October 20, 2019 07:59
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การฉีดยาคุมนั้นถ้าหากได้ฉีกยาคุมมานานเกิน 7 วันก่อนทีีจะมีเพศสัมพันธ์แล้วก็จะถือว่าการมีเพศสัมพันธ์หลังจากนั้นมีความปลอดภัยโดยจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-3% เท่านั้นครับ
ส่วนอาการเลือดออกจากช่องคลอดโดยที่มีแผลและมีอาการแสบในช่องคลอดนั้นก็อาจเกิดจากการมีแผลฉีกขาดหลังการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่างได้ครับ และอาการนี้ก็ไม่น่าจะเป็นผลข้างเคียงของการฉีดยาคุม เนื่องจากถ้าเป็นผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมก็จะไม่ควรมีแผลอยู่ที่บริเวณอวัยวะเพศครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ หมอไม่แนะนำให้ปล่อยอาการทิ้งไว้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะคุณหมอวันนี้หนูจะมาถามเรื่องการมีเซ็กแต่ฉีดยาคุมค่ะก่อนนห้านี้หนูไม่เคยฉีดยาคุมกำหนดมาก่อนเลยหนูก็เลยตัดสินใจว่าหนูจะไปฉีดยาคุมแต่หนูก็รังเรว่าจะฉีดไม่ฉีดเพราะกลัวผลข้างเคียงประจำเดือนหนูหมดไปประมาน 10 วันหนูเลยตัดสินใจไปฉีดแบบ3เดือนคุณหมอก็บอกว่าหลังจากฉีดยาจะทำงาน 7-10 วันถึงตัวยาจะออกริดแล้วหลังจากหนูฉีดยาผ่านไป 23 วันหนูมีอะไรกับแฟนค่ะแบบไม่ใส่ถุงแล้วแตกในประมาน 3 ครั้งไม่ใช่ในวันเดียวกันนะค่ะแล้วก็ทำแบบสดมาเรื่อยๆหนูเริ่มมีเลือดออกจากช่องคลอดเลือดจางๆไม่เข้มแล้วหนูเลยให้แฟนดูปากรูหนูฉีกขาดแต่หนูรู้สึกว่าด้านในก็โดดเสียดสีรู้สึกแสบอยู่หนูว่าข้างในอาจจะมีแผลแล้วหลังจากนั้นก็ทำมาเรื่อยๆบ้างที่ไม่รู้เลือดออกก็ทำค่ะแล้วจากนั้นเลือดหนูก็มากระปิกกระปอยไม่เยอะเท่าไรค่ะแต่รู้สึกเวลามันไหลแค่ 1 ครั้งแล้วหนูเลยตัดสินใจเอาคัตเติ้ลบัดเขี่ยลงไปดูเลือดภายในเข้มมากแต่เวลาปกติมันไม่ไหลนะค่ะหนูเลยอยากรู้ค่ะหนูจะมีวิธีแก้ยังไงมียาตัวไหนแนะนำมั้ยค่ะ (เพราะหนูเองไม่กล้าไปพบแพทย์) หนูจะเป็นโรคอะไรมั้ยค่ะอยากได้แพทย์แนะนำด้านนี้โดนตรงคะขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)