January 15, 2019 16:58
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ริดสีดวง (hemorrhoid) มักเกิดกับผู้ที่นั่งห้องน้ำนานๆ หรือมีประวัติท้องผูกบ่อยๆ แบ่งเป็นสองแบบ internal กับ external คือหัวริดสีดวงอยุ่ข้างใน กับอยู่ข้างนอก ลักษณะเลือดที่ออกจะเป็นหยดตามหลังถ่ายสุด อาจจะไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรครับ มีแต่เลือดออกเพียงอย่างเดียวก็ได้ เวลาคลำที่ก้นจะได้ก้อนนิ่มๆ อาจจะผลุบๆโผล่ๆเวลาเบ่งถ่ายได้ ถ้ามีเลือดขอดในหัวริดสีดวงด้วย (thrombosed hemorrhoids) จะมีอาการปวดมากพบได้ในทุกอายุ แต่จะพบมากในคนท้อง หรือผู้สูงอายุ
ควรไปพบเเพทย์ครับ ถ้าเป็นระยะเเรกๆอาจรับประทานยาร่วมกับการปรับพฤติกรรม เเต่ถ้าเป็นมากจะต้องผ่าตัดครับ
ถ้าไปรพ.รัฐบาลตามสิทธิ ก็น่าจะไม่เสียเงินครับหรือเสียก็น้อยมากเช่นค่าห้องพิเศษ เเละจิปาถะอื่นๆ
เเต่ถ้าเอกชน น่าจะประมาณ30,000-40,000ครับ
การดูแลริดสีดวงทวารด้วยตนเอง
ได้แก่ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเพิ่มความดันในกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร
1 ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การใส่ยาทาบริเวณหัวริดสีดวง การเหน็บยา หรือการกินยาต่าง ๆ ตามที่แพทย์สั่ง
2 ระวังอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเดินบ่อย ๆ ผู้ป่วยควรรับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง ๆ ให้มาก ๆ เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะละกอสุก รวมถึงการกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทกากใย เพื่อป้องกันอาการท้องผูก และดื่มน้ำให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มและขับถ่ายออกได้ง่าย ถ้ายังมีอาการท้องผูกอีกให้กินยาระบาย เช่น ยาระบายแมกนีเซียม, ดีเกลือ, อีแอลพี, สารเพิ่มกากใย
3 ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา ไม่กลั้น และไม่เบ่งอุจจาระ
4 หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงการยืน การเดิน และการนั่งแช่เป็นเวลานาน ๆ
5 พยายามฝึกไม่เบ่งอุจจาระ
6 หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้โรคริดสีดวงทวารเป็นมากขึ้นได้
7 ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ควรหาวิธีลดความอ้วนอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงการยกของหนัก
8 เมื่ออุจจาระหรือปัสสาวะเสร็จ ควรล้างก้นด้วยน้ำอุ่น ๆ หรือน้ำสะอาด พยายามรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ แต่ถ้าอยากใช้สบู่ ก็ควรเป็นสบู่เด็กอ่อนเพื่อลดการระคายเคืองของหัวริดสีดวงที่กำลังบวมหรือมีการอักเสบอยู่ (ไม่ควรทำความสะอาดด้วยกระดาษชำระแบบแข็ง แต่ควรใช้วิธีชุบน้ำ หรือใช้กระดาษชำระชนิดเปียกแทน)
9 ถ้าหัวริดสีดวงหลุดออกมาข้างนอก ให้ใส่ถุงมือแล้วใช้ปลายนิ้วชุบสบู่ให้หล่อลื่น แล้วดันหัวกลับเข้าไปใหม่ ซึ่งจะช่วยได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้ผล แนะนำให้ไปพบแพทย์
10 ในกรณีที่มีอาการปวดมาก ๆ เนื่องจากเกิดการอักเสบให้กินยาแก้ปวด นั่งแช่ในน้ำอุ่นจัด ๆ ครั้งละ 15-30 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดบวม และใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร โดยเหน็บวันละ 2-3 ครั้ง เช้า ก่อนนอน และหลังจากถ่ายอุจจาระเสร็จ จนกว่าอาการจะบรรเทา ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน
11 เมื่อมีเลือดออกมาก ให้ใช้ผ้าขนหนูสะอาดกดบริเวณก้นเอาไว้ให้แน่น แต่ถ้าเลือดยังไม่หยุดไหล ควรรีบไปแพทย์เป็นการด่วน
12 ไปพบแพทย์ตามนัดอยู่เสมอ และควรรีบไปพบก่อนนัดเมื่อมีอาการผิดปกติไปจากเดิม หรือเมื่อมีความกังวลในอาการที่เป็นอยู่ หรือเมื่ออาการต่าง ๆ เลวร้ายลง เช่น เมื่อมีเลือดออกทางก้นไม่หยุด หรือเมื่อหัวริดสีดวงไม่สามารถกลับเข้าไปในทวารได้ (อย่าพยายามออกแรงดันหัวริดสีดวงมากจนเกินไป เพราะจะทำให้หัวริดสีดวงได้รับบาดเจ็บและบวมมากขึ้น)ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ริดสีดวงทวาร คือการโป่งพองของเส้นเลือดดำที่รูทวารหนักค่ะ เกิดจากการที่มีแรงดันในช่องท้องมากขึ้น เช่นมีอาการท้องผูกนั่ง ถ่ายนาน หรือมีอาการนั่งเบ่งนานค่ะ อากาาคือ คนไข้จะมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด อาจมีอาการเจ็บ ปวดหรือไม่ก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่เจ็บค่ะ บางคนจะมีปัญหาพบร่วมกับแผลขอบรูทวารด้วยได้ โดยปกติ ริดสีดวงมีสี่ ระดับค่ะ
การรักษาโรคริดสีดวงทวารหนัก แพทย์จะตรวจร่างกาย เพื่อแยกชนิดของโรคและความรุนแรงของโรคในเบื้องต้นทและให้คำแนะนำและรักษาอย่างเหมาะสมค่ะ
การรักษาโรคริดสีดวงทวาร มีหลายแบบ คือ
1. รักษาอาการท้องผุก ได้แก่ ทานอาหารที่่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ
2. ยาระบาย เช่น MOM , fiber เช่น senokot ต่างๆ อาจต้องใช้เป็นประจำสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น ลดการบาดรูทวารค่ะ
อย่างที่ 1 และ 2 คนไข้ จะต้องทำทุกคน เพื่อลดอาการของโรคและเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำค่ะ
3. ยาลดอาการปวดรูทวาร เช่น ไนโตรกลีเซอริน ก็ช่วยได้ค่ะ ในกรณีมีแผลขอบรูทวารร่วมด้วย
4. การใช้ยา ซึ่งควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้นค่ะ เนื่องจากหากมีโรคประจำตัวอื่นๆ อาจมีอันตรายได้
หากเป็นนาน รักษาเบื้องต้นด้วยการปรับวิถีชีวิตประจำวันแล้วไม่ดีขึ้น สามารถปรึกษาคุณหมอศัลยกรรมเพื่อประเมินอีกครั้ง อาจมีการรักษาเพิ่มเติม เช่น การผ่าตัด การรัดยาง เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นริดสีดวงไม่มีเวลาไปหาหมอเลยค่ะกลัวเพราะไม่มีเวลาค่ะมีคำแนะนำการรักษาไหมคะแล้วริดสีดวงสามารถหายขาดได้ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)