การหาพี่เลี้ยงเด็กที่ไว้ใจได้และเชื่อถือได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับช่วยหาพี่เลี้ยงเด็กที่อาจช่วยให้คุณค้นพบพี่เลี้ยงเด็กที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการได้มากที่สุด เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกจะหาพี่เลี้ยงเด็กได้จากที่ไหน
แนะนำให้เริ่มค้นหาจากชุมชนที่รู้จัก โบสถ์ที่คุณไป โรงเรียนในพื้นที่ ที่ทำงาน เมื่อได้รายชื่อพี่เลี้ยงที่น่าสนใจมาแล้ว ขั้นต่อมาคือต้องตรวจสอบประวัติพี่เลี้ยงเด็กให้ละเอียดก่อน เช่น สอบถามจากครอบครัวอื่นที่เคยจ้างมาก่อน สอบถามจากพี่เลี้ยงเด็กคนอื่นๆ เพื่อค้นหาว่า พวกเขาเคยมีปัญหากับแนวทางที่พี่เลี้ยงปฏิบัติต่อลูกๆ ของพวกเขาบ้างไหม มีอะไรบ้างที่เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันเห็นว่าเป็นปัญหา หรือควรแก้ไข ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนที่คุณจะได้เจอ "ว่าที่พี่เลี้ยงเด็กคนนั้น" จริงๆ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขั้นตอนต่อไปเป็นสิ่งสำคัญมากและห้ามละเลย
สังเกตปฏิกิริยาระหว่างพี่เลี้ยงและลูกของคุณ
เชิญว่าที่พี่เลี้ยงมาเพื่อสัมภาษณ์และให้เจอกับเด็กที่ต้องดูแลจริงๆ เพื่อดูว่า เขา หรือเธอมีปฏิกิริยากับลูกของคุณอย่างไรบ้าง ข้อนี้จะแสดงให้เห็นว่าพี่เลี้ยงมีความสบายใจที่ได้อยู่กับเด็กแค่ไหน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเลือกพี่เลี้ยงที่สนับสนุนแนวทางการเลี้ยงลูกของคุณและควรสอบต้องถามเรื่องการแก้ปัญหา การตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉิน พี่เลี้ยงที่ดีจะสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ นั่นพิสูจน์ว่า เขา หรือเธอสามารถรับงานนี้ได้
เขา หรือเธอมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรือเปล่า?
ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นพี่เลี้ยงจากสิ่งที่ทาง American red cross babysitter’s training program ได้แนะนำไว้ ได้แก่
- ฝึกการปฐมพยาบาล หรือการช่วยฟื้นคืนชีพ
- ความเป็นผู้ใหญ่
- การตัดสินใจที่ดี
- สามัญสำนึก
- บุคลิกเป็นมิตร
- ความรับผิดชอบ
- ไม่สูบบุหรี่
- สุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อ
- อายุและการศึกษา ควรมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และมีวิจารณญาณ
- มีประสบการณ์ในการดูแลเด็กมาก่อน
วางแผนให้พี่เลี้ยงมาถึงบ้านเร็วหน่อย
หลังจากตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงานควรให้เขา หรือเธอมาถึงบ้านของคุณอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนที่คุณจะออกจากบ้านเพื่อคุยเกี่ยวกับประเด็นฉุกเฉินต่างๆ เช่น เบอร์โทรศัพท์ ช่องทางการขอความช่วยเหลือด่วน เนื่องจากมีรายงานว่า “มากกว่าครึ่งของพ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยงอายุน้อยกว่า 16 ปี ไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินไว้” ดร. Keener กล่าว
พูดคุยเรื่องกฎของบ้านและทิ้งข้อมูลสำหรับการติดต่อไว้
คุณต้องพูดคุยเรื่องกฎของคุณกับพี่เลี้ยง และทิ้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อคุณได้ตลอดเวลาไว้ให้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวไว้ว่า ในกรณีที่เกิดเหตุอันตรายถึงชีวิต ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จะได้รับอนุญาตให้รักษาลูกของคุณได้ แต่หากไม่ใช่เหตุร้ายแรงถึงชีวิต พวกเขาจะต้องได้รับคำยินยอมรับการรักษาจากพ่อแม่เสียก่อน
โทรกลับมาที่บ้านเพื่อตรวจดูลูกๆ และพี่เลี้ยง(อย่างน้อยก็ในครั้งแรก)
ในช่วงเย็นคุณควรโทรกลับไปที่บ้านบ้างโดยเฉพาะหากคุณต้องทำงานที่อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจติดต่อได้ง่ายๆ เผื่อทางบ้านต้องการความช่วยเหลือ เช่น ครึ่งชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอน ซึ่งลูกๆ อาจงอแงไม่ยอมเข้านอน คุณอาจแนะนำวิธีการเกลี้ยกล่อมเด็กๆ ให้เข้านอนแก่พี่เลี้ยงเด็กได้
สอบถามอย่างละเอียดหลังจากคุณกลับบ้านแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้านทุกครั้งควรสอบถามพี่เลี้ยงอย่างละเอียดเกี่ยวกับการดูแลลูกๆ ของคุณ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องที่คุณคิดว่าพี่เลี้ยงอาจจะมีปัญหา
บ่อยครั้งที่พี่เลี้ยงคิดว่า พฤติกรรมของเด็กเป็นตัวสะท้อนพวกเขาและอาจลังเลที่จะยอมรับว่า มีปัญหาทางพฤติกรรมจนกว่าจะถูกถาม ดังนั้นการเลือกพี่เลี้ยงที่ได้รับการฝึกเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและการตรวจสอบประวัติพี่เลี้ยงอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับเข้ามาทำงานอาจทำให้คุณรู้สึกสบายใจมากกว่าและปลอดภัยกับลูกของคุณมากกว่าด้วย