เก็บยาทั่วไปอย่างไรไม่ให้เสื่อมสภาพ?
สำหรับ “ยาทั่วไป” ที่ไม่มีการระบุให้เก็บแช่เย็นนั้น ก็ให้เก็บที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส หรือยาบางรายการก็จะระบุให้เก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิห้องปกติที่ไม่ถูกแสงแดดส่อง หรือใกล้ความร้อน
อีกทั้งหลีกเลี่ยงการเก็บในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ เนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงตัวของยาได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น และแสง การเก็บรักษายาทั่วไปขณะเดินทาง ควรต้องหลีกเลี่ยงจาก 3 ปัจจัยดังกล่าวเช่นกัน
หลีกเลี่ยงการเก็บในที่อุณหภูมิสูงเกินที่กำหนด
เช่น ในรถยนต์ค่ะ ซึ่งหากใครเคยนั่งอยู่ในรถยนต์ที่จอดไว้โดยไม่เปิดแอร์ หรือลดกระจกรถลง ก็คงจะรู้สึกคล้าย ๆ ว่าจะระลึกชาติถึงการเป็นไก่ถูกอบได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใครจะแอบเถียงอยู่ในใจว่า
เพราะฉะนั้น หากจำเป็นต้องเก็บยาขณะเดินทาง จะเห็นได้ว่าการวางยาในรถโดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่ร้อนเช่นใกล้เครื่องยนต์หรือถูกแสงแดด และเปิดแอร์ในรถ ก็พอจะทำได้ค่ะ แต่เมื่อถึงจุดหมายปลายทางก็ให้นำยาไปเก็บในที่ที่เหมาะสม ไม่ควรวางยาทิ้งไว้ในรถต่อนะคะ
ก็คุณเภสัชกรบอกว่าไม่ให้เก็บในที่ร้อนไง ป้าก็เลยคิดว่าจะเอาไปแช่เย็นซะเลย เจ๋งไหมล่ะความคิดของป้า
หลีกเลี่ยงการเก็บยาที่ที่มีความชื้น
การนำยาที่ไม่จำเป็นต้องแช่เย็นไปไว้ในตู้เย็น ก็เหมือนกับหนีเสือปะจระเข้ …หนีความร้อนไปหาความชื้น ยาก็เสื่อมสภาพได้เช่นกันค่ะ
จากการตรวจสอบยาเดิมที่ผู้ป่วยนำมาคืนเมื่อมาพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ดิฉันเคยพบอยู่ในบางครั้งว่าญาติผู้ป่วยที่ประสงค์ดี กลัวผู้ป่วยจะรับประทานยาผิดขนาดหรือไม่สะดวกในการรับประทานยา โดยเฉพาะยาที่ต้องหักแบ่งรับประทานครั้งละครึ่งเม็ด ก็เลยแกะยาออกจากแผงมาหักแบ่งไว้ให้เสร็จสรรพหมดทั้งซอง ดิฉันเห็นแล้วก็อยากจะชื่นชมในความหวังดีนะคะ แต่มันแสนจะปวดใจเมื่อคิดว่าโรงพยาบาลอุตส่าห์จัดซื้อยาแบบแผงซึ่งมักมีราคาแพงกว่ายาตัวเดียวกันที่เป็นเม็ดเปลือย เพื่อหวังว่าจะช่วยป้องกันแสงและความชื้นเวลาที่ผู้ป่วยนำยากลับบ้านไป แต่มาแกะออกทีเดียวหมดเนี่ย… ทำใจยากจัง
อันที่จริง ความหวังดีนี้เป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่ปรับนิดหน่อยเพื่อความเหมาะสมเถอะค่ะ เช่น แทนที่จะหักแบ่งเม็ดยาทีเดียวหมด เปลี่ยนเป็นหักแบ่งไว้ล่วงหน้าครั้งละเม็ด หรือ 2-3 เม็ดจะดีกว่านะคะ ลดระยะเวลาที่ยาอาจสัมผัสแสงหรือความชื้นไปได้เยอะเชียวล่ะ
นอกจากนี้เวลาเก็บยาก็ควรปิดซองยาให้สนิทด้วยค่ะ และเผื่อจะเป็นการเดินทางหรือการเก็บยาในช่วงฤดูฝน ก็น่าจะเก็บยาพ้นจากละอองฝนด้วย (อย่าขำว่าดิฉันก็ว่าไปเรื่อยนะคะ …ถ้าคุณผู้อ่านมาเห็นสภาพยาเดิมที่ผู้ป่วยนำมาคืนแล้ว จะพบอะไร ๆ ที่คาดไม่ถึงได้มากเชียวค่ะ)
เก็บยาให้พ้นแสง
เนื่องจากแสงอาจเร่งให้ยาสลายตัวเร็วขึ้น ยกตัวอย่างในการเดินทางที่วางซองยาไว้ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ หรือบริเวณที่วางของหน้ารถยนต์ …อย่างนี้ไม่ควรไม่ควรทำนะคะ และในการเก็บยาที่บ้าน ควรเก็บในภาชนะบรรจุเดิมค่ะ เช่นแผงยา หรือขวดพลาสติก/ขวดสีชา เนื่องจากยาบางตัวเสื่อมง่ายเมื่อถูกแสง ผู้ผลิตจึงได้คิดค้นบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมมาเก็บรักษายาให้คงสภาพแล้ว การเปลี่ยนภาชนะบรรจุอาจทำให้ยาถูกเก็บในสภาวะที่ไม่เหมาะสมเช่นที่ผู้ผลิตต้องการได้ค่ะ