August 22, 2018 20:28
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในเบื้องต้นหมอคงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ชัดเจนครับว่าอาการดังกล่าวใช่อาการของโรคไบโพลาร์หรือไม่ เนื่องจากยังไม่ทราบระยะเวลาที่เกิดอาการแน่นอน และอาการที่เกิดขึ้นก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอาการของโรคไบโพลาร์อย่างชัดเจน แต่หมอจะขออธิบายเกี่ยวกับอาการของโรคไบโพลาร์ให้ได้ลองอ่านดูครับ
โรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์ 2 ขั้วนั้นจะมีอาการแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่อารมณ์เป็นขั้วบวกและขั้วลบ โดยที่ผู้ป่วยจะต้องมีอาการในช่วงขั้วบวกเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งครับ
ในช่วงที่อารมณ์เป็นขั้วบวกนั้น ลักษณะอารมณ์จะเป็นแบบร่าเริงมากผิดปกติหรือหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ มีเรี่ยวแรงมากขึ้น ติดต่อกันอย่างน้อย 4-7 วัน ร่วมกับมีอาการ
- มั่นใจในตนเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองยิ่งใหญ่อยู่เหนือคนอื่น
- ความต้องการนอนลดลง
- พูดมากขึ้น
- ความคิดแล่นเร็ว
- วอกแวกง่าย
- มีการทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้นเพื่อให้เกิดความพึงพอใจกับตนเอง
- ใช้เงินลงทุนหรือซื้อของฟุ่มเฟือยมากเกินควร
ส่วนอาการในช่วงขั้วลบนั้นจะเหมือนอาการของโรคซึมเศร้า คือ มีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ ความจำแย่ลง
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
การวินิจฉัยโรคไงโพลาร์ให้ได้แน่ชัดนั้นจำเป็นต้องอาศัยการพูดคุยกับจิตแพทย์เพื่อสอบถามอาการโดยละเอียด เพื่อให้ได้รายละเอียดของอาการต่างๆอย่างเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นก่อนที่จะบอกว่าเป็นอาการของโรคไบโพลาร์จริงๆ
แต่จากเท่าที่หมออ่านอาการตามที่เล่ามานั้น หมอรู้สึกว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นน่าจะส่งผลกระทบต่อตัวคุณอยู่พอสมควรทั้งด้านการเรียน รวมถึงการใช้ชีวิตกับครอบครัว อาการข้างต้นนั้นมีโอกาสเป็นได้ทั้งโรคไบโพลาร์ โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล หรืออาจเป็นเพียงแค่การปรับตัวกับความเครียดไม่ได้เท่านั้นก็ได้ครับ แนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการโดยละเอียดให้แน่ชัดก่อนครับ จากนั้นจะได้สามารถให้คำแนะนำหรือมีแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไปได้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีที่มีความผิดปกติทางความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ควรไปพบจิตแพทย์ ตรวจประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจะเป็นผลดีที่สุดค่ะ อาการผิดปกติดังกล่าวไม่ควรปล่อยให้รุนแรงมากขึ้นเพราะตัวโรคอาจพัฒนาจนถึงขั้นมีอาการทางจิต