,การสักขอบตา ถือเป็นวิธีเพิ่มมิติ ทำให้ดวงตาดูกลมโต ขอบตาดูคมชัด ถือเป็นการเพิ่มเสน่ห์ เสริมความมั่นใจแก่หลายคนได้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กรีดอายไลเนอร์เป็นประจำ การสักขอบตายังช่วยลดเวลาในการเเต่งหน้า และช่วยให้ประหยัดค่าเครื่องสำอางลงไปได้ด้วย
การสักขอบตาคืออะไร?
การสักขอบตา คือ การใช้เข็มร่วมกับหมึกสีสักสีลงบริเวณโคนขนตา ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง เพื่อทำให้ขอบตาแลดูมีขอบคมชัด ดวงตาดูกลมโต เหมือนกรีดอายไลน์เนอร์หรือเขียนด้วยดินสอเขียนขอบตาตลอดเวลา
ทำขนตา ขอบตาวันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 194 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากนี้การสักขอบตายังช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่ตาดูลอย ดูเหนื่อย ทำให้ตาดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และคนที่มีขนตาเบาบาง เมื่อสักขอบตาแล้วจะทำให้ดูเหมือนมีขนตาหนาขึ้น
การสักขอบตามีกี่แบบ?
การสักขอบตาสามารถทำได้ 2 แบบ ได้แก่
- สักขอบตาแบบอินเนอร์ไลเนอร์ (Inner liner) เป็นการสักขอบตาตามแนวเส้นขนตา บริเวณโคนขนตาไปถึงใต้โคนขนตา ทำให้ดวงตาดูสวยคมเป็นธรรมชาติ แทบดูไม่รู้ว่าเป็นการสัก และยังทำให้ดูเหมือนมีขนตาหนาขึ้น
- สักขอบตาแบบอายไลเนอร์ (Eyeliner) เป็นการสักบริเวณเปลือกตา บริเวณโคนขนตาไปจนถึงด้านบน คล้ายกับการเขียนอายไลน์เนอร์ สามารถเลือกลักษณะเส้นลายสักได้ตามความต้องการ เช่น สักแบบมีหาง ตวัดหาง ชั้นใหญ่ เส้นบาง หรือจะสักไล่สีเหมือนแต่งสีตาด้วยอายชาโดว์ก็ได้
ใครที่เหมาะกับการสักขอบตา?
การสักขอบตาเป็นหนึ่งในการสักเสริมความงามที่นิยมกันในปัจจุบัน ผู้ที่เหมาะกับการสักขอบตา ได้แก่
- คนที่เขียนขอบตาไม่ถนัด หรือมีปัญหากับการเขียนขอบตา เช่น สายตาไม่ดี มือสั่น
- คนที่ต้องการประหยัดเวลาในการแต่งหน้า ซึ่งหากสักขอบตาแบบเส้นเล็กมาแล้วอยากให้เส้นหนาขึ้น ก็สามารถเขียนขอบตาทับเพิ่มได้ หรือจะไม่เขียนขอบตาเลยก็มีรอยสักอยู๋
- คนที่แพ้มาสคารา ดินสอเขียนขอบตา หรืออายไลเนอร์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้วเกิดอาการคันตา น้ำตาไหล เคืองตา
- คนที่มีขนตาบาง ชั้นตาเล็ก ซึ่งอยากให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ขนตาดูหนาขึ้น ดวงตาดูคมขึ้น
เตรียมตัวก่อนสักขอบตาอย่างไร?
