May 23, 2018 22:32
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โรคHIVติดต่อได้ทางการมีเพศสัมพันธ์ หรือการสัมผัสสารคัดหลั่ง/เลือดของผู้ป่วยเข้าทางบาดแผลเท่านั้นครับ
ไม่ติดต่อกันทางน้ำลายหรือทางการกิน
ดังนั้นหากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตามปกติ ก็ไม่มีโอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อสู่บุคคลอื่นครับ
ส่วนในกรณีที่ต้องมีเพศสัมพันธ์ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ในกรณีที่เราเป็นโรคติดเชื้อ HIV โดยปกตินั้นโรคนี้จะติดจาก การมีเพศสัมพันธ์ มีการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่นมีเลือดกระเด็นเข้าตา หรือมีการใช่เข็มฉีดยาร่วมกัน เหล่านี้โอกาสจะติดเชื้อ HIV จะค่อนข้างสูง แต่ในกรณีที่ติดจากน้ำลาย จะค่อนข้างน้อย การสัมผัสเช่นกอด แทบไม่มีโอกาสติดเลย เนื่องจากเชื้อ HIV จะอยู่ในสารคัดหลั่งจำพวกเลือด หรือสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศเป็นต้น ในน้ำลายจะมีเชื้อยู่น้อยมากๆ ดังนั้นหากท่านเป็นผู้ติดเชื้อ HIV สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ปกติ หากไม่มีกระบวนการต่างดังข้างต้นกับคนรอบตัว โอกาสที่คนรอบตัวในครอบครัวจะติดก็จะมีโอกาสน้อยมากๆคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุนมากๆคับปม
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ภก. ธีรศิลป์ โยมา (เภสัชกร)
--เชื้อไวรัสเอชไอวีพบได้ในสารคัดหลั่ง ซึ่งก็คือของเหลวทุกชนิดที่ออกมาจากร่างกายผู้ติดเชื้อ โดยเชื้อเข้าสู่ร่างกายอีกฝ่ายได้ผ่านผิวหนังที่มีแผลหรือเยื่อบุผิวบริเวณต่าง ๆ เช่น ช่องปาก ตา ช่องคลอด
--ครวบครัวกับผู้ป่วยจึงต้องระมัดระวังและป้องกันตนเองไม่ให้ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เช่น
*สวมถุงมือยางทุกครั้งเมื่อสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
*ล้างมือด้วยสบู่หลังจากสัมผัสสารคัดหลั่งทุกครั้ง แม้ขณะสัมผัสจะสวมถุงมือก็ตาม
*ห้ามใช้มีดโกนและแปรงสีฟันร่วมกับผู้ป่วย เพราะอาจมีเลือดที่มีเชื้อเอชไอวีปะปน
*ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อถือเข็มฉีดยาหรือของมีคมที่มีเลือดของผู้ป่วยติดอยู่ หากเผลอทิ่มร่างกายแม้เพียงเล็กน้อย ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่ และไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
*ควรทิ้งขยะที่มีสารคัดหลั่งปะปน เช่น ผ้าอนามัย ผ้าพันแผล ใส่ถุงพลาสติกที่ปิดมิดชิดและแยกจากขยะชนิดอื่น ๆ
*ล้างทำความสะอาดของเสียจากร่างกายผู้ป่วยตามห้องน้ำหรือโถสุขภัณฑ์ให้สะอาดก่อนใช้งานต่อ โดยสวมถุงมือยางขณะทำความสะอาดทุกครั้ง
--อย่างไรก็ตาม สารคัดหลั่งบางชนิดมีปริมาณเชื้อเอชไอวีปะปนอยู่น้อยเกินกว่าที่จะทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ เช่น น้ำตา เหงื่อ น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระ นอกจากนั้น เชื้อเอชไอวีไม่อาจติดต่อผ่านทางอากาศ น้ำ แมลงสัตว์กัดต่อย หรือเพียงสัมผัสผิวหนังกัน คนทั่วไปจึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับผู้ป่วยได้ตามปกติ เช่น รับประทานอาหารร่วมกัน ใช้ห้องน้ำร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้ หากผู้ติดเชื้อมีแผลหรือมีเลือดออกในช่องปาก เชื้อในเลือดที่ปะปนมากับน้ำลายอาจแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้
--ส่วนการจะรู้หรือไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อหรือไม่ จะสามารถรู้ได้ทางเดียวคือ ต้องมีการ*ตรวจเลือด*หาเชื้อ HIV ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าเราเป็นhivคนรอบตัวจะติดกับเราไหมอะครับเพราะผมกลัวครอบครัวหรือเพื่อนผมติดมากอะคับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)