ตอนตั้งครรภ์แรกๆทะเลาะกับสามี จะเลิกกันค่ะ เป็นภาวะซึมเศร้า คิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง และเคยกินยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ตอนท้องได้8สัปดาห์ โดยใช้ยาที่หามาจากอินเตอร์เน็ตน่ะค่ะ แต่ว่าไม่ได้ทำตามที่เขาบอกคือ ทานยาเม็ดแรก แล้วต้องทานเม็ดต่อไป(ยาอีกชนิดหนึ่ง4เม็ด)ภายใน24ชม. แต่ดิฉันทานหลังจากเม็ดแรกประมาณ3วัน ทำให้ ยังตั้งครรภ์ต่อค่ะ ไม่มีอาการเลือดออก แค่ปวดท้องหน่วงๆ2-3ชม ก็หายค่ะ เลยตัดสินใจไม่ทำแท้ง แล้วไปฝากที่รพ. ไม่ได้แจ้งคุณหมอนะคะว่าใช้ยา คุณหมออัลตราซาวด์แล้วเด็กปกติดีค่ะ ตอนนี้20 weekแล้ว คุณหมอบอกปกติทุกอย่าง อยากทราบว่า ยาพวกนี้จะมีผลกระทบต่อเด็กในท้องไหมคะ ลูกออกมาจะพิการไหมคะ กังวลมากเลยค่ะ

เนื่องจากไม่ทราบชื่อยา จึงยังไม่สามารถบอกความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ได้แน่ชัดครับ

แต่การที่ได้อัลตราซาวด์ไปแล้วในช่วงอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่จะสามารถมองหาความผิดปกติของเด็กได้ชัดเจนที่สุด และไม่พบความผิดปกติก็สามารถมั่นใจได้ประมาณ 90% ครับว่าทารกในครรภ์จะไม่มีความผิดปกติ

ทั้งนี้การทำอัลตราซาวด์นั้นมีข้อจำกัด คือ การตรวจจะเห็นเป็นภาพของเงาเด็กในครรภ์เท่านั้น ทำให้ความผิดปกติเล็กๆน้อยๆบางอย่าง หรือถ้าหากเด็กอยู่ในท่าที่มีการบดบังอวัยวะบางอย่างอยู่ก็จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นจากอัลตราซาวด์ได้ครับ

ในตอนนี้แนะนำให้คุณไปฝากครรภ์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ และแจ้งแพทย์ทุกครั้งที่สังเกตเห็นความผิดปกติในการตั้งครรภ์ ก็จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ได้มากที่สุดครับ

ยาMifepristoneถ้าหากใช้เดี่ยวๆ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการทำให้เกิดความผิดปกติของทารกชัดเจนครับ

แต่ตัวยาMisoprostolนั้น มีข้อมูลว่าในขณะที่ใช้ยาอาจทำให้เกิดภาวะขาดเลือดหรือออกซิเจนชั่วคราวของทารกในครรภ์ได้ เป็นผลให้อาจเกิดความผิดปกติตามมาได้ เช่น มีความผิดปกติของแขนขาหรือนิ้ว มีความผิดปกติของการเจริญของกระโหลกศีรษะ มีการทำงานที่ผิดปกติของเส้นประสาทสมอง โดยเฉพาะเส้นที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวใบหน้า ทำให้เด็กไม่สามารถแสดงสีหน้าได้(แต่ความผิดปกตินี้ไม่สามารถตรวจเจอได้โดยใช้อัลตราซาวด์)

อย่างไรก็ตามพบว่าความผิดปกติเหล่านี้จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้นถ้าหากใช้ยาในขนาดสูงหรือใช้ติดต่อกันหลายเม็ด ถ้าหากเป็นการใช้ในขนาดที่ไม่สูง โอกาสเกิดความผิดปกติก็จะมีน้อยกว่า
และก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เคยใช้ยานี้แล้วจะทำให้ทารกมีความผิดปกติเสมอไป ซึ่งโดยเฉลี่ยนั้นพบว่าการใช้ยาMisoprostolมีโอกาสทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ประมาณ 15-20% ของผู้ใช้ครับ

ในตอนนี้คิดว่าคุณหมอคงได้ตรวจดูลักษณะความผิดปกติใหญ่ที่ๆมองเห็นจากอัลตราซาวด์ได้ไปหมดแล้วครับ อาจจะเหลือความผิดปกติบางอย่างที่มองไม่เห็น เช่น นิ้วมือ หรือการเคลื่อนไหวของใบหน้า ซึ่งคงต้องรอดูตอนหลังคลอดอีกครั้งครับ