กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

ฟอกไตแบบไหนดี

รู้จักการฟอกไตด้วยเครื่องและการฟอกไตทางช่องท้อง แนวทางรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะท้ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ
เผยแพร่ครั้งแรก 19 เม.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 2023 ตรวจสอบความถูกต้อง 26 เม.ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
ฟอกไตแบบไหนดี

หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่อง “การฟอกไต” ว่า มีวิธีการแตกต่างกันในการเลือกใช้รักษาผู้ป่วยโรคไตวายเรื้องรัง รวมถึงมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงแตกต่างกัน   ข้อดีข้อเสีย และค่าใช้จ่าย ที่แตกต่างกัน

การ “ฟอกไต” เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ซึ่งไตสูญเสียหน้าที่ในการทำงานแล้ว โดยปกติแล้วการรักษาแบ่งออกเป็น 2 แนวทางสำคัญคือ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจไต ฟอกไต รักษาโรคไต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 50 บาท ลดสูงสุด 83%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

  • การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม หรือ ที่เรารู้จักและเรียกกันว่า “การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม”
  • การฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวร

ทั้ง 2 วิธีนั้น มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันและมีข้อบ่งชี้ที่แตกต่างกันตามดุลยพินิจของแพทย์ว่า จะเลือกการรักษาด้วยวิธีใดที่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่สุดนั่นเอง

ทำไมต้องฟอกเลือด

การฟอกเลือดเป็นการนำเอาของเสีย หรือน้ำส่วนเกินออกจากเลือดของผู้ป่วย  โดยภาวะปกติ เลือดเสีย หรือเลือดที่ลำเลียงของเสียจากเซลล์จะผ่านเส้นเลือดดำมากรองเอาของเสียออกที่ไต ซึ่งมีหน่วยไตที่ทำหน้าที่กรองของเสียจำนวนนับล้านหน่วย โดยหน่วยไตนี้เมื่อขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบว่ามีลักษณะคล้ายท่อขดไปมา ในท่อจะมีปลายข้างหนึ่งที่ตันและมีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายถ้วย เรียกปลายท่อที่ตันนี้ว่า “โบว์แมนส์แคปซูล (Bowman s capsule)” ภายในจะมีกลุ่มเลือดฝอยพันกันเป็นกระจุกเรียกว่า “โกลเมอรูลัส (glomerulus)” ซึ่งทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือดที่ไหลผ่านไตนั่นเอง

สำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ไตจะเสียความสามารถในการกรองจนไม่สามารถกรองเอาของเสียออกจากเลือดได้  และไม่สามารถดูดซึมเอาสารและแร่ธาตุบางชนิดที่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายจากเลือดดำกลับคืนเข้าสู่หัวใจและปอดเพื่อเติมออกซิเจน  แล้วไหลกลับมาสู่หัวใจอีกครั้งเพื่อสูบฉีดไปเลี้ยงทั่วร่างกายนั่นเอง

การฟอกไต

การฟอกไตที่จะกล่าวถึงนี้เป็นการฟอกไตสำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ไตไม่สามารถทำงานได้  แต่กลไกการทำงานของร่างกายหากไม่มีการขับของเสียออกจากร่างกายจะทำให้อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้

ดังนั้นการฟอกไตเพื่อช่วยขับของเสียและรักษาชีวิตผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสามารถทำได้ 2 วิธีสำคัญดังนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจไต ฟอกไต รักษาโรคไต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 50 บาท ลดสูงสุด 83%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

1.  การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis)

การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis) เป็นการนำของเสียและน้ำออกจากเลือด โดยเลือดจะออกจากตัวผู้ป่วยทางเส้นเลือดดำ แล้วผ่านตัวกรองซึ่งภายในตัวกรองจะมีเนื้อเยื่อช่วยกรองของเสียและน้ำออกจากเลือด เมื่อเลือดผ่านการกรองกลายเป็นเลือดดี เครื่องจะนำเลือดนั้นกลับสู่ร่างกายอีกครั้ง ทั้งนี้ก่อนการฟอกเลือดต้องมีการตัดต่อเส้นเลือดเพื่อใช้ในการฟอกเลือด ซึ่งมี 3 วิธีคือ

  • การนำเส้นเลือดดำต่อกับเส้นเลือดแดงบริเวณแขน หรือเรียกว่า การทำเอวีฟิทูล่า ( AV fistula)  เพื่อให้เส้นเลือดดำใหญ่ขึ้นและมีแรงดันพอที่จะทำให้เลือดไหลเข้าสู่เครื่องไตเทียมได้
  • การต่อเส้นเลือดดำกับเส้นเลือดแดงของผู้ป่วยโดยการใช้เส้นเลือดเทียม (AV graft)
  • การใส่สายเข้าไปในเส้นเลือดดำขนาดใหญ่ที่คอเพื่อไว้สำหรับต่อกับเครื่องไตเทียม วิธีการนี้เป็นการทำแบบชั่วคราว

