เรื่องของกลิ่นเท้า นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะน่ากลัวต่อคนรอบข้างเป็นอย่างยิ่ง ขนาดที่ว่าแค่พูดถึงก็รู้สึกขมคอแล้ว บางคนมีกลิ่นเท้าที่รุนแรง ชนิดที่เรียกว่าแค่ถอดรองเท้าออกมาโดยไม่ต้องถอดถุงเท้า ก็ทำให้หลายคนเกิดความพะอืดพะอม รีบควักยาดมมาสูดกันเป็นว่าเล่น ดูเหมือนว่าเรื่องของกลิ่นเท้าจะเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องของกลิ่นเท้าโดยตรงอาจจะไม่ได้รู้สึกตลกด้วย และยังต้องเสียความมั่นใจในการทำหน้าที่การงานอื่น ๆ อีก ดังนั้น วันนี้เรามารู้จักเรื่องของกลิ่นเท้ากันให้มากขึ้น เพื่อที่จะรับมือป้องกันปัญหานี้กันได้อย่างถูกจุดยิ่งขึ้น
สาเหตุของปัญหากลิ่นเท้าเหม็น
ไม่มีใครเกิดมาแล้วจะพบปัญหาเท้าเหม็นเลยในทันที และการจะเป็นโรคเท้าเหม็นได้นั้น มักจะเกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเองมากกว่า เช่น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- เป็นผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกในปริมาณมาก (มากกว่า 4.5 ลิตรในแต่ละสัปดาห์) โดยมีโอกาสเกิดกลิ่นเท้าได้สูง ถ้าหากไม่ดูแลตัวเองให้ดี สำหรับปัจจัยนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากความผิดปกติของต่อมเหงื่อที่อาจต้องตัดออก ถ้าหากรบกวนประสิทธิภาพการใช้ชีวิต และอาจมีการพัฒนาจนเป็นโรคเท้าเหม็น (Pitted keratolysis) ได้ในที่สุด
- ใส่รองเท้าที่มีความมิดชิดและคับแน่นมากจนเกินไป เช่น การใส่รองเท้าสำหรับเล่นกีฬา
- การไม่รักษาความสะอาดบริเวณเท้า เช่น ใส่ถุงเท้าซ้ำกันหลายวัน หรือไม่เคยซักรองเท้าเลยตั้งแต่ซื้อมา เป็นต้น
- ใส่รองเท้าและถุงเท้า ในขณะที่ยังเปียกชื้นหรือแห้งไม่สนิท
- เป็นแผลเรื้อรังที่เท้า อาจเกิดจากแผลเบาหวาน หรือเป็นแผลที่เกิดจากปัญหาต่อมน้ำเหลืองไม่ดี
- การบริโภคอาหารที่มีไขมัน น้ำมันสูง รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีกลิ่นแรง ๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหากลิ่นเท้าได้
มีวิธีป้องกันการเกิดปัญหาเท้าเหม็นหรือไม่ ?
