มีฝาแฝดเกิดมากขึ้นในโลกหรือเปล่า ? มีการประมาณอย่างคร่าว ๆ ว่ามีการเพิ่มขึ้นของฝาแฝดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการรักษาการมีบุตรยาก แต่การเพิ่มขึ้นของการเกิดฝาแฝดไม่ได้หมายถึงแค่แฝดสองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฝดที่มีจำนวนมากกว่า เช่น แฝดสาม แฝดสี่ และจากการรักษาภาวะมีบุตรยากพัฒนาขึ้น ก็มีความหลากหลายในอัตราการเกิดฝาแฝด และลดลงบ้างในช่วงปีหลัง ๆ
แต่ก็ยังดูเหมือนว่าจะหันไปเจอฝาแฝดอยู่ทุกหนทุกแห่ง บางทีคุณอาจสังเกตเห็นว่ามีครอบครัวจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มาพร้อมรถเข็นคู่ตามห้างสรรพสินค้า หรือที่บ่อยกว่าคือตามสื่อจากกลุ่มพ่อแม่คนดังที่ฉลองการเกิดลูกแฝดของพวกเขา รายการโทรทัศน์เช่น “Kate plus eight” (ชื่อก่อนหน้านี้คือ “Jon and Kate plus eight”) หรือ “Texas multimamas” ทำให้แฝดโดดเด่น รายงานของทางโรงเรียนบันทึกการลงทะเบียนของฝาแฝดสองและอื่น ๆ และผู้สอนต้องผจญกับปัญหาในการจัดห้องเรียน การเพิ่มขึ้นของแฝดยังทำให้เกิดกฎหมายเพื่อรับรองว่าสิทธิของฝาแฝดในโรงเรียนจะได้รับการคุ้มครอง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การเพิ่มขึ้นของฝาแฝด
การศึกษาในปี 2012 ศึกษาข้อมูลจำเพาะและแสดงให้เห็นแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิดฝาแฝดในสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1980 ถึง 2009 ข้อสรุปจาก National center for health statistics (NCHS) จากเดือนมกราคม 2012 ให้ข้อมูลดังนี้
- ในปี 1980 1 ใน 53 ของเด็กที่เกิดมาเป็นฝาแฝด
- ในปี 2009 1 ใน 30 ของเด็กที่เกิดมาเป็นฝาแฝด
นี่แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นถึง 76% ในอัตราการเกิดของฝาแฝดในช่วงสามสิบปีจาก 1980-2009 การศึกษานี้ประมาณการว่าฝาแฝดมากกว่า 865,000 คู่เกิดขึ้นในช่วงสามสิบปีนี้ หากอัตราการเกิดของฝาแฝดไม่ได้เพิ่มขึ้นอีกในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมาดังกล่าว
พูดอีกอย่างคือ
- ในปี 1980 อัตราการเกิดของฝาแฝดเป็น 18.9/1,000
- ในปี 2009 อัตราการเกิดของฝาแฝดเป็น 33.3/1,000
- ในปี 2014 อัตราการเกิดของฝาแฝดเป็น 33.9/1,000
จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นหลักฐานว่าอัตราการเกิดของฝาแฝดเพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 2% ของเด็กที่เกิดในปี 1980 เป็นมากกว่า 3% ของเด็กที่เกิดในปี 2009
หลังจากปี 2009 อัตราการเกิดแฝดไม่ได้เพิ่มในอัตราเดิมอีก แต่คงเท่าเดิม และลดลงเล็กน้อยจากปี 2009-2012 เป็น 33.1 และในปี 2014 ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 33.9 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวถูกคำนวณคร่าว ๆ จากตัวเลขของการเกิดทั้งหมด (ทั้งที่เป็นแฝดและไม่ใช่แฝด) ในปีดังกล่าว ตัวเลขที่แท้จริงของแฝดจะมากกว่านี้เล็กน้อย เนื่องจากจำนวนที่แท้จริงของการเกิดทั้งหมดนั้นน้อยกว่านี้
นี่เป็นตัวเลขดังกล่าว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ในปี 2007 มีการเกิด 4,316,233 ราย ซึ่งเป็นฝาแฝด 138,961 ราย อัตราการเกิดของฝาแฝดเป็นร้อยละ 32.2
- ในปี 2014 มีการเกิดที่มีชีวิต 3,988,076 ราย ซึ่งเป็นฝาแฝด 135,336 ราย อัตราการเกิดของฝาแฝดเป็นร้อยละ 33.9
มีฝาแฝดเกิดน้อยลงในปี 2014 เมื่อเทียบกับ 2007 แต่การเกิดทั้งหมดก็ลดลงเช่นกัน
อัตราการเกิดของฝาแฝดในสหรัฐฯ
ทุกพื้นที่ของสหรัฐอเมริกามีการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิดฝาแฝด แต่อัตราการเกิดยังคงแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ แผนภาพนี้แสดงให้เห็นอัตราการเกิดของฝาแฝดในแต่ละรัฐของสหรัฐอเมริกา เทียบระหว่างปี 1980 และ 2009 และเปอร์เซ็นต์ของการเปลี่ยนแปลงในปีที่ผ่านมา อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% ใน 43 รัฐ และเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในเขตโคลัมเบีย และ 5 รัฐ (คอนเนตทิคัต ฮาวาย แมสซาชูเซตต์ นิวเจอร์ซีย์ และโรดไอส์แลนด์)
รัฐที่มีอัตราการเกิดของฝาแฝดสูงที่สุดในปี 2014 คือ
- นิวเจอร์ซีย์ (44.3/100)
- แมสซาชูเซตต์ (43.3/100)
- คอนเนตทิคัต(40/100)
