กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

เชื้อ HSV-1 คืออะไร?

เผยแพร่ครั้งแรก 2 ต.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
เชื้อ HSV-1 คืออะไร?

ไวรัสชนิดที่เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริมแต่อาจจะไม่ได้ทำให้เกิดอาการเสมอไป

เชื้อ Herpes Simplex Virus สายพันธุ์ที่ 1 (HSV-1) สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้อย่างง่ายดายผ่านการสัมผัสผิวหนังหรือน้ำลายของผู้ติดเชื้อโดยตรง ซึ่งเชื้อ HSV-1 สามารถทำให้เกิดตุ่มน้ำรอบปากและริมฝีปากซึ่งเป็นอาการของโรคเริม

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

นอกจากนั้นเชื้อ HSV-1 ยังทำให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศได้อีกด้วย แต่มักพบว่าเกิดจากการติดเชื้อ HSV สายพันธุ์ที่ 2 (HSV-2) ได้บ่อยกว่า เมื่อ ได้รับเชื้อ HSV-1 เชื้อดังกล่าวจะสามารถอยู่ภายในร่างกายได้ตลอดไปตั้งแต่เมื่อมีการติดเชื้อแต่จะไม่แสดงอาการ การได้รับการกระตุ้นบางอย่าง เช่น ความเครียด อาจทำให้เกิดการกระตุ้นเชื้อและทำให้มีอาการและการระบาดกลับเป็นซ้ำได้

ความชุกของการติดเชื้อ HSV-1

การติดเชื้อ HSV-1 พบได้บ่อยมาก โดยองค์การอนามัยโลกมีการประมาณว่ามีประชากร 67% ทั่วโลกที่อายุน้อยกว่า 50 ปีที่ติดเชื้อ HSV-1 ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการประมาณตัวเลขอยู่ที่ 54% ของประชากรระหว่างอายุ 14-49 ปีที่มีการติดเชื้อ ผู้ที่ติดเชื้อ HSV-1 ส่วนใหญ่มักได้รับเชื้อตั้งแต่ช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น ไม่ใช่ทุกคนที่มีการติดเชื้อ HSV-1 แล้วจะมีอาการของโรคเริ่ม ผู้ที่ติดเชื้อหลายคนอาจไม่ทราบว่าตนเองมีการติดเชื้อก็ได้

คุณเป็นโรคเริมได้อย่างไร?

โรคเริมเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย โดยเชื้อ HSV-1 สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสจากปากสู่ปากจากผู้ที่ติดเชื้อ เชื้อ HSV-1 สามารถติดต่อได้โดยการ...

  • จูบ
  • ใช้แก้วหรืออุปกรณ์การรับประทานอาหารร่วมกัน
  • ใช้ลิปมันหรือลิปสติกร่วมกัน
  • ใช้แปรงสีฟัน มีดโกน ผ้าขนหนูหรือสิ่งของอื่นๆ ที่อาจมีการติดเชื้อไวรัส herpes
  • สัมผัสกับตุ่มแผลของโรคเริม
  • มีเพศสัมพันธ์ทางปาก (อาจเป็นโรคเริมจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปากให้ผู้ที่มีการติดเชื้อherpes ที่บริเวณอวัยวะเพศได้)

หากคุณเป็นโรคเริม ควรรักษาความสะอาดของมือตลอดเวลา เนื่องจากโรคเริมสามารถติดต่อไปยังอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายได้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนการสัมผัสร่างกายส่วนอื่นๆ หรือบุคคลอื่น และพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับตุ่มแผล ในผู้ป่วยบางรายอาจมีการแพร่กระจายของการติดเชื้อ HSV-1 สู่...

  • ปลายนิ้ว (โดยเฉพาะในเด็กที่ชอบดูดนิ้ว)
  • ตา
  • ผิวหนังส่วนอื่นๆ (ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบจะมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้มากกว่า)

เมื่อคุณเป็นโรคเริม พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมดังต่อไปนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น...

  • จูบ
  • แบ่งเครื่องดื่ม อุปกรณ์ทานอาหารหรือสิ่งของที่อาจสัมผัสกับริมฝีปากหรือน้ำลาย
  • มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก

เชื้อ HSV-1 จะมีการแพร่กระจายเชื้อได้มากที่สุดเมื่อมีอาการของโรคเริม แต่ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นได้แม้ว่าจะไม่มีตุ่มน้ำเหล่านี้ก็ตาม


27 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Herpes simplex virus. World Health Organization (WHO). (https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/herpes-simplex-virus)
Cold Sores (Oral Herpes) Treatment, Remedies, Causes, Medicines, Symptoms. MedicineNet. (https://www.medicinenet.com/herpes_simplex_infections_non-genital/article.htm)
Cold Sores: Causes, Symptoms, Treatment, Complications, and Prevention. WebMD. (https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/understanding-cold-sores-basics)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)