แม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การสักขอบตาก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อดวงตาอย่างยิ่ง ดังนั้นก่อนเข้ารับการสักจึงควรปรึกษาแพทย์หรือช่างสักผู้เชี่ยวชาญ ถึงวิธีและขั้นตอนอย่างละเอียด
โดยควรเตรียมตัวการสักขอบตา ดังนี้
- ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ทั้งก่อนและหลังทำการสัก ประมาณ 2 สัปดาห์
- เมื่อถึงวันสักขอบตา ควรมีคนมาเป็นเพื่อนเพื่อพากลับบ้าน
- ควรเตรียมแว่นกันแดดเพื่อใส่หลังการสัก เนื่องจากหลังการสักอาจมีอาการเคืองตาหรือตาบวมเกิดขึ้นได้
- หากมีการผ่าตัดบริเวณดวงตาก่อนการสักขอบตา ควรรอให้แผลผ่าตัดหายดีเป็นปกติเสียก่อน จึงเข้ารับการสักขอบตาได้
ทั้งนี้ ในการสักขอบตาอาจมีการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลหรือคลินิกที่คุณเลือกรับบริการ หากเคยมีอาการแพ้ยาเหล่านี้ควรแจ้งให้ผู้สักทราบ หรือปรึกษาแพทย์ก่อนสัก
ทำขนตา ขอบตาวันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 194 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขั้นตอนการสักขอบตา
การสักขอบตาทั้งแบบอินเนอร์ไลเนอร์และอายไลเนอร์ มีขั้นตอนดังนี้
- แพทย์หรือช่างสักจะทำการออกแบบโครงร่างที่จะสักให้ดู และสอบถามความพึงพอใจ
- แพทย์หรือช่างสักให้ยานอนหลับหรือยาชาเฉพาะที่ แล้วรอประมาณ 10-20 นาที เพื่อให้ยาเริ่มออกฤทธิ์ก่อนทำการสักขอบตา
- เริ่มการสักขอบตา โดยใช้ปลายเข็มขนาดเล็กค่อยๆ สักสีลงไปบนขอบตา และย้ำที่เดิมประมาณ 2-3 รอบ จนกว่าสีหมึกจะติดสนิท ใช้เวลาในการสักประมาณ 30 นาที
ดูแลตนเองอย่างไรหลังสักขอบตา?
หลังการสักขอบตาอาจมีอาการเคืองตา แสบตา หรือตาบวมเล็กน้อย (ซึ่งพบได้น้อยมาก) แต่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นและหายได้เอง โดยสามารถเดินทางกลับบ้านได้หลังการสักเสร็จ และควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์หรือช่างสักอย่างเคร่งคัด
วิธีทั่วไปของการดูแลตนเองหลังการสักขอบตามีดังนี้
- ให้ประคบบริเวณที่สักบ่อยๆ ด้วยไอซ์แพ็ก (Ice Pack) หรือผ้าห่อน้ำแข็ง ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม
- รักษาความชุ่มชื้นบริเวณที่สัก โดยทายาตามที่แพทย์หรือช่างสักสั่ง จนกว่าสะเก็ดแผลจะหลุดออกหมด
- ถ้ามีอาการปวด ให้รับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้ แต่ห้ามรับประทานยาแอสไพริน เพราะยาแอสไพรินมีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือด อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดไหลได้
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน และให้ทำความสะอาดตาด้วยสำลีชุบน้ำยาทำความสะอาด EAC Cleansing เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเสี่ยงจากการติดเชื้อ และป้องกันสีหลุดออกไปพร้อมสะเก็ดแผล
- ควรสวมแว่นกันแดด หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ ในช่วง 3-5 วันหลังการสัก เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบ และอาจทำให้สีสักซีดจาง
- หลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกา ขยี้ หรือสัมผัสรุนแรงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดแผลอักเสบ หรือทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน อาจทำให้สีสักขอบตาหลุดและสีติดไม่สม่ำเสมอได้
- หลีกเลี่ยงการเขียนตา กรีดตา ดัดขนตา เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน หรือจนกว่าแผลจะหาย เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการเข้าห้องเซานา (Sauna) และการออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เหงื่อออก เพื่อป้องกันสีหลุดออกไปพร้อมสะเก็ดแผล
- ไม่ควรขับรถเองหลังการสักขอบตาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง และงดใส่คอนแทคเลนส์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นสามารถใส่ได้ตามปกติ
หลังสักขอบตาเสร็จจะเป็นอย่างไร เห็นผลเมื่อไร?
ลำดับของอาการหลังจากสักขอบตาเสร็จแล้ว จนกระทั่งหายเป็นปกติ มีลำดับอาการดังนี้
- หลังการสักทันที หลังสักขอบตาเสร็จใหม่ๆ สีขอบตาอาจจะดูเข้มมากกว่าปกติ เพราะมีสีที่ติดอยู่ที่ผิวหนังกำพร้า มีการบอบช้ำและแผล จากนั้นสีจะเข้มขึ้นทุกๆ วันเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- วันที่ 1-2 หลังการสัก สำหรับคนที่ผิวบอบบางอาจจะมีรอยแดงรอบขอบตา แต่จะค่อยๆ หายไปเองได้ โดยจะหายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
- วันที่ 3-4 หลังการสัก ขอบตาจะดูหนาและเข้มขึ้นมาก เนื่องจากแผลจากการสักกำลังจะตกสะเก็ด
- วันที่ 4-7 หลังการสัก เริ่มมีสะเก็ดแผลหลุดลอกออกมา บางส่วนที่หลุดออกมาก่อนอาจทำให้ดูสีจางมาก ไม่สม่ำเสมอ
- วันที่ 8-10 หลังการสัก สะเก็ดค่อยๆ หลุดออกจนหมด สีจะจางมาก หรืออาจจะดูเหมือนไม่มีสีเลย
- วันที่ 10-14 หลังการสัก สีสักขอบตาจะค่อยๆ ชัดขึ้นเรื่อยๆ
- ภายในวันที่ 28-42 หลังการสัก จะเห็นสีสักขอบตาสีที่แท้จริง
สีสักขอบตาจะติดทนนานแค่ไหน?
