เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่สามารถพบได้ในธรรมชาติทั่วไป ซึ่งให้ทั้งคุณประโยชน์และโทษแก่เรา ไม่ว่าจะเป็นการย่อยสลายสิ่งเน่าเสีย หรือแม้แต่เป็นสาเหตุของการก่อโรคบางโรค แต่ถ้าบ้านหรือที่พักอาศัยของเรานั้นเต็มไปด้วยห้องมีเชื้อราก็ย่อมมีผลต่อสุขภาพอย่างแน่นอน หากเราไม่กำจัดเชื้อราตั้งแต่ระยะแรกๆ ที่มีในห้อง
สาเหตุที่ทำให้ห้องมีเชื้อรา
อันดับแรกที่เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตก็คือ “ความชื้น” ซึ่งมักจะพบมากในบริเวณบ้านที่มีความอับชื้น เช่น หลังคาที่มีรอยรั่ว ที่ตั้งเครื่องปรับอากาศ ผนังห้องน้ำ ขอบหน้าต่างหรือประตู และฝ้าเพดาน จึงทำให้ห้องมีเชื้อราสะสมจำนวนมากและกำจัดออกได้ยาก ถ้าปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผลเสียต่อสุขภาพจากห้องมีเชื้อรา
เมื่อภายในห้องมีเชื้อราในปริมาณมาก จะทำให้เชื้อรามีการสร้างสปอร์ที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ผื่นคัน มีอาการระคายเคืองต่อตา จมูก และหลอดลม หรือรู้สึกปวดศีรษะ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวประเภทโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด ซึ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ (Allergic reactions) หรือโรคปอดอักเสบจากอาการภูมิแพ้ (Hypersensitivity Pneumonitis) ที่อาจเป็นอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
วิธีกำจัดเชื้อราภายในบ้านหรือที่อยู่อาศัย
การกำจัดเชื้อราอย่างถูกวิธีสามารถช่วยลดปริมาณเชื้อรา และลดความเสี่ยงเกี่ยวกับอาการของโรคภูมิแพ้หรือหอบหืดได้พอสมควร อีกทั้งยังเป็นการช่วยถนอมเครื่องเรือนและวัสดุเฟอร์นิเจอร์ให้ได้รับความเสียหายน้อยลงด้วยเช่นกัน ด้วยวิธีกำจัดเชื้อราดังต่อไปนี้
- ที่นอน ฝ้าเพดาน และพรม วิธีที่ดีที่สุดคือทิ้งของเก่าแล้วเปลี่ยนใหม่ เนื่องจากวัสดุที่นำมาผลิตของใช้ประเภทนี้เป็นชนิดมีรู ทำให้ล้างหรือกำจัดเชื้อราออกยากมากๆ และไม่สามารถกำจัดให้หมดเกลี้ยงได้ หากเรายังฝืนใช้ต่อไปจะยิ่งส่งผลให้เชื้อราขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น แล้วเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยในที่สุด
- ผนังที่มีเชื้อรา ควรขัดล้างผนังให้สะอาดเสียก่อนแล้วค่อยทาสีหรือแล็กเกอร์ ซึ่งควรจำไว้เสมอว่าจะต้องไม่ทาสีหรือแล็กเกอร์ทับผนังที่มีเชื้อราโดยเด็ดขาด เพราะไม่ใช่วิธีกำจัดเชื้อราอย่างถูกต้อง และยังทำให้เชื้อราคงอยู่ไม่หายไปไหน
- ผนังวอลล์เปเปอร์ นำกรดซาลิไซลิกผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1 : 5 และใช้ผ้าสะอาดชุบแล้วเช็ดผนังวอลล์เปเปอร์ประมาณ 2 รอบ หรือจนกว่าเชื้อราจะหายไป แต่ถ้าเช็ดเท่าไรก็ไม่หายก็ควรเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ใหม่
- เฟอร์นิเจอร์ ถ้าห้องมีเชื้อราก็อาจจะส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์มีเชื้อราไปด้วย หากได้รับความชื้นในปริมาณมากพอ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ประเภทไม้เนื้ออ่อนที่จะเกิดเชื้อราได้ง่าย เมื่อไม่ทำความสะอาดแล้วทำให้แห้งสนิทภายใน 24 – 48 ชั่วโมง ดังนั้นจึงควรทิ้งเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นเพราะเชื้อราจะฝังลงเนื้อไม้ ซึ่งเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะกำจัดเชื้อรา
- นำเครื่องใช้ตากแดด กรณีที่เราสามารถทำความสะอาดหรือกำจัดเชื้อราในเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของได้แล้ว ให้นำออกไปตากบริเวณที่แสงแดดส่องถึงประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อเป็นการกำจัดสปอร์ที่อาจจะทำให้ห้องมีเชื้อราได้
- เครื่องหนัง นำผ้าสะอาดชุบกับน้ำส้มสายชูมาเช็ดเครื่องหนังหลายๆ ครั้ง จนกว่ารอยเชื้อราเหล่านั้นจะหายไป จากนั้นจึงค่อยเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดแล้วทำให้เครื่องหนังแห้งสนิท
- ชุดแต่งกาย ผ้าห่ม และผ้าม่าน การแช่น้ำร้อนเป็นวิธีกำจัดเชื้อราอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดี โดยนำผ้าที่มีเชื้อราไปแช่น้ำร้อนแล้วซักให้สะอาด จากนั้นตากแดดจัดๆ เพื่อฆ่าเชื้อรา
- วัสดุที่มีพื้นผิวแข็งๆ ใช้แอลกอฮอล์ น้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างห้องน้ำราดบนพื้นที่มีเชื้อรา แล้วใช้แปรงที่มีขนแปรงแข็งๆ ขัดให้สะอาด จากนั้นเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดจนกว่าจะหมดรอยเชื้อรา
สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันไม่ให้ห้องมีเชื้อรา คือการทำความสะอาดบ้านและข้าวของเครื่องใช้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความชื้น ก็จะช่วยให้เราปลอดภัยจากอาการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุมาจากเชื้อราได้