January 15, 2020 15:05
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการของการติดเชื้อ HIV ในระยะ 1 ปีหลังติดเชื้อนั้นมักอยู่ในช่วงที่โรคสงบ ไม่แสดงอาการใดๆ เนื่องจากในช่วงนี้ภูมิคุ้มกันในร่างกายมักจะยังไม่ต่ำมากครับ และการที่จะทราบได้ว่ามีการติดเชื้อ HIV หรือไม่ก็ต้องอาศัยการตรวจเลือดยืนยันเท่านั้น
ส่วนอาการมีไข้ ไอ น้ำมูกเขียว อ่อนเพลีย ท้องเสียนั้นเป็นอาการที่ไม่มีความจำเพาะและอาจเกิดจากการติดเชื้อได้หลายชนิดทั้งจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียทั่วไปครับ
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการที่เกิดขึ้นให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ส่วนในเรื่องความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ที่ผ่านมานั้น หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดยืนยันดูครับ โดยถ้าหากผ่านมาเกิน 3 เดือนหลังรับความเสี่ยงแล้ว ผลตรวจเลือดในตอนนี้ก็จะสามารถเชื่อถือได้ 99.9% แล้วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือผมเครียดมากครับ กลัวว่าจะเป็น hiv คือผมมีอาการเจ็บคอ มาประมาน4-5วันแต่ตอนนี้หายแล้ว และก็มีน้ำมูกสีเขียวแต่ตอนนี้เป็นสีใสๆ มาไม่หยุดเลย มีไข้อ่อนๆ อ่อนเพลีย ท้องเสียนับตั้งแต่ที่เริ่มไอ ตอนนี้ยังไม่หาย แล้วผมเคยติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศ น่าจะสัก1ปีแล้ว คือผมสงสัยว่าน่าจะได้นับเชื้อ hiv มาพร้อมกับเริม อยากทราบว่าอาการของ hiv ที่ติดมาเกือบปีใช่แบบนี้ไหมครับ. คือผมเป็นคนที่ไม่สบายบ่อยตั้งแต่เด็กแล้ว เคยเป็นหอบ ไซนัส ปอดบวม ก่อนหน้าที่จะมีอาการไอ คือ ผมเข้าไปทำความสะอาดห้องที่มีฝุ่นเยอะมากๆ และพวกกลิ่นสีแบ้วไม่ได้ใส่หน้ากากอะไรเลย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)