ตอนเด็กฉันเคยเป็นไข้เลือดออกจนถึงกับชัก แล้วฉันมีโอกาสกลับมาเป็นอีกไหมค่ะ เพราะอยู่ๆก็มีจุดแดงๆขึ้นที่ขาเหมือนรอยยุงกัด

สวัสดีค่ะ ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อ เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ค่ะ ซึ่งมีสี่สายพันธ์หลักๆ เมื่อเป็นแล้ว สามารถกลับมาเป็นอีกได้ค่ะ โดยจะมีอาการคือ ไข้สูง อาจมีเลือดออกง่ายผิดปกติ เนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ บางคนอาจมีเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ตับโตได้ค่ะ
สำหรับอาการผื่นของคนไข้ สามารถเป็นได้หลายอย่างค่ะ ทั้งแมลงกัดต่อย การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง เป็นต้นค่ะ การจะวินิจฉัยไข้เลือดออก นอกจากผื่นซึ่งลักษณะจะเป็นจุดเลือดออกแดงๆ (อาจจะเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อรัดแขนดูค่ะ) จะต้องวินิจฉัยจากการตรวจร่างกายเพิ่มเติมอื่นๆ ตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัยค่ะ ดังนั้น ถ้าคนไข้ไม่แน่ใจ และเคยมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากเคยเป็นรุนแรง แนะนำให้ไปตรวจที่ รพนะคะ
อนึ่ง ถ้าคนไข้เคยเป็นไข้เลือดออกแล้ว การฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก สายพันธ์อื่นๆ ก็จะมีประโยชน์เพื่อไม่ให้เมื่อเป็นแล้วมีอาการรุนแรงค่ะ

การัดแขน หรือ tourniquet test มีอุปกรณ์คือ เครื่องวัดความดันโลหิต แบบมือค่ะ
วิธีทํา Tourniquet Test
• เลือก cuff ขนาดเหมาะสม ความกว้างประมาณ 2 ใน 3 ของต้นแขน
• บีบความดันไว้ที่กึ่งกลางระหว่างsystolic (ความดันตัวบน) และdiastolicpressure (ความดันตัวล่าง) (SBP+DBP/2)
• รัดค้างไว้ 5นาทีคลายความดันและCuffออกจากแขนผู้ป่วย
• รอ 1 นาที อ่านผลการทดสอบ
• ผลPositive:≥10จุด/ตารางนิ้ว
ดังนั้น จึงแนะนำให้ทำกับพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเพื่อผลที่แม่นยำค่ะ
แต่การทำเทสนร้เป็นการตรวจร่างกาย เมื่อคิดถึงโรคนี้เท่านั้น ยังไม่ได้วินิจฉัย อย่างไรก็ตามถ้าเทสให้ผลบวก ต้องตรวจเลือดซ้ำค่ะ

ปัจจุบันเพื่อการตรวจสอบว่ามีเชื้อไข้เลือดออกหรือไม่ หากเป็นมากกว่า2ชั่วโมง สามารถรับการตรวจ Dengue NS1 ได้ครับ เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสไข้เลือดออก หากพบว่าเป็นจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปครับ
โรคไข้เลือดออกส่วนมากมักมีอาการไข้สูง หน้าแดง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ปวดรอบเบ้าตา ซึ่งในเด็กแล้วไข้สูงจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายไม่ดีเท่าที่ควรจึงเกิดการชักได้ในเด็กหากไม่รีบลดอุณภูมิร่างกายให้ต่ำลงโดยไว ซึ่งจะต่างกับผู้ใหญ่ที่จะมีอาการขักได้น้อยกว่าครับ