ในยุคที่มีโรคระบาด สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงจนก่อให้เกิดอาการป่วยได้หลากหลาย “สุขภาพ” จึงเป็นสิ่งที่หลายคนหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น หนึ่งในสิ่งที่จะช่วยให้รับรู้ว่าร่างกายของเรามีความผิดปกติหรือไม่ ต้องเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรไหม ก็คือการ “ตรวจสุขภาพประจำปี” แต่รายการตรวจสุขภาพมักมีจำนวนมากเป็นหลักสิบ บางคนจึงอาจเลือกไม่ถูกว่า สำหรับเราแล้ว แค่ไหนถึงจะเหมาะสม ครอบคลุม และคุ้มค่าตรวจที่สุด
จิ๊บจาก HD.co.th ขออาสาคัดเลือก 10 โปรแกรมตรวจสุขภาพตัวเด่นสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มาตีแผ่ให้ดูเน้นๆ เปรียบเทียบจุดเด่นให้ดูชัดๆ
บอกไว้ก่อนนิดนึงว่าราคาไม่ได้แพงมากอย่างที่คิด อยู่ในช่วง 6,000-30,000 กว่าบาท ขึ้นอยู่กับรายการตรวจ
5 รายการตรวจสุขภาพพื้นฐาน
ก่อนดูข้อมูลเปรียบเทียบ 10 โปรแกรมตรวจสุขภาพจากบำรุงราษฎร์ จิ๊บขอแนะนำรายการตรวจสุขภาพพื้นฐานให้ทุกคนรู้จักไว้สักหน่อย
ตามปกติแล้ว ในแพ็กเกจตรวจสุขภาพแทบทุกแพ็กเกจจะมีรายการตรวจพื้นฐานอยู่ แต่ละอย่างตรวจเพื่อประโยชน์ดังต่อไปนี้
1. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
ตรวจแยกว่าเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวแต่ละชนิด อยู่ในเกณฑ์ปกติรึเปล่า ช่วยบอกภาวะโลหิตจาง และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันได้
2. ตรวจปัสสาวะ (Urine Analysis หรือ UA)
ตรวจปัสสาวะ เพื่อช่วยคัดกรองโรคเกี่ยวกับไต เบาหวาน นิ่วบางชนิด การอักเสบ และการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
3. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar หรือ FBS)
ตรวจน้ำตาลในเลือดขณะที่อดอาหาร เพื่อดูว่าเป็นโรคเบาหวานหรือไม่
4. ตรวจการทำงานของตับ
มีหลายค่าที่ใช้ดูความผิดปกติของตับ เช่น SGPT (ALT), SGOT (AST), Alkaline Phosphatase (Alk Phos) ถ้าตรวจทั้ง 3 ค่า จะช่วยให้การวิเคราะห์การทำงานของตับแม่นยำยิ่งขึ้น
5. ตรวจการทำงานของไต
มักจะตรวจค่า BUN ซึ่งเป็นปริมาณไนโตรเจนในกระแสเลือด และสาร Creatinine (Cr) ในเลือด ปกติสารทั้ง 2 ตัวนี้จะถูกกำจัดออกทางไต ถ้ามีอยู่ในเลือดมากไปก็บ่งชี้ว่าไตทำงานผิดปกติได้
บำรุงราษฎร์มีรายการตรวจสุขภาพแบบไหนบ้าง?
