กลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ (Irregular Sleep-Wake Syndrome)

กลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ คืออะไร แตกต่างจากอาการนอนไม่หลับอย่างไร มีวิธีรักษาและบำบัดอย่างไรให้สามารถกลับมานอนหลับตามเวลาปกติได้
เผยแพร่ครั้งแรก 29 พ.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
กลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ (Irregular Sleep-Wake Syndrome)

ผู้ที่มีอาการหลับๆ ตื่นๆ ผิดปกติ มักจะนอนหลับได้เพียง 1-4 ชั่วโมงต่อครั้ง และจะมีการหลับหลายครั้งในเวลา 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่ได้ถือว่าอยู่ในกลุ่มพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะพวกเขาได้หลับเพียงพอต่อวัน เพียงแต่การนอนหลับของพวกเขาจะกระจายไปหลายช่วงในระยะเวลา 24 ชั่วโมงแทนที่จะต่อเนื่องกัน 7-8 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่มีปัญหานี้จะนอนไม่หลับในช่วงที่ต้องนอน และง่วงซึมระหว่างวัน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

สาเหตุของกลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ

สาเหตุของการนอนไม่หลับที่ผิดปกตินี้ คือ การสูญเสียนาฬิกาชีวิตที่คุมอยู่ในร่างกายไปเกือบทั้งหมด จึงไม่มีสิ่งช่วยควบคุมช่วงเวลาการตื่นนอน และการนอนหลับ

หากไม่มีการกำหนดกิจวัตรประจำวันให้ชัดเจน หรือทำกิจกรรมเปลี่ยนเวลาสับไปมาตลอด บ่งบอกว่าคุณมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นกลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ ผิดปกติ

แม้ความชุกของกลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ จะเพิ่มขึ้นตามอายุ แต่อายุก็ไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงหลักที่สำคัญ เพราะสิ่งที่ทำให้เพิ่มขึ้นจริงๆ แล้ว คือโรคประจำตัวทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นตามวัย รวมถึงโรคทางระบบประสาทและโรคทางจิตเวช ก็มีส่วนร่วมในการพัฒนากลุ่มอาการดังกล่าว

มีปัจจัยบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาการนอนไม่หลับ แต่สามารถขัดขวางวงจรการนอนและตื่น หรือนาฬิกาชีวิตได้ โดยปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่

  • การทำงานแบบกะ เช่น การสลับการทำงานระหว่างกะกลางวันและกะกลางคืน
  • การเดินทางบ่อยครั้งผ่านเขตเวลา (Time Zone) ที่แตกต่างกัน

เมื่อไรที่ต้องไปพบแพทย์

การนอนและการตื่นในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ รวมถึงการนอนได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ เป็นบางครั้งคราวนั้นไม่ใช่เรื่องฉุกเฉินทางการแพทย์ แต่ถ้าเริ่มพบความผิดปกติจากการนอนไม่หลับเป็นประจำ โดยไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าอาจเกิดจากโรคใดบ้าง กรณีนี้เป็นสิ่งที่ควรต้องไปพบแพทย์โดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดผลเสียต่อร่างกายตามมา

การวินิจฉัยกลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ

แพทย์จะซักถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการนอนหลับช่วงล่าสุด และอาจให้จดบันทึกการนอนหลับ พร้อมกับใช้นาฬิกาจับความเคลื่อนไหว (Actigraph) เพื่อช่วยวินิจฉัยอาการนอนไม่หลับผิดปกติ โดยจะมีการบันทึกการนอนหลับอย่างน้อย 7 วัน เพื่อที่แพทย์จะตรวจสอบว่ามีช่วงนอนหลับแล้วตื่นอย่างน้อยสามรอบภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงหรือไม่ เพื่อจะได้วินิจฉัยอาการอย่างแม่นยำต่อไป

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การรักษากลุ่มอาการหลับๆ ตื่นๆ

มีการบำบัดและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหลายวิธี ที่สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้ โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับได้นานขึ้นในเวลากลางคืนและเพิ่มความตื่นตัวในระหว่างวัน เช่น

  • การควบคุมแสงในห้องนอน ผู้ป่วยควรได้รับแสงจ้านานมากขึ้นเพื่อช่วยให้ตื่นตัวระหว่างวัน ส่วนในเวลากลางคืนให้ป้องกันตนเองจากแสงสีน้ำเงินที่มาจากหน้าจอโทรทัศน์ หน้าจอโทรศัพท์มือถือ และหน้าจอคอมพิวเตอร์
  • การได้รับเมลาโทนินเสริม เพื่อช่วยให้ร่างกายเกิดความผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีมากขึ้น
  • สร้างกิจวัตรประจำวันที่มีแบบแผนมากขึ้น รวมถึงการกำหนดเวลาการเข้าสังคม การออกกำลังกาย และกิจกรรมอื่น ๆ
  • ทำให้สภาพแวดล้อมในห้องนอนผ่อนคลายและสบายที่สุด
  • ลดปริมาณเสียงรบกวนในช่วงการนอนหลับ

ที่มาของข้อมูล

Krista O’Connell, Irregular sleep-wake syndrome (https://www.healthline.com/health/irregular-sleep-wake-syndrome), August 31, 2016.


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Circadian Rhythm Sleep Disorder: Irregular Sleep Wake Rhythm Type. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2768129/)
Irregular Sleep-Wake Syndrome: Causes, Diagnosis & Treatments. Healthline. (https://www.healthline.com/health/irregular-sleep-wake-syndrome)
Zee, P., Vitiello, M. (2009). Circadian rhythm sleep disorder: Irregular sleep wake rhythm (http://faculty.washington.edu/vitiello/Recent%20Publications/ISWR%20Zee%20and%20Vitiello.pdf)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป