ฉันมีเพื่อนคนนึงไปลองแสตมป์มรณะมา โดยรู้เท่าไท่ถึงการ์ณ ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย ลองเพราะเพื่อนให้ลอง ซึ่งตัวเขาเคยมีภาวะอาการโรคซึมเศร้าจากตอนเลิกกับแฟนเมื่อปีก่อน แต่คิดว่าตนเองหายแล้ว และไม่รู้ว่าแสตมป์นี่มีผลอย่างร้ายแรงต่อผู้ที่มีอาการทางจิต ตอนที่เสพเขาบอกว่าเขามองกระจกและสามารถคิดได้ว่านี่ไม่ใช่ตัวเขา และมองภาพสวย และเมื่อยาหมดฤทธิ์ เขากลับมาใช้ชีวิตปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านมา2-3สัปดาห์ เขาเริ่มรู้สึกว่าสัมผัสจิตวิญญาณได้ มีคนมาเข้าร่างเขา เขามีความสามารถเพิ่มขึ้นหลายด้านจากคนที่มาเข้าร่างเหล่านั้น หวนคิดถึงอดีตและมีความแค้นตะโกนออกมาหมด ต่อมาเข้าได้รับการรักษาจากรพทางจิตแห่งนึงเปนเวลา1สัปดาห์ เขาหายจากความคิดที่ว่ามีคนเข้าร่าง เพราะคิดได้ว่าจิงๆแล้วตนเองมีความสามารถในการลอกเลียนแบบได้เก่งจากการดูยูทูป ซึ่งเขาก้เรียนรู้ได้ไวขึ้นจิง แต่มันไม่ขนาดที่เขาพูดหรือคิดเพ้อฝัน ทำให้ตอนนี้เขามีความคิดที่ว่าเขาสามารถอยากเปนใครก้ได้ เลียนแบบได้หมด เขามักจะผู้บ่อยว่าเขาฉลาดมากกว่าใครๆ และไม่ธรรมดาแล้ว เหมือนกับว่าถ้าจะลอกเลียนแบบเปนใครก้จะดังแน่ๆ และตอนนี้เขาไม่ได้มีอารมณ์โกรธอดีตแล้ว แต่หงุดหงิดง่ายมาก จากคำพูดของคนที่มาดูถูกว่าเขาพูดโอเว่อร์หรือไม่เชื่อว่าเขาพูดจิง เก่งจิงลอกเลียนแบบได้จิง แบบนี้ยังหลอนอยู่ไหมคะ และมีวิธีรักษาแนะนำหรือพูดอย่างไรกับเขาได้บ้างคะ แล้วเรียกว่าเปนปรากฎการ์ณซ้ำไหมคะ

ยังมีอาการอยู่นะคะ การรักษาเพียง1อาทิตย์ ไม่น่าจะทำให้อาการหายดีได้เร็ว ดังนั้นควรเออออไปกับสิ่งที่เขาคิด ไม่ควรขัดแย้งความคิดของเขา และค่อยๆปลอบให้เขารับการรักษาต่อเนื่อง อาจบอกว่าเพื่อบำรุงร่างกายและสมอง ใหเกำลังใจเพื่อนด้วยนะคะ

ตัวสารเสพติดที่เรียกว่าแสตมป์มรณะนั้นจะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาททำให้มีอาการหูแว่ว ภาพหลอน มีอาการทางจิต และมีอารมณ์ที่ผิดปกติได้ โดยเฉพาะถ้ามีการใช้มาในระยะเวลานานก็อาจมีผลกระทบต่อสมองในระยะยาวได้

อาการที่ทำให้เชื่อว่าตัวเองเก่งขึ้น มีความสามารถเหนือคนอื่น มีอารมณ์หงุดหงิดง่ายนั้นถือเป็นอาการที่มีความผิดปกติได้ครับ โดยอาจจะมีที่มาจากอาการของโรคจิตเภท โรคจิตหลงผิด หรือโรคอารมณ์สองขั้วก็ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเองจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ หรืออาจเป็นผลมาจากการใช้แสตมป์มรณะก็ได้เช่นกัน

แนะนำว่าควรแนะนำให้เพื่อนกลับไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการอีกครั้งครับ ถ้าอาการดังกล่าวเป็นอาการของโรคทางจิตเวชจริง ก็จะมียาที่ใช้ช่วยปรับการทำงานของสารเคมีในสมองให้อาการดีขึ้นได้

การรักษาอาการในลักษณะนี้นั้นส่วนมากจะต้องใช้เวลารักษาต่อเนื่องนานอย่างน้อย 1 ปี ทั้งนี้จะต้องอาศัยการประเมินอาการต่อเนื่องเป็นระยะ และปรับยาไปตามความรุนแรงของโรคที่เป็นครับ

ในกรณีที่ไม่สามารถพูดคุยให้เพื่อนไปเข้ารับการรักษาได้ อาจต้องใช้วิธีการหลอกล่อพาไปเป็นหลักครับ เพราะผู้ที่มีอาการในลักษณะนี้มักจะฝังใจเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองคิดโดยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดได้ ทำให้การพูดด้วยเหตุผลอาจไม่ประสบความสำเร็จครับ

ในเบื้องต้นคงต้องสอบถามไปที่โรงพยาบาลที่สะดวกโดยตรงก่อนครับว่ามีจิตแพทย์ประจำอยู่หรือไม่ ถ้าที่ใดมีจิตแพทย์ประจำอยู่ก็สามารถไปตรวจที่นั่นได้ครับ โดยอาจจะต้องสอบถามเรื่องการจองคิวนัดตรวจก่อนและพาเพื่อนไปในวันที่นัดไว้ครับ

คือถ้าผู้ป่วยมีอาการทางจิต หวาดระแวง มีหูแว่ว เห็นภาพหลอน ในกรณีแบบนี้อาจจะพูดคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะผู้ป่วยจะไม่หยั่งรู้ในอาการป่วยของตนเอง ดังนั้นเบื้องต้นญาติหรือคนใกล้ชิดสามารถเข้าปรึกษาจิตแพทย์เพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือร่วมกัน หรือถ้าผู้ป่วยก้าวร้าวอาละวาท สามารถแจ้งอาสาสมัครในชุมชนหรือแจ้งตำรวจช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลก็ได้ค่ะ
ปัจจุบันโรงพยาบาลประจำจังหวัดโดยมากมักมีจิตแพทย์ออกตรวจนะคะ ยังไงให้ลองติดต่อ รพ.ตามที่ผู้ป่วยมีสิทธิ์ก่อนก็ได้ค่ะ