สำหรับปี 2563 นี้ ทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้มีรายการตรวจสุขภาพเด่นๆ ให้คุณเลือก แบ่งออกเป็นเพศหญิง-ชาย ตามช่วงอายุต่างๆ ดังนี้
โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิง
- ตรวจสุขภาพทั่วไป Regular Program Female ราคา 7,410 บาท
- ตรวจสุขภาพ Executive Program Female ราคา 14,260 บาท
- ตรวจสุขภาพ Comprehensive Program Female สำหรับอายุน้อยกว่า 40 ปี ราคา 21,910 บาท
- ตรวจสุขภาพ Comprehensive Program Female สำหรับอายุมากกว่า 40 ปี ราคา 28,070 บาท
- ตรวจสุขภาพ Holistic 70+ Female ราคา 36,000 บาท
โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้ชาย
- ตรวจสุขภาพทั่วไป Regular Program Male ราคา 6,160 บาท
- ตรวจสุขภาพ Executive Program Male ราคา 12,215 บาท
- ตรวจสุขภาพ Comprehensive Program Male ราคา 24,760 บาท
- ตรวจสุขภาพ Comprehensive Advance Program Male ราคา 28,410 บาท
- ตรวจสุขภาพ Holistic 55-69 Male ราคา 36,000 บาท
เปรียบเทียบ 10 โปรแกรมตรวจสุขภาพตัวเด่น จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
โปรแกรมตรวจสุขภาพที่จิ๊บเลือกมาวันนี้ จะแยกเป็นโปรแกรมสำหรับผู้หญิงกับผู้ชาย ในช่วงวัยต่างๆ ซึ่งมีตั้งแต่ตรวจพื้นฐานทั่วไป (Regular) แบบที่มีรายการตรวจพิเศษเพิ่มขึ้นมา (Executive) แพ็กเกจตรวจแบบครอบคลุม (Comprehensive) และแพ็กเกจตรวจแบบองค์รวม (Holistic) ซึ่งเป็นการตรวจแบบละเอียด ช่วยให้แพทย์วิเคราะห์และแนะนำการดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
ทุกโปรแกรมนอกจากการตรวจพื้นฐานที่จำเป็นแล้ว จะมีการตรวจเอกซเรย์ปอด ตรวจอุจจาระ และตรวจมะเร็งปากมดลูกให้ทุกแพ็กเลย ไม่ต้องไปตรวจภายในประจำปีแยกต่างหาก
1. โปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไป Regular Program Female
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 2-3 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- แพ็กเกจนี้เป็นโปรแกรมตรวจพื้นฐานสำหรับผู้หญิง มีรายการตรวจที่จำเป็นครบ แล้วยังได้ตรวจเอกซเรย์ปอดด้วย
- ข้อดีของแพ็กเกจที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ คือ นอกจากจะตรวจเอกซเรย์ปอดให้ทุกแพ็กแล้ว ยังได้ตรวจอุจจาระเพื่อหาพยาธิและความผิดปกติของทางเดินอาหารด้วย แม้จะเป็นแค่โปรแกรมพื้นฐาน
- แต่เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่น แพ็กเกจนี้อาจจะตรวจค่าไตไม่ละเอียดเท่า เพราะตรวจแค่ Creatinine (Cr) เพียงตัวเดียว
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรมนี้ ตรวจได้ทุกช่วงวัยนะ เป็นการตรวจเบื้องต้นเฉพาะตัวพื้นฐาน ถ้าอายุยังน้อย เพิ่งเริ่มตรวจ และไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ จิ๊บแนะนำให้เลือกตรวจแพ็กเกจนี้ได้เลยน้า”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Regular Program Female ที่นี่
2. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Executive Program Female
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 3-4 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- Excutive Program Female เป็นโปรแกรมที่มีความพิเศษขึ้นมา จะมีการตรวจค่าตับที่ละเอียดขึ้น โดยตรวจค่า Alkaline Phosphatase (ALP) ด้วย
- เพิ่มการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และมีอัลตราซาวด์ช่องท้อง เมื่อเสริมกับการตรวจภายในโดยแพทย์เฉพาะทางแล้ว จะทำให้การตรวจมะเร็งปากมดลูกแม่นยำยิ่งขึ้นด้วย
- การตรวจช่องท้องของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จะได้ตรวจทั้งช่องท้องส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้ได้ตรวจดูอวัยวะภายในหลายอย่าง ช่องท้องส่วนบน ได้แก่ ตับอ่อน ม้าม ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ไต ช่องท้องส่วนล่าง ได้แก่ มดลูก ปีกมดลูก รังไข่ ต่อมลูกหมาก กระเพาะปัสสาวะ ไส้ติ่ง
