นิทานก่อนนอน เป็นอีกความทรงจำวัยเด็กที่หลายๆ คนชื่นชอบ เพราะเป็นเวลาที่ได้รับฟังเรื่องราวสนุกสนาน และได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่
นอกจากนี้นิทานก่อนนอนยังส่งผลดีอื่นๆ แก่เด็ก เช่น เสริมสร้าง EQ ฝึกการแสดงออก เรียนรู้เรื่องภาษาและจินตนาการ
ควรเล่านิทานก่อนนอนให้เด็กฟังตั้งแต่กี่ขวบ?
เด็กมักต้องการให้พ่อแม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง เมื่ออายุ 3 ขวบ จนเมื่ออายุประมาณ 7 ขวบขึ้นไป เด็กจะเริ่มเข้านอนได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งนิทานก่อนนอน หรืออยากเข้านอนโดยไม่ต้องการให้พ่อแม่มาเล่านิทานให้ฟังอีก
นอกจากนี้ เด็กๆ หลายคนยังต้องการอ่านนิทานก่อนนอนด้วยตนเอง ไม่ต้องให้พ่อแม่เป็นผู้เล่านิทานให้ฟังก็ได้
ข้อดีของการเล่านิทานก่อนนอน
การเล่านิทานนอนให้ลูกฟังนั้นมีข้อดีหลายอย่าง เช่น
1. นิทานก่อนนอนทำให้เด็กสัมผัสถึงความรักของพ่อแม่
การเล่านิทานก็เหมือนการสอนบทเรียน ข้อคิดดีๆ อีกรูปแบบหนึ่ง ที่สนุกกว่าการพูดจาอบรมสั่งสอนทั่วไป เด็กจึงสัมผัสได้ว่า พ่อแม่รักและอยากสนุกไปกับจินตนาการพร้อมกับเขา
อีกทั้งขณะเล่านิทาน พ่อแม่ยังได้นั่งหรือนอนใกล้ๆ ลูก ช่วยส่งเสริมให้ครอบครัวเกิดความรักและใกล้ชิดต่อกันมากขึ้น
2. นิทานก่อนนอนช่วยส่งเสริมทักษะด้านสติปัญญาและอารมณ์
การเล่านิทานสามารถสร้างเสริมเชาว์ปัญญา รวมถึงความฉลาดทางอารมณ์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ไอคิว (IQ) กับอีคิว (EQ) ได้ ผ่านเนื้อเรื่องนิทานที่จะฝึกให้เด็กลองคิด วิเคราะห์ที่มาที่ไปของสถานการณ์ในเนื้อเรื่องอย่างง่ายๆ รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก
3. นิทานก่อนนอนฝึกให้เด็กกล้าแสดงออก
การเล่านิทานก่อนนอนกับพ่อแม่ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดเด็กจะทำให้เด็กกล้าถามข้อสงสัย กล้าสังเกต และเริ่มหัดคิด ซึ่งจะช่วยให้เด็กเป็นคนกล้าพูด กล้าตัดสินใจ และกล้าซักถามเมื่อเกิดข้อสงสัยเมื่อเติบโตขึ้น ไม่เก็บสิ่งที่สงสัยไว้เงียบๆ ในใจ
4. นิทานก่อนนอนทำให้เด็กได้เรียนรู้ภาษา
ไม่ว่าคุณจะเล่านิทานให้เด็กฟังเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างชาติอื่นๆ ก็ล้วนแต่เป็นตัวช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษา สำเนียง รวมถึงคำศัพท์ต่างๆ เพิ่มเติมจากในห้องเรียน
อีกทั้งนิทานก่อนนอนยังช่วยให้เด็กจดจำคำศัพท์ได้ดี มีทัศคติที่ดีต่อการเรียนภาษามากขึ้นด้วย
5. นิทานก่อนนอนช่วยฝึกทักษะด้านคณิตศาสตร์
เด็กๆ อาจได้เรียนรู้ทักษะด้านคณิตศาสตร์ผ่านการนับตัวละครในภาพ การบวกเลขง่ายๆ ผ่านเนื้อเรื่องในนิทาน และทำให้เขาสามารถเข้าใจบทเรียนในห้องเรียนได้ง่ายขึ้น
6. นิทานก่อนนอนช่วยฝึกสมาธิ
