่ความรู้พื้นฐานที่คุณสามารถทบทวนได้เช่นกัน ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก แต่ก็มีบางสิ่งในทางปฏิบัติที่ต้องทำเสียก่อน เช่นการลงทะเบียนเข้าโรงเรียนอนุบาล และการทดสอบก่อนเข้าโรงเรียน ซึ่งเป็นการตรวจสอบทักษะความพร้อมสำหรับชั้นอนุบาล
ไม่ใช่ทุกโรงเรียนที่ทำการทดสอบดังกล่าว แต่ก็ค่อนข้างจะทำกันโดยทั่วไป จุดประสงค์ของการทดสอบดังกล่าวไม่ใช่เพื่อทดสอบว่าลูกของคุณรู้มากแค่ไหน แต่เพื่อดูว่าลูกของคุณมีความพร้อมทางพัฒนาการที่จะเข้าโรงเรียนอนุบาลหรือยัง และต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในห้องเรียนหรือไม่ การทดสอบดังกล่าวยังเป็นวิธีการทำให้ลูกของคุณคุ้นเคยกับโรงเรียนใหม่ได้ดีด้วย
การทดสอบก่อนเข้าโรงเรียนอนุบาลนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน และประเมินช่วงพัฒนาการของเด็กตั้งแต่การดูแลตนเองจนถึงความสามารถในการสื่อสารและการฟัง โดยทั่วไปแล้วการทดสอบใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที และพ่อแม่หรือผู้ปกครองจะไม่ได้อยู่กับเด็กในตอนนั้น
กรุณาสังเกตว่า รายการดังข้างล่างนี้เป็นแค่ทักษะความพร้อมในการเข้าเรียนชั้นอนุบาลบางอย่างที่อาจถูกทดสอบในระหว่าง หรือหลังจากลงทะเบียนเรียนแล้ว รายการที่ว่านี้ไม่มีทางที่จะครอบคลุมในแง่ของพัฒนาการของเด็กได้ทั้งหมด บางโรงเรียนอาจต้องการทดสอบทักษะบางอย่างที่นอกเหนือจากในรายการนี้ และบางโรงเรียนก็ทดสอบน้อยกว่านี้
จำไว้ว่า แม้นี่จะเป็นทักษะความพร้อมสำหรับเข้าเรียนชั้นอนุบาล แต่สำหรับพัฒนาการของเด็กแล้ว จะมีเรื่องของช่วงอายุเสมอ ซึ่งเด็กบางคนที่เข้าเรียนอนุบาลอาจมีอายุใกล้หกขวบ ในขณะที่คนอื่นอาจยังมีอายุเพียงสี่ขวบ เป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่เปรียบเทียบพัฒนาการของลูกคุณกับเด็กคนอื่นๆ แต่ให้พิจาณาเรื่องทักษะความพร้อมสำหรับเข้าเรียนชั้นอนุบาลเป็นการเฉพาะกับอายุของลูกคุณ และสถานการณ์ในตอนนั้น
นอกจากนี้ รู้ไว้ด้วยว่าเด็กบางคนก็มีจุดอ่อนจุดแข็งที่ต่างออกไป
- ทักษะการดูแลตนเอง
- ล้างมือได้ด้วยตนเอง
- ถูกฝึกมาอย่างสมบูรณ์เรื่องการเข้าห้องน้ำ
- จัดการเรื่องการสวมกางเกงได้ รวมถึงการติดกระดุมและ
- อาจสามารถผูกเชือกรองเท้าเองได้ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะสวมรองเท้าแบบแถบติดเองได้เรียบร้อย
- กินได้เองโดยไม่ต้องมีคนช่วย ตั้งแต่การเจาะหลอดดูดกล่องน้ำผลไม้จนถึงการเปิดกล่องหรือถุงอาหารเที่ยง
- สวมเสื้อได้เอง รวมถึงการรูดซิป
ทักษะทางภาษา
- พูดแล้วผู้ใหญ่ที่ไม่ได้คุยกับเด็กเป็นประจำเข้าใจได้
- พูดเป็นประโยคสมบูรณ์ที่มีคำอย่างน้อยห้าคำในประโยค
- ทำตามคำสั่งที่มีคำสั่งย่อยอย่างน้อยสองขั้นตอนได้ “ไปหาเสื้อโค้ทของหนูแล้วสวมมันซะ”
- ตอบคำถามง่ายๆ ได้ หนูชื่ออะไร? อายุเท่าไหร่? เป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง?
- สร้างคำคล้องจองง่ายๆได้
ทักษะทางด้านความรู้
- แยกและระบุสิ่งของจากความแตกต่างเช่น รูปร่าง สี ขนาด และอื่นๆ
- รู้วิธีถือหนังสือที่ถูกต้อง (การเตรียมความพร้อมในการอ่าน) และอาจแสร้งทำเป็นอ่านได้
- ต่อตัวต่อเล็กๆ ที่น้อยกว่าสิบชิ้นได้
- จดจำรูปแบบและระบุสิ่งที่อยู่ถัดไปในลำดับได้
- ระบุสีได้ถูกต้องสี่สี
- จำวิธีเขียนชื่อของตัวเองได้
- ระบุเสียงของตัวอักษรบางตัวได้
- นับได้ถึงห้า
- บอกชื่ออวัยวะของร่างกายได้อย่างน้อยห้าอย่าง
ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่: สามารถ
- วิ่ง
- ยืนและกระโดดขาข้างใดข้างหนึ่งข้างเดียวได้
- กระโดด
- เดินถอยหลัง
- ขว้างและรับลูกบอลใหญ่ๆ
- เตะบอลเป็นเส้นตรงได้
- ขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ (ไม่ใช่การขึ้นโดยก้าวเท้าข้างหนึ่งขึ้นบันได แล้วก้าวเท้าอีกข้างมาที่ขั้นเดียวกัน)
ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก: สามารถ
- ตัดด้วยกรรไกรที่ปลอดภัยได้โดยจับกรรไกรถูกวิธี
- ต่อชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ได้
- จับดินสอบและใช้ได้ถูกวิธี
- วาดเส้นตรง กากบาท สี่เหลี่ยม และวงกลมได้
- วาดคนที่มีอวัยวะห้าอย่างได้
- อาจเขียนตัวอักษรและตัวเลขบางตัวได้ หรืออาจเขียนชื่อของตัวเองได้
- วาดตามรูปร่าง ตัวอักษร และตัวเลขได้หลากหลาย
หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของลูก คุณอานคุยกับคุณครูโรงเรียนก่อนอนุบาลของลูก หรือกุมารแพทย์ คุณอาจตัดสินใจรออีกปี และเริ่มอนุบาลช้าไปปีหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นการตัดสินใจที่ดีก็ได้