และอาจทำให้ต้องใช้เวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนานกว่าการเริ่มรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือหนูสงสัยว่าตัวเองจะเป็นไบโพล่าร์ค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่าหนูสนใจเรื่องโรคนี้มาซักพักแล้ว แล้วครูที่โรงเรียนเขาพูดขึ้นมาพอดีเลยค่ะก็เลยมานั่งอ่านข้อมูล พบว่าอาการมันตรงเกือบจะทุกข้อเลยค่ะ แต่พอทำแบบทดสอบพบว่าตัวเองไม่ได้เป็น ก็เลยเข้ามาถาม คือช่วงเกือบๆอาทิตย์ก่อนจนถึงเมื่อวันจันทร์หนูรู้สึกว่าตัวเองร่าเริงผิดปกติ พูดมากเสียงดัง อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ใจร้อน มั่นใจในตัวเองแบบผิดปกติ กล้าทำอะไรแปลกที่โรงเรียนจนพอมานึกแล้วก็คิดว่าตัวเองทำอะไรลงไป บางครั้งก็เผลอตะคอกใส่คุณพ่อคุณแม่คุณยายแล้วก็น้องๆไปค่ะ อย่างเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาช่วงดึกๆก่อนนอนก็นอนคุยเล่นกับน้องอยู่ดีๆก็ไปตะคอกใส่ แล้วอยู่ดีๆก็ร้องไห้ออกมาค่ะ คือตอนนั้นคุยเรื่องการเก็บเงินออมกันอยู่ค่ะ อยู่ๆหนูก็โยงเข้ามาเป็นเรื่องดราม่าพาน้องสาวร้องไปคนนึง พอเช้ามาก็รู้สึกอ่อนแรง ไม่มีแรงทำอะไรเลย ทั้งวันก็รู้สึกว่าตัวเองเงียบๆ ไม่อยากเรียนไม่อยากทำงาน เหนือยกับทุกสิ่ง เหนื่อยยันเคี้ยวข้าวเลยค่ะ ตกเย็นก็รู้สึกเบื่อ รู้สึกเหมือไม่มีอ่ะไรทำ รู้สึกว่างเปล่า วันนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองซึมๆ เงียบมากแบบเงียบจนผิดปกติ แทบจะไม่คุยกับใครเลย จากที่คุยกับเพื่อนยิ้มๆก็กลายเป็นว่าหุบยิ้มไปตอนไหนไม่รู้รู้ตัวอีกคือคือหน้านิ่งสนิทแล้วค่ะ ตอนที่เรียนแล้วเพื่อนในห้องไม่ตั้งใจเรียนทำให้ครูโกรธแล้วเดินออกไปก็รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ทั้งที่ปกติไม่ค่อยคิดอยากเรียนก็ อยากเรียนขึ้นมา จากนั้นก็กลายเป็นซึมไปเกือบทั้งคาบเลย เพื่อนๆเห็นก็หาอะไรให้เล่นจะได้ยิ้มแต่ยิ้มไปซักพักก็กลับมาซึมเหมือนเดิม วันนี้พอกลับบ้านมาก็รู้สึกไม่อยากทำการบ้านทั้งๆที่เหลือแค่ไม่กี่ข้อ คุณพ่อก็ถามว่าซึมๆไป เป็นอะไร เราก็ไม่ตอบอะไรนะคะ ปกติตอนอยู่ที่บ้านใครบอกอะไรจะมีออกความเห็นบ้างแต่ตอนนี้กลับเออออตามหมดเลย จะคิดจะทำอะไรก็ช้าผิดปกติ (ไม่รูอันนี้เกี่ยวไหมนะคะ)แต่รู้สึกตัวเองฟุ้งซ่าน อยู่ๆก็ปวดกล้ามเนื้อปวดหัว รู้สึกเหมือนตัวเองเครียดมาก บางครั้งก็รู้สึกตัวเองไร้ค่า ทำอะไรไม่ดีซักอย่าง บางครั้งก็รู้สึกระแวง เดินๆอยูระแวงว่าจะตกบันได ระแวงว่ารถจะชนจะคว่ำระแววกับหลายๆอย่างเลยค่ะ หลายๆเดือนมานี้ ก็รู้สึกเบื่ออาหาร ไม่อยากเข้านอน แต่พอนอนไปก็นอนยาวเป็นสิบชั่วโมง ค่ะ คือไม่รู้ว่าหลังๆมาเกี่ยวไหมแต่อยากบอกให้รู้ไว้ค่ะ เผื่อเป็นข้อมูลได้ จริงๆก็อยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองมีปัญหาทางจิตไหม เป็นโรคอะไรอีกรึเปล่า ช่วยตอบหน่อยนะคะ ปล. เขียนยาวไปก็ขออภัยค่ะ ปล.เขียนผิดหรือเขียนแล้วงงๆก็ขออภัยค่ะ แก้ไขไปแล้วนิดนึงแต่ไม่รู้ว่าหมดไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)