March 17, 2019 10:24
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ อยู่ต่างจังหวัดแนะนำให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลรัฐบาลในจังหวัดนั้นๆครับ อาจจะเสียเงินเองบ้างแต่ไม่แพงครับ จะได้รับการรักษาที่ถูดครับ เพราะยาที่ใช้เป็นยาอันตรายมากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ไปคลีนิคได้ไหม คะ
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ หูดหงอนไก่ โดยทั่วไปเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งติดจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยมากฝ่ายชายมักจะไม่แสดงอาการ แต่สามารถส่งผ่านเชื้อให้กับคู่นอนได้ค่ะ นอกจากนี้อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ อีก คือ มะเร็งของช่องคลอด (Vulva cancer) ค่ะ ทั้งนี้แนะนำให้คุณไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและวินิจฉัยโรคเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ขอตอบคำถามของคุณ การรักษาหูดหงอนไก่ หากเป็นไม่มาก อาจจะใช้ป้ายรอยโรคด้วยน้ำยา 25% Podophyllin ซึ่งต้องให้การรักษาโดยแพทย์ โดยแต้มยาทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมงแล้วล้างออก ให้การรักษาทุกสัปดาห์จนรอยโรคหาย ซึ่งมักใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ขึ้นกับขนาดรอยโรค อาจมีอาการระคายเคือง แสบบริเวณที่แต้มยา วิธีนี้มีโอกาสเกิดเป็นซ้ำประมาณ 20-35% หากเป็นมากก็อาจจะต้องรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้าค่ะ การรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้า (Electrocauterization) หรือจี้ด้วยคาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ (Laser ablation) เพื่อตัดรอยโรคออก โดยจะลดความเจ็บปวดในการรักษาด้วยการฉีดยาชาเฉพาะที่ วิธีการนี้ มักใช้รักษาหูดที่มีขนาดใหญ่ที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล ทั้งนี้ การรักษาวิธีนี้ โรคมีโอกาสกลับเป็นซ้ำประมาณ 5-50% นอกจากลักษณะของรอยโรคของหูดหงอนไก่ ที่ทำให้เกิดความไม่น่าดูแล้ว หากติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่รุนแรง เช่น HPV สายพันธ์ 16, 18 ยังทำให้เกิดโรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์ และมะเร็งทวารหนักได้ ส่วนผลข้างเคียงอื่นขึ้นกับตำแหน่งของรอยโรค เช่น อาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจมีสาเหตุจากเลือดที่ออกจากหูดหงอนไก่ภายในปากมดลูกได้ หรือมารดาที่คลอดบุตรขณะมีรอยโรค ก็อาจทำให้ทารกติดเชื้อ HPV ได้ค่ะ มีโอกาสหายขาด แต่ก็มีโอกาสกลับเป็นซ้ำ ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาทาเองค่ะ ส่วนค่ารักษาขึ้นกับสถานพยาบาลที่ไปรับการรักษาและวิธีรักษาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ถ้าไป รพ แจ้ง ว่า มาตรวจอะไรคะ ขอบคุณคะ
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ ถ้าจะไปคลินิกต้องเป็น คลินิกสำหรับหมอสูติกรรมนะครับถึงจะมียารักษา เพราะถ้าเป็นคลินิกแพทย์อื่นๆอาจจะไม่ได้ สั่งยาทาเข้าร้านนะครับ แต่ถ้ามียาแน่นอนคือ โรงพยาบาลครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณคะ. แล้ว แจ้ง ว่า มา ตรวจ อะไรหรอคะ
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ ถ้าไปโรงพยาบาล แจ้งว่า จะขอตรวจ ภายในครับหรือมีก้อนแถวอวัยวะเพศครับ เพราะถ้า บอกว่า มีก้อยแถวทวารอาจจะถูกส่งไปตรวจผิดแผนกได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณ คะ. เครียดเลย ไม่เป็นนานมาก
เคยเป็นหูดหงอนไก่เมื่อ 5-6ปีแล้ว เคยรักษาที่โรงพยาบบางรักนินาม (สาทร) ตอนนั่นไปให้คุณหมอทายาให้ รักษาจนหาย ตอนนี้ เหมือนเป็นอีกคะ มีติ่งๆขึ้นมา แต่ไม่เยอะมาก ลักษณะน่าจะเหมือนครั้งที่แล้วแต่ไม่เยอะมากคะ เป็นบริเวนเกือบจะขอบๆด้านหลังไปก้นคะ ไม่เป็นนานมากแล้วคะ พอมาคบแฟนคนนี่ก็เป็นอีกเค้ามีเชื้อหรือเชื่อเก่าเราเปันเองคะ แล้วถ้า อยากซื้อยากสั่งนยาทาเองได้ไหมคะพอดีมาอยู่ตจวแล้ว. ไม่สะดวกไป นะคะ แล้วถ้าสั่งยามาทาเองจะอัตรายไหมคะ สามารถทาเองได้ไหมคะ ขอบคุณคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)