ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงในช่วงผู้ใหญ่ตอนต้นหรือที่เรียกว่ากลุ่ม prehypertension นั้นจะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจในภายหลัง
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American College of Cardiology ได้กล่าวว่าผู้ที่มีระดับความดันโลหิตสูงกว่าปกติเล็กน้อยในช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นนั้นมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจในภายหลัง โดยงานวิจัยนี้ได้ติดตามผู้เข้าร่วมวิจัยนานถึง 25 ปีและทำการตรวจติดตามสุขภาพของผู้เข้าร่วมวิจัยเช่นการตรวจวัดความดันโลหิตเป็นระยะรวมทั้งสิ้น 7 ครั้ง และในช่วงก่อนจบการศึกษามีการตรวจทางภาพวินิจฉัยของหัวใจ จากการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติเพียงเล็กน้อย (120/80 – 139/89) ในขณะที่อายุน้อยกว่า 30 ปีนั้นมีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดปกติที่หัวใจโดยเฉพาะหัวใจห้องล่างซ้ายเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยกลางคน
สูตรอาหารเสริม รวมสารสำคัญ 9 ชนิด สำหรับ เบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง ความดัน ไขมัน
ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แล้วแพทย์จะต้องทำอย่างไร?
ในช่วงก่อนหน้านี้ ภาวะความดันโลหิตสูงหมายถึงการมีความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 ขึ้นไป แต่ในช่วงว 20 ปีที่ผ่านมา พบกว่าการมีระดับความดันโลหิตสูงกว่า 120/80 นั้นมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดสมองอุดตันที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นจึงมีการเรียกกลุ่มผู้ที่มีความดันอยู่ระหว่าง 120/80 และ 139/89 ว่า prehypertension
งานวิจัยนี้ได้กล่าวว่ากลุ่ม prehypertension นี้จะเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นที่หัวใจในภายหลัง โดยความผิดปกติดังกล่าวนั้นเห็นจากการทำ echocardiogram แต่คนส่วนใหญ่มักจะยังไม่มีอาการที่แสดงถึงความผิดปกติ
ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง?
คุณควรไปตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำแม้ว่าคุณจะมีความดันโลหิตต่ำกว่า 120/80 ก็ตามอย่างน้อยปีละครั้ง และอย่าทิ้งห่างกันเกินกว่า 2 ปี
คุณไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ ในปัจจุบันร้านขายยาบางแห่งมีบริการวัดความดันโลหิตฟรี
หากความดันโลหิตของคุณเกิน 120/80 คุณควรเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตของคุณทันที เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่หัวใจและโรคเส้นเลือดสมองอุดตันได้เช่นกัน
หากคุณสูบบุหรี่ คุณควรเลิกสูบบุหรี่เป็นลำดับแรก นอกจากนั้นการรับประทานอาหารที่ดีและการออกกำลังกายก็ช่วยให้ความดันโลหิตของคุณอยู่ในเกณฑ์ปกติเช่นกัน
• คุณควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
• รับประทานผักและผลไม้ในปริมาณที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของอาหารแต่ละมื้อ และมันฝรั่งไม่นับว่าเป็นผัก
• อาหารอีกครึ่งหนึ่งนั้นควรทำมาจากโปรตีนที่มีประโยชน์หรือคาร์โบไฮเดรตจากธัญพืช
• ลดการรับประทานเกลือและใช้เกลือให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
• ดื่มน้ำเปล่าแทนการดื่มน้ำอัดลม
• ทำร่างกายให้ตื่นตัวอยู่เสมอตลอดทั้งวัน
• ออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
แล้วอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต?
ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม prehypertension บางคนอาจจะได้รับประโยชน์จากการเริ่มกินยาลดความดันซึ่งในปัจจุบันยังไม่รู้ว่ายาตัวใดที่จะได้ผลดีที่สุด และงานวิจัยในอนาคตอาจเน้นไปที่การหาพันธุกรรมและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่จะทำให้เป็นโรคนี้