การเล่านิทานเป็นการฝึกให้เด็กจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่องและเสียงเล่าของพ่อแม่ ทำให้เด็กหัดมีสมาธิอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ ซึ่งจะพัฒนาเป็นพฤติกรรมที่ดีต่อการเรียนและการทำงานในอนาคต
7. นิทานก่อนนอนช่วยเสริมจินตนาการ
นิทานก่อนนอนสามารถช่วยสร้างเสริมให้เด็กมีจินตนาการกว้างไกลผ่านการนึกคิดเหตุการณ์ตามเนื้อเรื่องของนิทาน ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกมีความสุขที่ได้นึกภาพอะไรใหม่ๆ และสนุกไปกับนิทานก่อนนอนหลับพักผ่อนมากขึ้นด้วย
8. นิทานก่อนนอนปลูกฝังพฤติกรรมรักการอ่าน
เมื่อเด็กค้นพบว่าการอ่านมีแต่ความสนุกสนาน เด็กก็จะเริ่มต่อยอดกิจกรรมด้านการอ่านไปเป็นการอ่านหนังสือเพิ่มเติม เขาอาจอยากลองอ่านหนังสือด้านอื่นๆ นอกเหนือจากหนังสือนิทาน ซึ่งจะช่วยเติมความรู้ให้กับเด็กได้อีกมากมาย
9. นิทานก่อนนอนช่วยให้เด็กเรียนรู้ด้านคุณธรรม
นิทานก่อนนอนมักสอดแทรกข้อคิดดีๆ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ตั้งแต่เด็ก เด็กจะได้เรียนรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควรทำ ไม่ควรทำ และทำให้เขากลายเป็นคนดีของสังคม สามารถวิเคราะห์ได้ด้วยตนเองว่า การกระทำใดที่ไม่ถูกต้อง
10. นิทานก่อนนอนช่วยให้เด็กรู้คุณค่าของเวลา
การอ่านนิทานก่อนนอนสามารถกระตุ้นเด็กให้เข้านอนตรงเวลาได้ เพราะเขาจะรู้ว่านั่นคือเวลาของความสนุกและได้อยู่กับพ่อแม่
11. นิทานก่อนนอนช่วยฝึกวินัยให้พ่อแม่
พ่อแม่หลายคนมักมีข้ออ้างเรื่องไม่มีเวลาให้ลูกว่า ตนเองงานยุ่ง เหนื่อยจากงานมาทั้งวัน และอยากพักผ่อน หรืออยากมีเวลาส่วนตัวในช่วงกลางคืนบ้าง
แต่หากคุณหัดลองเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกทุกวัน ตารางชีวิตของคุณจะก็มีเวลาที่ต้องอยู่กับลูกเพิ่มเข้ามา และเมื่อลองทำอย่างสม่ำเสมอ คุณจะเริ่มชินว่า ในทุกๆ วัน คุณจะต้องแบ่งเวลาเพื่ออยู่กับลูกบ้าง
เคล็ดลับการเล่านิทานก่อนนอน
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคนอาจอยากรู้ว่า มีเคล็ดลับอะไรที่จะช่วยให้การเล่านิทานก่อนนอนเป็นตัวสร้างเสริมความสุข และช่วยพัฒนาสติปัญญาต่อลูกน้อยได้จริงๆ HD จึงมีเคล็ดลับมาฝากกัน
1. จำลองเป็นตัวละครในนิทาน
คุณพ่อคุณแม่อาจลองเปลี่ยนน้ำเสียง หรือลองเลียนแบบเสียงสัตว์ในนิทานดู การเล่านิทานโดยจำลองว่า คุณเป็นตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในนิทานจะยิ่งทำให้เด็กรู้สึกสนุกไปกับเนื้อเรื่อง
นอกจากนี้ การจำลองเป็นตัวละครจะทำให้คุณได้มีส่วนร่วมกับการเล่านิทานจริงๆ และไม่ทำให้เด็กรู้สึกว่า เขาคือภาระที่คุณต้องมาเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน
2. เล่าเรื่องเดิมซ้ำอีกครั้ง
คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนิทานเป็นเรื่องใหม่ทุกคืนตลอด แต่ให้ลองสลับเล่านิทานเรื่องเดิมซ้ำๆ อาจจะสัปดาห์ละ 2 เรื่องก็พอ