สีจากการสักขอบตาจะอยู่ติดได้นานมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองหลังการสัก เนื่องจากชั้นตาเป็นผิวหนังที่บาง ดังนั้นสีที่ติดจะมีปริมาณไม่มาก และอาจจะจางลงเร็วกว่า เมื่อเทียบกับการสักในตำแหน่งอื่น
โดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน ประมาณ 2-3 ปี
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ถ้าต้องการเติมสีเพิ่มเติม จะทำได้เมื่อไรและเติมได้บ่อยแค่ไหน?
ปกติแล้ว การสักขอบตาครั้งแรกอาจยังไม่ได้ให้ผลสมบูรณ์แบบ เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และยังมีปัจจัยจากการบวมช้ำ การดูแลหลังการสัก ที่สามารถส่งผลต่อสีสักขอบตาได้
หากต้องการเติมสีเพิ่ม ควรเว้นระยะห่างจากที่ทำไปแล้วอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และโดยทั่วไปเพื่อเป็นการให้ทรงและสีสักขอบตาสวยอยู่เสมอ อาจจะเติมสีเพิ่มปีละ 1-2 ครั้ง ทั้งนี้ควรปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์หรือช่างสักอีกครั้ง
ข้อเสียของการสักขอบตา
การสักขอบตามีข้อดีที่ทำให้ได้เส้นขอบตาชัด คงทน แต่ในขณะเดียวกัน หากการสักผิดพลาด ข้อดีก็อาจกลายเป็นข้อเสียได้ เช่น
- หากสักขอบตาแล้วไม่พอใจ ต้องการลบรอยสักออก จะทำได้ค่อนข้างยาก ต้องเสียเวลาลบออกมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป และต้องใช้วิธีการยิงเลเซอร์ลบรอยสักออกเท่านั้น อีกทั้งยังใช้เวลานานกว่ารอยสักจะจางลง
- เนื่องจากการสักต้องใช้เครื่องมือแพทย์สักใกล้บริเวณดวงตา จึงมีความเสี่ยงหากสารเคมีกระเด็นเข้าตา หรือ หากพลาดเข็มสักแทงเข้าตา ก็มีอันตรายถึงตาบอดได้
- ถ้าหากสักได้รูปทรงไม่สวย หรือไม่ได้สีตามต้องการ ต้องทำการสักเพื่อแก้ไขรูปทรงหรือเพิ่มเติมสีอีกครั้ง
ข้อเสนอแนะสำหรับผู้กำลังจะตัดสินใจสักขอบตา
สำหรับคนที่มีความต้องการ หรือความจำเป็นต้องสักขอบตา ควรศึกษาและหาข้อมูลรายละเอียดให้รอบคอบ เพราะทุกอย่างที่เป็นการสักอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งสามารถศึกษาข้อเสนอแนะก่อนทำการตัดสินใจ ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเกี่ยวกับสถานพยาบาล คลินิก หรือสถานที่ให้บริการสักที่ต้องการไปสัก
- ตรวจสอบดูความสะอาด ความปลอดภัย ความทันสมัยเครื่องมือ และต้องเป็นสีที่ใช้ทางการแพทย์และเครื่องสำอาง ไม่ก่อปฏิกิริยากับร่างกาย ไม่มีสารอันตรายหรือสารก่อมะเร็ง
- ควรเลือกสักขอบตากับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาล สถานที่ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
- หากเคยมีอาการแพ้ยาหรือยาชา ควรให้แจ้งแพทย์หรือช่างสักทราบ
สักขอบตา ราคาเท่าไร?
ค่าใช้จ่ายในการสักขอบตาขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล คลินิก หรือสถานที่ให้บริการสักแต่ละที่ โดยทั่วไปราคาสักขอบตาบนและล่าง เริ่มตั้งแต่ 4,000 บาทขึ้นไป