สวัสดีค่ะ สอบถามหน่อยค่ะ ไปฝังยาคุมมา ครบกำหนดถอดเมื่อ 6กันยา พึ่งไปถอดมาเมื่อ 9กันยา ตลอดที่ฝัง3ปี เป็น ปจด.กระปิดกระปอยตลอดเรยค่ะ หลังจากที่ถอดก็ฉีดยาคุมต่อเรยค่ะ วันเดียวกัน ปจด.พึ่งมาหายประมาณวันที่ 13ค่ะ ต่อมาเดือนตุลาคม ก็มาช่วงต้นเดือนจำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่ เป็นประมาณ4วันหายค่ะ อยากถามว่าเดือนนี้ปจด.ทำไมไม่มาคะ ช่วงต้นเดือนมีอาการเจ็บหน้าอกคล้ายจะเป็นปจด.แต่ก็ยังไม่มาเรยคะ เพราะสาเหตุอะไรคะ

ถ้ายาคุมที่ผู้ถามฉีดเป็นชนิด 3 เดือน จะมีผลข้างเคียงเด่น ๆ คล้ายกับยาฝังคุมกำเนิดค่ะ นั่นคือ ผู้ใช้อาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนนะคะ

อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามกังวลว่าอาจมีการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะเมื่ออาจไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องในช่วงแรกที่ฉีดยาคุม ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในวันพรุ่งนี้เช้าหลังตื่นนอน

ซึ่งหากผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็ไม่น่าจะกังวลแล้วนะคะ เพราะโอกาสตั้งครรภ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาคุมชนิดฉีด มีเพียง 0.2 - 6% และความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำถ้ามีการฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอค่ะ

สวัสดีครับ
ไม่ทราบว่าฉีดยาคุมชนิด 1 หรือ 3 เดือนครับ

ถ้าหากฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนก็มีโอกาสที่ประจำเดือนจะไม่มาเป็นเรื่องปกติได้ครับ เนื่องจากยาคุมจะมีผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อบางลง แต่ถ้าหากเป็นการฉีดยาคุมชนิด 1 เดือน ประจำเดือนก็ควรจะมาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนฉีดยาคุมเข็มต่อไป ถ้าประจำเดือนไม่มาตามนี้ก็ถือว่าผิดปกติ และควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุครับ

ทั้งนี้ก็อาจลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจได้โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว เช่นเดียวกับยาฝังคุมกำเนิดค่ะ จึงอาจพบผลข้างเคียงเรื่องการมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนได้เช่นกัน

แต่เนื่องจากผู้ถามถอดยาฝังคุมกำเนิดออกช้าเกินกำหนด แม้จะเพียงไม่กี่วัน แต่ก็รับรองไม่ได้ว่าจะมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้เลยหลังจากที่ฉีดยาคุมหรือไม่ ดังนั้น หากต้องการทราบแน่ชัดว่ามีการตั้งครรภ์หรือเปล่า ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนตามที่แนะนำไปข้างต้นนะคะ