วิธีป้องกันการเกิดกลิ่นเท้าเหม็นที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงปัจจัยและสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเท้า ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือการรักษาความสะอาดของเท้าอยู่ตลอดเวลานั่นเอง สำหรับวิธีนี้สามารถทำได้โดยการใส่รองเท้าที่ไม่อึดอัดและมีรูระบาย หมั่นซักรองเท้าและถุงเท้าให้สะอาดอยู่เสมอ หรือการโรยแป้งเพื่อให้มีการดูดซับความชื้นให้มากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าวิธีต่อไปนี้อาจจะไม่ได้ผลสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของกลิ่นเท้าอย่างรุนแรง แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยทุเลาในส่วนของกลิ่นได้อยู่พอสมควร
วิธีรักษากลิ่นเท้าที่ดีและมีประสิทธิภาพ
สำหรับใครที่มีปัญหากลิ่นเท้า จนสร้างความอับอายหรือบั่นทอนความมั่นใจในตนเองอยู่บ่อยๆ เรามาใช้วิธีรักษากลิ่นเท้าเหล่านี้ รับรองจะช่วยลดกลิ่นเท้าหรือแก้ปัญหากลิ่นเท้าได้อย่างมากขึ้นแน่นอน
1. ใช้สบู่ที่กำจัดแบคทีเรียโดยตรง
มีสบู่หลายยี่ห้อที่มีสรรพคุณในเรื่องของการทำความสะอาดเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียจากผิวหนัง สาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเท้ามากที่สุด ส่วนหนึ่งก็มาจากเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรีย
2. ทาด้วยขี้ผึ้งเบอร์ 29
ถึงแม้ว่าจะเป็นยารักษาตั้งแต่โบราณ แต่ก็สามารถช่วยลดปัญหาเท้าเหม็นได้จริง เพียงแค่เอาขี้ผึ้งทาบาง ๆ ให้ทั่วเท้า แล้วสวมรองเท้าทับ
3. หาสเปรย์ดับกลิ่นเท้าเป็นตัวช่วย
เพราะความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์ ทำให้เกิดการคิดค้นสเปรย์ระงับกลิ่นเท้าโดยตรง เพียงแค่ฉีดเท้าเป็นเวลา 3 ครั้งต่อวัน คือเช้า กลางวัน และเย็น ถ้าหากจะออกไปทำงานข้างนอก ก็แนะนำให้ฉีดพ่นทั่วทั้งเท้า แล้วใส่ถุงเท้าทับก็เป็นอันเรียบร้อย (แต่เมื่อมีกลิ่นเมื่อไร ให้รีบถอดถุงเท้าในทันที)
4. แช่เท้าด้วยเกลือ
เกลือเป็นของใช้ในครัวเรือนที่ทุกคนต้องมีติดบ้านอยู่แล้ว และสามารถกำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำเกลือมาผสมกับน้ำอุ่น แล้วแช่เท้าลงไปอย่างน้อย 20-30 นาที ก็จะช่วยบรรเทากลิ่นเท้า และช่วยคลายความเหนื่อยล้าได้อีกด้วย
5. แช่เท้าด้วยน้ำยาบ้วนปาก
นอกจากเกลือแล้ว น้ำยาบ้วนปากก็มีสรรพคุณในเรื่องของการฆ่าเชื้อโรคเช่นกัน เพียงแค่ซื้อน้ำยาบ้วนปาก (ที่ไม่ต้องดีมาก) เทน้ำยาลงไปผสมกับน้ำในปริมาณ 2 ฝาเต็ม แช่เท้าทิ้งไว้ประมาณ 30 - 60 นาที จะช่วยรักษาปัญหากลิ่นเท้าได้
6. ขัดเท้า
การขัดเท้าสามารถลดกลิ่นเท้าลงได้ เพียงแค่ผสมเบคกิ้งโซดาลงไปในน้ำให้พอข้น ๆ แล้วนำมาขัดบริเวณหลังเท้า ส้นเท้า ฝ่าเท้าและตามด้วยนิ้วเท้าทุกซอกนิ้ว แล้วให้ใช้น้ำเย็นล้างออกจนสะอาด ถ้าหากต้องการความมั่นใจเพิ่มขึ้น แนะนำให้นำเท้าไปแช่ในน้ำที่ผ่านการแช่สารส้มมาแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จะช่วยในการป้องกันกลิ่นเท้าได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น
ปัญหาเรื่องกลิ่นเท้าจะหมดไป หากได้ทำการศึกษาความเป็นมา และลองนำวิธีการแก้ปัญหาเท้าเหม็นไปลองใช้กันดู ควรทำบ่อย ๆ หรือทำเป็นประจำได้ก็จะยิ่งทำให้เท้าคุณสะอาดไร้กลิ่นมากขึ้น ไม่ต้องลำบากใจทุกครั้งที่ต้องถอดรองเท้า ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกล้อเลียนอีกต่อไป