- นิวแฮมป์เชียร์ (39.4/100)
- นิวยอร์ก (37.9/100)
รัฐที่มีอัตราการเกิดของฝาแฝดต่ำที่สุดในปี 2014 คือ
- นิวเม็กซิโก (25.2/100)
- แอริโซนา (27.7/100)
- อลาสกา (28.5/100)
- เซาธ์ ดาโกตา (28.2/100)
- เวอร์มอนต์ (29/100)
เหตุผลในการเพิ่มขึ้นของฝาแฝด
อะไรอธิบายการเพิ่มขึ้นของจำนวนฝาแฝด ? หลายคนคิดว่าน่าจะเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ อย่างไรก็ตาม การศึกษาระบุอิทธิพลอื่น ๆ ที่มีนัยสำคัญ หลายปัจจัยถูกระบุว่ามีส่วนในการเพิ่มขึ้นของฝาแฝด การศึกษาหนึ่งให้ความสัมพันธ์ระหว่างการเพิ่มขึ้นของอัตราโรคอ้วนกับการเพิ่มขึ้นของฝาแฝด โดยอ้างว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินหรือผู้หญิงตัวสูงมีแนวโน้มจะมีฝาแฝดมากกว่า
การศึกษาอัตราการเกิดของฝาแฝดในปี 2012 ระบุว่าอายุของแม่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของฝาแฝด การเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิดฝาแฝดพบมากที่สุดในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าสามสิบปี การศึกษานี้กล่าวว่า “โดยประวัติศาสตร์แล้ว อัตราการเกิดของฝาแฝดเพิ่มขึ้นในอายุ (แม่) ที่เพิ่มขึ้น โดยมากสุดที่ 35-39 ปี และลดลงหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 1997 พบอัตราสูงสุดในผู้หญิงที่มีอายุในช่วง 40 ปี” การศึกษานี้แสดงให้เห็นความแตกต่างของอัตราการเกิดฝาแฝดตามอายุ ในปี 2009
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ผู้หญิงอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปมีอัตราการคลอดบุตรเป็นฝาแฝด 7%
- ผู้หญิงอายุ 35-49 ปีมีอัตราการคลอดบุตรเป็นฝาแฝด 5%
- ผู้หญิงอายุน้อยกว่า 25 ปีมีอัตราการคลอดบุตรเป็นฝาแฝด 2%
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวสัมพันธ์กับความแตกต่างของช่วงอายุผู้หญิงที่คลอดลูก ในช่วงระหว่างสามสิบปีของการศึกษา เพียง 20% ของผู้หญิงที่คลอดในปี 1980 มีอายุมากกว่าสามสิบปี แต่ประชากรเดียวกันมีอัตราการคลอด 35% หลังปี 2000 “คาดว่าการเพิ่มขึ้นของอายุแม่ตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมามีอิทธิพลต่ออัตราการเกิดของฝาแฝด เนื่องจากอัตราการเกิดฝาแฝดเอง (เช่น ไม่ได้รักษาภาวะมีบุตรยาก) ในผู้หญิงช่วงอายุ 30 ปีจะสูงกว่า การศึกษานี้ประมาณการว่าหนึ่งในสามของการเพิ่มอัตราการเกิดของฝาแฝดมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของอายุแม่ ความสัมพันธ์ดังกล่าวยังคงเป็นจริงในไม่กี่ปีมานี้ ในปี 2014 ฝาแฝดส่วนใหญ่เกิดจากแม่ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี
การรักษาภาวะมีบุตรยากและอัตราการเกิดของฝาแฝด
การรักษาภาวะมีบุตรยากน่าจะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของฝาแฝด และการศึกษานี้สนับสนุนทฤษฎีดังกล่าว การศึกษานี้อ้างว่าการรักษาภาวะมีบุตรยากมีส่วนในการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิดของฝาแฝดในช่วงปี 1980-2009 ถึงสองในสาม การรักษาภาวะมีบุตรยากรวมถึงการใช้ยากระตุ้นการเจริญพันธุ์หรือกระบวนการช่วยให้เกิดการปฏิสนธิ เช่น in-vitro fertilization อิทธิพลของการรักษานี้มีความเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องอายุของแม่ที่มากเนื่องจากผู้หญิงอายุมากกว่าสามสิบปีมีแนวโน้มที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือทางด้านการเจริญพันธุ์มากกว่า
ในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมาที่มีการศึกษาข้อมูลอัตราการเกิดของฝาแฝด เทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ทำให้การรักษาภาวะมีบุตรยากประสบความสำเร็จมากขึ้นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การใช้ความช่วยเหลือทางการเจริญพันธุ์มีมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 อย่างไรก็ตาม กระบวนการดังกล่าวได้รับการปรับปรุงในไม่กี่ปีมานี้เพื่อจำกัดจำนวนของการเกิดฝาแฝดที่เป็นผลมาจากการรักษาภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากตระหนักว่าการคลอดฝาแฝดมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงทางสุขภาพที่สูงกว่าและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพมากกว่าด้วย