เพราะเด็กที่เพิ่งหัดพูดหรือฟังออกจะไม่สามารถจดจำทุกอย่างได้ในครั้งแรกที่ฟังนิทานเรื่องใหม่ การเล่านิทานเรื่องเดิมซ้ำๆ จะทำให้เขาคุ้นชินกับประโยค เข้าใจการเรียบเรียงคำพูดที่ถูกต้อง
3. อย่าเปลี่ยนนิทานให้กลายเป็นแบบฝึกหัด
เป็นเรื่องไม่ผิดถ้าคุณจะลองตั้งคำถามกับเกี่ยวกับสถานการณ์ในนิทานกับเด็ก แต่อย่าถึงกับถามเด็กอย่างจริงจังเกินไป หรือบอกให้เด็กใช้เหตุผล ใช้การคิดวิเคราะห์ เหมือนกับเป็นแบบฝึกหัดในห้องเรียน
คุณอาจลองลองถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ กับเด็กว่า หากเขาอยู่ในเหตุการณ์แบบในนิทานเขาอยากทำอะไร หรือเขารู้อะไรเกี่ยวกับสัตว์ตัวนี้บ้าง เพื่อให้เด็กกล้าพูด กล้าตอบคำถาม กล้าแสดงความคิดเห็นออกมา
4. เลือกนิทานที่เหมาะกับวัยของเด็ก
ไม่มีทางที่เด็กๆ จะสนุกไปกับนิทานที่มีการเล่าเรื่องและตอนจบแบบเดิมๆ ไปได้ตลอด เพราะยิ่งเขาโตขึ้น ได้ไปโรงเรียน ได้มีเพื่อน ได้ฟังเรื่องเล่าสนุกๆ จากคุณครู ความสนุกในการฟังนิทานก่อนนอนย่อมเปลี่ยนไป
พ่อแม่อาจลองหาเวลาในการค้นหาหนังสือนิทานแบบใหม่ๆ หรืออาจหาหนังสือแนวอื่นมาเป็นเรื่องราวเล่าสู่กันฟังก่อนนอนให้กับเด็กๆ หรือหากไม่แน่ใจ คุณอาจลองถามเด็กๆ ดูก็ได้ว่า เขาอยากฟังนิทานหรือเรื่องราวอะไรเป็นพิเศษไหม
5. หนังสือนิทานแบบไม่มีภาพอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
หนังสือนิทานแบบมีภาพนั้นเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้เด็กจินตนาการได้ง่ายขึ้น แต่หากคุณลองอ่านหนังสือนิทานแบบไม่มีภาพประกอบให้เด็กฟังบ้าง เด็กจะได้หัดจินตนาการภาพต่างๆ ตามเนื้อเรื่องโดยไม่มีภาพอ้างอิงจากหนังสือมาแทรกแซงภาพในหัวของเขา
วิธีการอ่านหนังสือนิทานแบบนี้จะยิ่งทำให้เด็กมีจินตนาการกว้างไกลกว่าเดิมยิ่งขึ้น เพราะเขาได้อ่านเพื่อจินตนาการภาพทุกอย่างเอง ไม่ใช่ได้อ่านและได้เห็นภาพจากนั้นค่อยจินตนาการต่อ
การอ่านนิทานก่อนนอน คือ เคล็ดลับอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กได้โดยไม่ต้องเรียนรู้แค่จากในห้องเรียนเท่านั้น
นอกจากนี้ การอ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง ถือเป็นช่วงเวลาอันมีค่าที่เกิดขึ้นเมื่อเด็กยังอายุน้อยเท่านั้น และยังเป็นช่วงเวลาที่จะปลูกฝังให้เด็กซึมซับความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ได้เป็นอย่างมาก จนเมื่อเขาเติบโตขึ้น กิจกรรมนี้ก็จะหมดความสำคัญลง
โดยปกติการอ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกฟังมักใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ลองจัดสรรเวลาของคุณเพื่อมาใช้เวลากับลูกน้อยดูบ้าง
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพทุกวัย ฉีดวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันให้เด็ก เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android