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรมนี้ มีตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอัลตราซาวด์ช่องท้องด้วย เทียบกับแพ็กเกจแรก แบบนี้จะเหมาะกับอายุมากขึ้นมาหน่อย ใครที่อายุถึง 35 และอยากตรวจเพิ่มเติมให้ครบ ก็เลือกแพ็กเกจนี้ได้เลย จิ๊บแนะนำ!”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Executive Program Female ที่นี่
3. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Comprehensive Program Female สำหรับอายุน้อยกว่า 40
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 4-6 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- Comprehensive Program เป็นโปรแกรมตรวจแบบครอบคลุม ซึ่งจะตรวจละเอียดถึงการทำงานของต่อมไทรอยด์ (TSH, Free T4) ไวรัสตับอักเสบบี และสารบ่งชี้มะเร็งในทางเดินอาหาร (CEA) และตับด้วย (AFP)
- การตรวจเบาหวานก็ครอบคลุมถึงการตรวจน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) แล้วยังมีการตรวจตับที่ละเอียดมากๆ ทั้ง Bilirubin, Albumin, Globulin และ Gamma GT (GGT) เพิ่มจากตัวพื้นฐาน ซึ่งมีข้อดี คือ หากผิดปกติจะทำให้รู้สาเหตุได้แน่ชัดขึ้นว่าเกิดจากอะไร
- ส่วนใครที่กังวลเรื่องสายตา แพ็กเกจนี้ก็มีตรวจตาด้วย นอกจากวัดสายตาทั่วไป ยังมีการวัดความดันลูกตา เพื่อดูความเสี่ยงตาเป็นต้อหินอีกอีกต่างหาก
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรมนี้ ตรวจได้ทุกช่วงอายุ ครอบคลุมไปถึงไทรอยด์ ไวรัสตับอักเสบบี และมะเร็งบางชนิด คนที่มีสุขภาพดีก็ตรวจได้ ใครที่รู้สึกว่าร่างกายมีความผิดปกติบางอย่างโดยไม่รู้สาเหตุ เช่น น้ำหนักขึ้นหรือลงผิดปกติ ความจำไม่ดี ผมร่วง ผิวพรรณไม่สดใส…จิ๊บยิ่งแนะนำให้ตรวจโปรแกรมนี้เลยนะจ๊ะ”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Comprehensive Program Female สำหรับอายุน้อยกว่า 40 ที่นี่
4. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Comprehensive Program Female สำหรับอายุ 40 ปีขึ้นไป
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 4-6 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- ไม่ต่างจาก Comprehensive Program Female แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ “การตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์” เพื่อคัดกรองมะเร็งเต้านม ซึ่งการตรวจทั้งแบบแมมโมแกรมและเครื่องอัลตราซาวด์ มีข้อดีคือช่วยให้ตรวจเต้านมละเอียดยิ่งขึ้น โดยแมมโมแกรมจะตรวจพบความผิดปกติได้แม้จะมีเพียงจุดหินปูนขนาดเล็ก ส่วนอัลตราซาวด์จะช่วยแยกได้ว่าสิ่งที่พบเป็นน้ำหรือก้อนเนื้อ
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรมนี้แนะนำสำหรับผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป ครอบคลุมสุดๆ ไปถึงไทรอยด์ ไวรัสตับอักเสบบี และคัดกรองมะเร็งเต้านมได้ละเอียดสุดๆ ซึ่งวัย 40+ นี่ก็นับเป็นกลุ่มเสี่ยง”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Comprehensive Program Female สำหรับอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่นี่
5. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Holistic 70+ Female
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 6-8 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- แพ็กเกจ Holistic 70+ เป็นโปรแกรมตรวจสุขภาพแบบองค์รวม นอกจากจะครอบคลุมการตรวจเบาหวาน ความดัน ไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดแล้ว ยังมีรายการตรวจพิเศษที่เหมาะสำหรับคนอายุ 70 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะด้วย เช่น
- ตรวจความหนาแน่นกระดูก
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- เอกซเรย์ปอด
- ตรวจการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
- ตรวจวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น
- ตรวจไทรอยด์
- คัดกรองมะเร็ง
- ตรวจสายตา และความดันในลูกตา
- ตรวจการได้ยิน
- มีการตรวจความหนาแน่นกระดูกช่วงกระดูกสันหลัง ทั้งส่วนเอวและสะโพก ซึ่งจำเป็นในผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้หญิง ที่มีแนวโน้มจะเกิดกระดูกบางหรือพรุนได้ง่ายตั้งแต่หมดประจำเดือน และยิ่งอายุมากขึ้นโอกาสเกิดก็จะยิ่งสูงขึ้น
- ตรวจการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงส่วนปลายก็มีความจำเป็นมากเช่นกัน เพราะพบว่าคนอายุมากกว่า 70 ปี กว่า 20% เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ทำให้หลอดเลือดแดงที่ขาตีบหรือตัน ซึ่งภาวะนี้ถ้าเป็นระยะแรกจะไม่แสดงอาการ หรืออาจจะแค่มีอาการปวดขาขณะเดิน หากตรวจแต่เนิ่นๆ แล้วรักษาก่อนก็จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหลอดเลือดและสมอง ที่จะส่งผลกระทบรุนแรงตามมาได้ จิ๊บว่าสำคัญมากเลย
- นอกจากนี้ ยังได้ตรวจวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการทำงานของร่างกายหลายระบบ เช่น สมดุลแร่ธาตุและความดันเลือด กระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบประสาทและสมอง แต่มักขาดหรือมีไม่พอในผู้สูงอายุ ได้แก่ วิตามินดี วิตามินบี12 โซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียม
- ตรวจไทรอยด์ คัดกรองมะเร็งทางเดินอาหาร ตับ และเต้านม ก็มีรวมอยู่ในแพ็กเกจด้วย แต่ตรวจมะเร็งเต้านมจะตรวจให้เฉพาะผู้ที่อายุต่ำกว่า 80 ปีเท่านั้นจ้า
- ที่สำคัญ มีตรวจตาและการได้ยินด้วยนะ แพ็กเกจนี้จะได้ตรวจตาโดยละเอียด ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยที่ศูนย์จักษุของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์โดยเฉพาะเลย
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรมนี้ เหมาะสำหรับคนที่อายุ 70 ปีขึ้นไป เพราะครอบคลุมความเสี่ยงที่มักพบในคนอายุช่วงวัยนี้ ใครที่มีผู้ใหญ่ที่บ้าน ต้องการเลือกโปรแกรมตรวจเพื่อช่วยดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น จิ๊บรับรองว่าเลือกแพ็กเกจนี้ไม่ผิดหวังจ้า”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Holistic 70+ Female ที่นี่
6. โปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไป Regular Program Male
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 2-3 ชั่วโมง
จุดเด่น
- โปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไปของผู้ชาย มีรายการตรวจเหมือนของผู้หญิง แต่ราคาแพ็กเกจถูกกว่าเพราะไม่มีการตรวจมะเร็งปากมดลูก
- มีโปรแกรมตรวจพื้นฐานครบ มีเอกซเรย์ปอด และตรวจอุจจาระเช่นเดียวกัน
จิ๊บแนะนำ:
“ผู้ชายทุกช่วงวัยสามารถตรวจโปรแกรมนี้ได้ เพราะเป็นการตรวจเบื้องต้นเฉพาะตัวพื้นฐาน ถ้าอายุยังน้อย เพิ่งเริ่มตรวจ และรู้สึกว่าตัวเองไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ จิ๊บแนะนำให้เลือกตรวจแพ็กเกจนี้เลย”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Regular Program Male ที่นี่
7. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Executive Program Male
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 3-4 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- แพ็กเกจนี้ตรวจละเอียดขึ้นมาจากโปรแกรมพื้นฐาน 3 อย่าง ได้แก่ ตรวจค่าตับ ALP ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และอัลตราซาวด์ช่องท้องทั้งหมด เช่นเดียวกับแพ็กเกจของผู้หญิง
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรมนี้มีตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอัลตราซาวด์ช่องท้องด้วย ถ้าอายุ 35 ปีขึ้นไป จิ๊บแนะนำให้ตรวจแพ็กเกจนี้ได้เลย ถือว่ารายการตรวจเหมาะสม ครบกำลังดี!!”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Executive Program Male ที่นี่
8. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Comprehensive Program Male
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 4-6 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- Comprehensive Program ของผู้ชายไม่ได้แบ่งช่วงอายุ เป็นการตรวจแบบครอบคลุมเหมาะกับทุกช่วงวัยเช่นกัน รายละเอียดการตรวจเหมือนของผู้หญิง แต่เพิ่มการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก
- สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือ ได้ตรวจ "สมรรถภาพของหัวใจขณะออกกำลัง (EST)" ซึ่งใช้วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ ตรงนี้ค่อนข้างสำคัญเลย คือจากสถิติพบว่า เพศชายมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากกว่าเพศหญิง โดยจะเริ่มมีความเสี่ยงตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรม Comprehensive นี้ เหมาะกับทุกช่วงอายุ และดีที่มีการตรวจครอบคลุมไปถึงไทรอยด์ ไวรัสตับอักเสบบี และมะเร็งบางชนิด อย่างที่บอกไป ใครที่รู้สึกว่าร่างกายมีความผิดปกติบางอย่าง เช่น น้ำหนักขึ้นหรือลงผิดปกติ ลดน้ำหนักยาก ความจำไม่ดี ผมร่วงเยอะ…จิ๊บแนะนำให้ตรวจโปรแกรมนี้นะ”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Comprehensive Program Male ที่นี่
9. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Comprehensive Advance Program Male
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 4 ถึง 6 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- แพ็กเกจนี้จะเพิ่มการตรวจวิตามินดีขึ้นมาจากโปรแกรมก่อนหน้า ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีความกังวลว่าจะขาดวิตามินดี โดยคนที่เสี่ยงจะขาดวิตามินดี ได้แก่ คนที่อยู่ในร่มเป็นประจำ โดนแดดน้อย ซึ่งการขาดวิตามินดีส่งผลให้มีความเสี่ยงกระดูกหักจากภาวะกระดูกพรุนได้ เสี่ยงต่อโรคหัวใจเป็น 2 เท่า เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และโรคซึมเศร้าอีกด้วย
จิ๊บแนะนำ:
“Comprehensive Advance เพิ่มการตรวจวิตามินดี ใครที่มีความเสี่ยงที่จะขาดวิตามินดี และอยากตรวจแบบครอบคลุม…จิ๊บแนะนำให้เลือกแบบนี้นะจ๊ะ”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Comprehensive Advance Program Male ที่นี่
10. โปรแกรมตรวจสุขภาพ Holistic 55-69 Male
เวลาโดยประมาณที่ใช้ในการตรวจ: 6-8 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- เป็นโปรแกรมตรวจสุขภาพแบบองค์รวมของผู้ชาย มีการตรวจที่ครอบคลุมหลายระบบ สามารถตรวจได้ทุกช่วงอายุ
- นอกจากจะครอบคลุมการตรวจเบาหวาน ความดัน ไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดแล้ว ยังมีรายการตรวจพิเศษเช่นเดียวกับของผู้หญิง ดังนี้
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- ตรวจสมรรถภาพหัวใจ (EST)
- เอกซเรย์ปอด
- ตรวจการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
- ตรวจวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น
- ตรวจไทรอยด์
- คัดกรองมะเร็ง
- ตรวจสายตา และความดันในลูกตา
- ตรวจการได้ยิน
- เทียบกับโปรแกรมสำหรับผู้หญิง โปรแกรมนี้ของผู้ชายจะมี “การตรวจสมรรถภาพของหัวใจขณะออกกำลัง (EST)” เพิ่มขึ้นมา ซึ่งข้อดีก็อย่างที่บอกไปแล้วว่า จากสถิติผู้ชายมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจมากกว่า
จิ๊บแนะนำ:
“โปรแกรมตรวจแบบองค์รวม จะช่วยให้การดูแลสุขภาพเหมาะสมที่สุด ใครที่ต้องการตรวจให้ครบทุกระบบ หรือรู้สึกว่ามีปัญหาสุขภาพ จิ๊บว่าแพ็กเกจนี้เหมาะเลยนะ”
กดดูรายการตรวจทั้งหมดของ Holistic 55-69 Male ที่นี่
จบครบทั้งจุดเด่นและคำแนะนำจากจิ๊บ สำหรับ 10 โปรแกรมตรวจสุขภาพ ผู้หญิง ผู้ชาย ในแต่ละช่วงวัย ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หวังว่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกโปรแกรมได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ใครยังลังเลว่าไปตรวจสุขภาพดีไหม หรือเห็นว่าตัวเองไม่เคยมีอาการอะไร น่าจะไว้ค่อยไปก็ได้ รอตอนอายุเยอะๆ หรือรู้สึกไม่สบายก่อนค่อยตรวจดีกว่า จิ๊บอยากฝากไว้นิดว่า หลายโรคกว่าจะแสดงอาการก็ต่อเมื่ออาการเข้าสู่ระยะรุนแรงแล้ว ซึ่งตอนนั้นอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาด หรืออาจต้องเสียเงินเสียทองจำนวนมาก ยังไม่นับว่าคุณภาพชีวิตก็จะต้องแย่ลงด้วยในช่วงที่ป่วยหนัก
การตรวจสุขภาพทุกปีจะช่วยให้ทราบถึงอาการผิดปกติตั้งแต่ยังเป็นไม่มาก สามารถรักษาได้ทันท่วงที หรือสำหรับภาวะบางอย่าง เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็อาจทำให้ไม่พัฒนาไปจนเป็นโรคขึ้นด้วยซ้ำ