คิดภาพว่าคุณกำลังรับประทานยา Retin-A (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Tretinoin) เพื่อรักษาสิว คุณพอใจกับผลที่ได้และการรักษา จนกระทั่งวันหนึ่งมีแถบ 2 ขีดขึ้นบนชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์...
ยา Retin-A ปลอดภัยที่จะใช้ระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่?
Retin-A ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Category C ขององค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่ายังไม่มีการศึกษาเรื่องการใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มากพอ ดังนั้นถึงแม้ว่า Retin-A จะไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ปลอดภัยเช่นกัน Retin-A และยาทา Tretinoin อื่นๆ เช่น Retin-A Micro, Renova และ Avita เป็นยาที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามิน A ซึ่งการรับประทานวิตามิน A ในปริมาณที่มากนั้นอาจทำให้ทารกในครรภ์เกิดความผิดปกติได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานทางการวิจัยที่กล่าวถึงการได้รับยาดังกล่าวในรูปแบบทา
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แต่ฉันใช้ Retin-A มาตลอดแล้วเพิ่งรู้ว่าตั้งครรภ์นะ!
สิ่งแรกที่ควรทำคือ หยุดการใช้ยา Retin-A และรีบไปพบแพทย์ อย่างที่สองก็คือ อย่าวิตกจนเกินไป เพราะถึงแม้ว่า Retin-A จะไม่แนะนำให้ใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ หากคุณมีการใช้ยา Retin-A มาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ มีความเป็นไปได้มากที่ทารกจะไม่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยา เพราะในความเป็นจริง Retin-A ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณน้อยมาก และด้วยปริมาณดังกล่าวจึงไม่น่ามีผลกระทบต่อทารกที่กำลังเจริญเติบโต
การศึกษาล่าสุดในเรื่องนี้ กล่าวว่า ความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของทารกในกลุ่มมารดาที่ใช้ยา Tretinoin แบบทาในช่วงแรกของการตั้งครรภ์กับกลุ่มมารดาที่ไม่ได้ใช้ยานั้นไม่ได้ต่างกัน สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือ ยา Tretinoin รูปแบบทานั้นแตกต่างจาก Tretinoin และ Isotretinoin ในรูปแบบกินอย่างสิ้นเชิง การรับประทานยา Tretinoin นั้นจะถูกเปลี่ยนไปอยู่ใน Category D ทันที ซึ่งหมายความว่ายาในกลุ่มนี้มีหลักฐานว่าสามารถส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของทารกได้
Isotretinoin หรือที่รู้จักกันในชื่อ Accutane ถูกจัดให้อยู่ใน Category X โดยยานี้สามารถทำให้เกิดความผิดปกติแต่กำเนิดของทารกอย่างรุนแรงได้และไม่ควรมีการใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์โดยสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าคุณต้องเพิ่มความใส่ใจเกี่ยวกับยาที่ต้องรับประทานระหว่างที่คุณตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบกินหรือทาก็ตาม ดังนั้นถ้าคุณพบว่าตั้งครรภ์ขณะที่ใช้ Retin-A ให้หยุดยาและแจ้งให้แพทย์ทราบ
สภาพผิวหนังของคุณขณะนั้นจะเป็นสิ่งที่ใช้ในการพิจารณาวิธีการรักษาในช่วงถัดไป ผู้หญิงบางคนอาจมีผิวพรรณที่ดีขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ แต่กับบางคนแล้วการตั้งครรภ์ทำให้เป็นสิวมากขึ้นและแย่ลงกว่าเดิม หากคุณเป็นแบบที่สองอาจจะต้องพิจารณารักษาสิวต่อในระหว่างที่ตั้งครรภ์
ทางเลือกที่ดีกว่าในการรักษาสิวสำหรับหญิงตั้งครรภ์
เนื่องจาก Retin-A ไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่าเป็นวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสมในหญิงตั้งครรภ์ แพทย์จึงมักแนะนำให้หยุดการใช้ยานี้ตลอดช่วงการตั้งครรภ์ และถึงแม้ว่าจะไม่ใช้ Retin-A แต่ก็ยังคงมียาอีกหลายตัวที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยระหว่างการตั้งครรภ์ คุณสามารถสอบถามแพทย์เพื่อให้แพทย์แนะนำวิธีการรักษาที่ปลอดภัยแบบอื่นได้