หลังการผ่าตัดทัวิธีใดวิธีหนึ่งเสร็จสิ้น และผู้ป่วยมีความพร้อม แพทย์ก็จะนัดให้ผู้ป่วยมารับการฟอกไตต่อไป  การฟอกไตวิธีนี้จะใช้เวลาในการฟอกครั้งละประมาณ 4 ชั่วโมง ในหนึ่งสัปดาห์ต้องทำการการฟอกไต 3 ครั้ง

2.  การฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวร (continuous ambulatory peritoneal dialysis: CAPD)

เป็นการฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวรคือ เป็นการล้างช่องท้องด้วยน้ำยาเฉพาะเพื่อกรองของเสียในร่างกายออกโดยการใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้องทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนด  น้ำยาจะพักอยู่ในช่องท้องเพื่อทำการกรองของเสีย และน้ำส่วนเกินออกจากช่องท้องช่วงพักน้ำยาอยู่ในช่องท้องอาจใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง การเติมน้ำยาจะเติมผ่านทางท่อซึ่งท่อนี้ต้องทำการฝังเข้าไปในช่องท้อง เมื่อครบตามเวลาที่กำหนดก็จะปล่อยน้ำยาที่ดูดซึมเอาของเสียจากร่างกายและน้ำส่วนเกินออกจากช่องท้องออกมาด้วย ใช้เวลาครั้งละประมาณ 30 นาที

การฟอกไตทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร

การฟอกไตทั้ง  2  แบบ เป็นการช่วยรักษาภาวะของเสียคั่งจากไตวายเรื้อรัง ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้กำหนดวิธีการรักษาร่วมกับการตัดสินใจของผู้ป่วยดังนี้

  1. การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม  จะต้องทำที่โรงพยาบาล หรือศูนย์ฟอกไตเทียมเท่านั้น การบริการมีทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน  มีระบบจองคิวในการทำและใช้เวลาในการฟอกแต่ละครั้งตามความรุนแรงของโรคและอาการผู้ป่วย  ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการทำเท่านั้น  ระยะในการฟอกไตและความถี่แพทย์จะเป็นผู้กำหนด เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งขึ้นไปตามสภาพผู้ป่วย การฟอกแต่ละครั้งจะใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป  ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจึงสูงกว่า
  2. การฟอกไตทางช่องท้อง  สามารถทำได้เองที่บ้าน หรือที่ทำงาน โดยที่ผู้ป่วย หรือผู้ดูแลสามารถเรียนรู้วิธีการทำจากผู้เชี่ยวชาญ มีความถี่ในการทำบ่อยกว่าวิธีแรก โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดตามสภาพอาการของผู้ป่วยเช่นกัน เช่น ต้องล้างช่องท้องทุกวันโดยเปลี่ยนน้ำยา 4-5 ครั้งต่อวัน ใช้เวลาครั้งละ 2-3 ชั่วโมงเป็นต้น วิธีนี้ยังมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวิธีแรก   

ข้อดีข้อเสียของสองวิธี

ดังนั้นการฟอกไตทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน  รวมทั้งมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนแตกต่างกัน โดยเฉพาะการฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียมนั้น เชื่อว่า มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากทำในโรงพยาบาลโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนก็จะมีอาการรุนแรงมากกว่า  

ส่วนการฟอกไตด้วยการล้างช่องท้องแบบถาวรนั้น หากผู้ป่วย หรือผู้ดูแล  ล้างไตทางหน้าท้องไม่ถูกวิธีก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้เช่นกัน เพียงแต่วิธีนี้จะได้ประโยชน์ในแง่ของความสะดวก ทั้งเรื่องเวลา สถานที่ และค่าใช้จ่าย

ไม่ว่าแต่ละวิธีจะมีข้อดี- ข้อเสีย อย่างไร  เราก็ไม่ควรพาตัวเอง หรือคนที่เรารักไปอยู่ในจุดๆ นั้นเลย เราควรดูแลป้องกันตัวเองและคนที่รักจากโรคไตตั้งแต่วันนี้ดีกว่า 


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
การฟอกไตมีกี่วิธี และแตกต่างกันยังไง?(http://dreatery.com/2016/11/15/การฟอกไตมีกี่วิธี-และมั/comment-page-22/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)