ไวรัสชนิดที่เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริมแต่อาจจะไม่ได้ทำให้เกิดอาการเสมอไป
เชื้อ Herpes Simplex Virus สายพันธุ์ที่ 1 (HSV-1) สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้อย่างง่ายดายผ่านการสัมผัสผิวหนังหรือน้ำลายของผู้ติดเชื้อโดยตรง ซึ่งเชื้อ HSV-1 สามารถทำให้เกิดตุ่มน้ำรอบปากและริมฝีปากซึ่งเป็นอาการของโรคเริม
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากนั้นเชื้อ HSV-1 ยังทำให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศได้อีกด้วย แต่มักพบว่าเกิดจากการติดเชื้อ HSV สายพันธุ์ที่ 2 (HSV-2) ได้บ่อยกว่า เมื่อ ได้รับเชื้อ HSV-1 เชื้อดังกล่าวจะสามารถอยู่ภายในร่างกายได้ตลอดไปตั้งแต่เมื่อมีการติดเชื้อแต่จะไม่แสดงอาการ การได้รับการกระตุ้นบางอย่าง เช่น ความเครียด อาจทำให้เกิดการกระตุ้นเชื้อและทำให้มีอาการและการระบาดกลับเป็นซ้ำได้
ความชุกของการติดเชื้อ HSV-1
การติดเชื้อ HSV-1 พบได้บ่อยมาก โดยองค์การอนามัยโลกมีการประมาณว่ามีประชากร 67% ทั่วโลกที่อายุน้อยกว่า 50 ปีที่ติดเชื้อ HSV-1 ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการประมาณตัวเลขอยู่ที่ 54% ของประชากรระหว่างอายุ 14-49 ปีที่มีการติดเชื้อ ผู้ที่ติดเชื้อ HSV-1 ส่วนใหญ่มักได้รับเชื้อตั้งแต่ช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น ไม่ใช่ทุกคนที่มีการติดเชื้อ HSV-1 แล้วจะมีอาการของโรคเริ่ม ผู้ที่ติดเชื้อหลายคนอาจไม่ทราบว่าตนเองมีการติดเชื้อก็ได้
คุณเป็นโรคเริมได้อย่างไร?
โรคเริมเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย โดยเชื้อ HSV-1 สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสจากปากสู่ปากจากผู้ที่ติดเชื้อ เชื้อ HSV-1 สามารถติดต่อได้โดยการ...
- จูบ
- ใช้แก้วหรืออุปกรณ์การรับประทานอาหารร่วมกัน
- ใช้ลิปมันหรือลิปสติกร่วมกัน
- ใช้แปรงสีฟัน มีดโกน ผ้าขนหนูหรือสิ่งของอื่นๆ ที่อาจมีการติดเชื้อไวรัส herpes
- สัมผัสกับตุ่มแผลของโรคเริม
- มีเพศสัมพันธ์ทางปาก (อาจเป็นโรคเริมจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปากให้ผู้ที่มีการติดเชื้อherpes ที่บริเวณอวัยวะเพศได้)
หากคุณเป็นโรคเริม ควรรักษาความสะอาดของมือตลอดเวลา เนื่องจากโรคเริมสามารถติดต่อไปยังอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายได้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนการสัมผัสร่างกายส่วนอื่นๆ หรือบุคคลอื่น และพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับตุ่มแผล ในผู้ป่วยบางรายอาจมีการแพร่กระจายของการติดเชื้อ HSV-1 สู่...
- ปลายนิ้ว (โดยเฉพาะในเด็กที่ชอบดูดนิ้ว)
- ตา
- ผิวหนังส่วนอื่นๆ (ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบจะมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้มากกว่า)
เมื่อคุณเป็นโรคเริม พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมดังต่อไปนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น...
- จูบ
- แบ่งเครื่องดื่ม อุปกรณ์ทานอาหารหรือสิ่งของที่อาจสัมผัสกับริมฝีปากหรือน้ำลาย
- มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก
เชื้อ HSV-1 จะมีการแพร่กระจายเชื้อได้มากที่สุดเมื่อมีอาการของโรคเริม แต่ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นได้แม้ว่าจะไม่มีตุ่มน้ำเหล่านี้ก็ตาม