ควรดูแลตัวอย่างไร เมื่อแม่มีความดันสูงขณะตั้งครรภ์คะ???

ความดันสูงระหว่างตั้งครรภ์นั้นจะถูกวินิจฉัยต่อเมื่อมีความดันโลหิตตัวบนมากกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท หรือความดันโลหิตตัวล่างมากกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากสารเคมีที่รกสร้างขึ้นมาผิดปกติ ซึ่งถ้าหากความดันสูงเกิดหลังจากอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ และหายไปเองก่อน 12 สัปดาห์หลังคลอด และไม่มีโปรตีนไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ หรือไม่มีอาการจุกแน่นลิ้นปี่ ตาพร่ามัว ปวดศีรษะ จะเป็นอาการที่เรียกว่าโรคความดันสูงในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งยังไม่ต้องรับประทานยาลดความดันใดๆ แต่ถ้าหากเป็นความดันสูงที่เกิดหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ประกอบกับมีโปรตีนไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ หรือมีอาการปวดศีรษะ จุกแน่นลิ้นปี่ ตาพร่ามัว ตรวจเลือดพบค่าการทำงานของตับที่ผิดปกติ การทำงานของไตผิดปกติ เกล็ดเลือดต่ำ ซีดที่เกิดจากเลือดเกิดการละลาย หมอจะวินิจฉัยผู้ป่วยกลุ่มนี้ว่าเป็นภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งจะต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีโอกาสชักได้ และพิจารณาเร่งคลอดที่อายุครรภ์ 37-38 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสการชัก หรือกรณีที่มีอาการรุนแรง จะพิจารณาให้คลอดทันที เพื่อป้องกันการชักได้ ซึ่งอาจจะทำให้มีผลต่อทารกในครรภ์ และมีผลต่อมารดา อาจจะทำให้มารดามีอาการทางระบบประสาท เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้จากการที่มีเลือดออกในสมอง หรือเสียชีวิตได้ และอาการความดันของโรคในสามกลุ่มนี้จะหายเองเมื่อคลอดบุตร นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มโรคหนึ่งที่วินิจฉัยว่าเป็นความดันก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ หรือเป็นนานเกิน 12 สัปดาห์หลังคลอด อันนี้จะเรียกว่าเป็นโรคความดันเรื้อรัง ซึ่งต้องได้รับการรักษาด้วยยาลดความดันอย่างต่อเนื่อง สำหรับในเรื่องของการดูแลตัวเองในขณะตั้งครรภ์ เมื่อพบว่ามีความดันสูงขณะตั้งครรภ์นั้น จะเริ่มตั้งแต่อาหารการกิน โดยที่มารดาควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของเกลือสูง หรืออาหารเค็ม เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ความดันสูงได้ และมารดาควรที่จะหาที่วัดความดันมาเพื่อวัดความดันตัวเองทุกวัน โดยที่ไม่ควรให้ความดันตัวบนเกิน 140 มิลลิเมตรปรอท หรือตัวล่างเกิน 90 มิลลิเมตรปรอท หมั่นสังเกตอาการของอาการความดันรุนแรงหรือครรภ์เป็นพิษ เช่นมีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว จุกแน่นลิ้นปี่ ซึ่งถ้าหากมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยว่ามีภาวะครรภ์เป็นพิษหรือไม่ และจะได้รีบรักษาต่อไป นอกจากนี้มารดารที่มีอายุครรภ์มากกว่า 30 สัปดาห์ ควรจะต้องนับลูกดิ้นทุกวัน โดยให้นับ 1 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหาร ลูกควรดิ้นเกิน 3 ครั้ง ถ้าหากใน 1 ชั่วโมงแรกลูกดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้งให้นับต่ออีก 1 ชั่วโมง ลูกควรดิ้นเกิน 3 ครั้ง แต่ถ้าหากพบว่าลูกดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้งควรมาโรงพยาบาล เห็นไหมครับว่าอาการความดันสูงระหวางตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่โรคธรรมดา แต่เป็นโรคที่น่ากลัวและมีความรุนแรง ดังนั้นถ้าหากคุณแม่พบว่ามีความดันสูงระหว่างตั้งครรภ์ควรที่จะพบสูตินรีแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และรักษาโรคต่อไป เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวทารกในครรภ์ และตัวมารดาด้วย ไม่ควรที่จะไปซื้อยารับประทานเอง หรือรับประทานยาลดความดันของบุคคลอื่น ซึ่งมีผลต่อทารกในครรภ์ได้ครับ และควรสังเกตอาการด้วยตนเองรวมถึงการเบือกรับประทานอาหารที่ใมีส่วนประกอบของเกลือในปริมาณน้อยครับ