ความสามารถของห้องปฏิบัติการ มีความสำคัญอย่างไร
ขั้นตอนสำคัญต่างๆ ในการทำ IVF มักดำเนินการในห้องปฏิบัติการของคลินิก ซึ่งห้องปฏิบัติการแต่ละแห่งก็มีคุณภาพที่แตกต่างกันไป การเข้ารักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ในคลินิกที่มีห้องปฏิบัติการที่เป็นมาตรฐานสากล จะสามารถเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการทำ IVF ได้มากขึ้นถึง 2 เท่า
กระบวนการทำงานในขั้นตอนต่างๆ และความสามารถหรือความเชี่ยวชาญของห้องปฏิบัติการที่มีคุณภาพ ควรเป็นไปตามแผนภาพด้านล่างนี้
ตรวจภาวะมีบุตรยากวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 392 บาท ลดสูงสุด 63%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถ้าจะให้ดีที่สุด ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาจากคลินิกที่มีความสามารถของห้องปฏิบัติการ ดังนี้
- สามารถปฏิสนธิไข่ที่เก็บได้อย่างน้อย 75 - 80% ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการปฏิสนธิ (หากใช้เทคนิค ICSI มีอัตราสำเร็จสูงกว่า)
- สามารถเลี้ยงไข่ที่ปฏิสนธิแล้วให้เป็นเอ็มบริโอในระยะบลาสโตซิสต์ได้ 60% (หรือในระยะแรกของการแบ่งตัวได้ 70%)
- สามารถแยกเซลล์จากเอ็มบริโอมาตรวจ PGS ได้สำเร็จ และ 95% ของเอ็มบริโอ ต้องมีการเก็บเซลล์ได้อย่างเพียงพอสำหรับการอ่านผลอย่างถูกต้อง
- สามารถเก็บแช่แข็งเอ็มบริโอได้ โดย 99% ของเอ็มบริโอระยะบลาสโตซิสต์ที่เก็บแช่แข็ง (หรือ 90% ของระยะแรกของการแบ่งเซลล์) สามารถนำมาใช้ใหม่ได้โดยไม่เสียหาย
นอกจากนี้ การที่ห้องปฏิบัติการของคลินิกเปิดทำงานตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ และมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเพียงพอ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากผู้ป่วยต้องรอห้องปฏิบัติการเปิดทำการในวันจันทร์ อาจส่งผลกระทบทำให้อัตราความสำเร็จในการทำ IVF ลดน้อยลงไป
แนวทางจัดการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และการรับรองคุณภาพของห้องปฏิบัติการ
อีกเรื่องที่ผู้เข้ารับการทำ IVF ไม่ควรมองข้าม คือการรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่างๆ ของห้องปฏิบัติการ เช่น ระบบติดตามแบบเรียลไทม์ที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อเครื่องมือใช้การไม่ได้ หรือระบบพลังงานสำรองในกรณีที่ไฟฟ้าดับ เป็นต้น
ปัจจุบันห้องปฏิบัติการนั้นเปิดดำเนินการได้ง่ายขึ้น จึงอาจพบว่าห้องปฏิบัติการบางแห่งมีการจัดการที่หละหลวม ดังนั้น ควรตรวจสอบด้วยตัวเองว่าคลินิกและห้องปฏิบัติการที่กำลังจะเข้ารับการทำ IVF มีมาตรฐานหรือการรับรองคุณภาพจากองค์กรที่น่าเชื่อถือหรือไม่
สำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทยที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน จะต้องผ่านการรับรอง Laboratory Accreditation (LA) และมาตรฐาน ISO 17025 ซึ่งระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้บริการ การทดสอบ สอบเทียบเครื่องมือ และการจัดการด้านคุณภาพของห้องปฏิบัติการ
ที่มาของข้อมูล
Importance Of The IVF Laboratory (https://www.fertilityiq.com/ivf-in-vitro-fertilization/importance-of-the-lab#disaster-recovery-and-accreditation)