November 28, 2019 15:14
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ผู้ถามใช้ยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน หรือทุก 1 เดือนคะ
1. ถ้าใช้ยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน
จะมีผลข้างเคียงเด่นคือ อาจทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนได้ค่ะ ถ้าฉีดถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดขึ้นก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่มีปัญหา ถือว่ามีความเสี่ยงน้อยมากที่จะตั้งครรภ์นะคะ
แต่ถ้าไม่มั่นใจ ก็สามารถตรวจให้แน่ชัดได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ซึ่งถ้าผู้ถามใช้ชุดทดสอบถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในเวลาที่เหมาะสมตามที่แนะนำ เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ
แต่ถ้าใช้ชุดทดสอบไม่ถูกวิธี หรือเวลาที่ตรวจไม่เหมาะสม แนะนำให้ตรวจใหม่ให้ถูกต้องนะคะ
2. ถ้าใช้ยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน
ควรจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์ที่ 4 หรือประมาณวันที่ 22 - 28 นับจากวันที่ฉีดยาค่ะ ซึ่งโดยปกติจะมีการนัดฉีดยาคุมชนิด 1 เดือนทุก ๆ 28 วัน จึงควรจะมีประจำเดือนมาก่อนถึงวันนัดฉีดยานั่นเองนะคะ
หากครบกำหนดฉีดยาคุมแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ต้องไปฉีดยาตามนัดค่ะ ถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็ไม่มีปัญหา สามารถฉีดยาคุมตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องได้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ฉีดแบบรายเดือนค่ะ หมอบอกว่า3-4 วันเมนจะมาแต่ก็ไม่มาค่ะ ตรวจแล้วก็ขึ้น 1 ขีด ไม่ท้องใช่ไหมคะ
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
คนไข้ฉีดราย 1 เดือน ใช่ไหมครับ ปกติยาฉีดราย1เดือนจะเป็นฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน) จะฉีดทุก1เดือน หลังฉีดวันที่21เป็นต้นไป จะมีเลือดประจำเดือนตามรอบได้ครับ (คล้ายกินยาคุมแบบเเผง) ลองนับวันหลังฉีดดูครับ ช่วงวัน ที่ 22-28 นับจากวันที่ฉีดวันเเรก ควรมีประจำเดือนออกมานะครับ
ถ้าไม่มีเลือดออกตามรอบ เเละตรวจการตั้งครรภ์ก็ไม่ท้อง เเนะนำเว้นสักสัปดาห์เเล้วตรวจซ้ำครับ ถ้าไม่ท้องจริงๆ เเล้วประจำเดือนยังไม่มาอีก เเนะนำปรึกษาสูตินรีเเพทย์ ตรวจหาสาเหตุครับ
เเต่ถ้าเป็นยาฉีดคุมกำเนิด รายสามเดือน ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ เลือดประจำเดือนออกไม่ตรงรอบ ออกกระปริบกระปรอยครับ บางคนฉีดไปนานๆ ประจำเดือนจะหายไปได้ ครับ หลังหยุดฉีดยา กว่าไข่จะตกมีประจำเดือนปกติได้ จะประมาณ9-12เดือนครับ(ดังนั้นหลังหยุดฉีด จะกลับมาท้องได้ช้ากว่าชนิดฉีดทุก1เดือน) ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ผู้ถามฉีดยาคุมในวันที่เท่าไหร่บ้างคะ (ถ้าฉีดมาแล้ว 2 เดือน ขอทราบวันที่ฉีดจริงทั้ง 2 ครั้งค่ะ)
2. ตรวจการตั้งครรภ์ทั้ง 2 ครั้งในวันที่เท่าไหร่บ้าง และตรวจในเวลาใดคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เดือนที่แล้วประมาณวันที่ 3-4 ค่ะ เดือนนี้ฉีดวันที่ 5 ที่ผ่านมา เดือนที่แล้วเมนมา วันที่ 1-7 ค่ะ เดือนนี้ยังไม่มา ตรวจครรภ์ไปเมื่อวันที่ 10 กว่าๆค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ (ถ้าไม่ต้องการอ่านคำอธิบายยาว ๆ สามารถข้ามไปอ่านข้อสรุปในส่วนท้ายได้เลยนะคะ)
เมื่อผู้ถามมีประจำเดือนมาในวันที่ 1 - 7 ตุลาคม การฉีดยาคุมเข็มแรกในวันที่ 3 หรือ 4 ตุลาคม ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยนะคะ จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวล (แต่ควรรอให้ประจำเดือนหายดีก่อนเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกรานค่ะ)
ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO 2016) จะแนะนำให้นัดฉีดยาคุมรายเดือนซ้ำทุก 28 วันนะคะ เมื่อผู้ถามฉีดยาคุมเข็มแรกในวันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม ก็จะครบกำหนดฉีดยาคุมเข็มใหม่ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคมค่ะ
หรือถ้าฉีดยาคุมเข็มแรกในวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม ก็จะครบกำหนดฉีดยาคุมเข็มใหม่ในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายนนะคะ
จึงไม่มั่นใจว่าเหตุใดผู้ถามจึงได้ไปฉีดยาคุมเข็มที่สองในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน เพราะแม้ว่าจะสามารถเลื่อนนัดให้เร็วขึ้นหรือช้ากว่ากำหนดได้ แต่คุณหมอไม่น่าจะนัดเกินกำหนดไปหลายวันเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม หากฉีดยาคุมช้าเกินกำหนด แต่ไม่เกิน 1 สัปดาห์ (หรือรวมแล้วไม่เกิน 5 สัปดาห์นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มล่าสุด) ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวัน และมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ
ดังนั้น เมื่อผู้ถามฉีดยาคุมเข็มที่สองในวันที่ 5 พฤศจิกายนก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวันค่ะ
แต่โดยทั่วไป ผู้ที่ฉีดยาคุมชนิดนี้ ควรจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการใช้ หรือประมาณวันที่ 22 - 28 นับจากวันที่ฉีดยานะคะ เมื่อผู้ถามไปฉีดยาคุมเข็มที่สองห่างจากเข็มแรกมากกว่า 30 วันแล้วแต่ยังไม่มีประจำเดือนมาก่อนจะฉีดยา ก็ควรมีการตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนก่อนที่จะฉีดยาคุมเข็มที่สอง ซึ่งไม่ทราบว่าได้มีการตรวจการตั้งครรภ์ตามนั้นหรือไม่
แต่ไม่ว่าจะได้ตรวจก่อนฉีดยาคุมเข็มที่สองหรือไม่ก็ตาม ถ้าผู้ถามใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ 10 กว่า ๆ ในเดือนนี้ เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าการที่ไม่มีประจำเดือนมาก่อนที่จะฉีดยาคุมเข็มที่สอง ไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ค่ะ
ซึ่งคุณหมอให้คำแนะนำว่าประจำเดือนของผู้ถามอาจมาใน 3 - 4 วันหลังฉีดยาคุมเข็มที่สอง เนื่องจากอาจมีความล่าช้าของประจำเดือนจากการฉีดยาคุมเข็มแรกได้เช่นกัน แต่ถ้าฉีดยาคุมไปหลายวันแล้ว ถ้าประจำเดือนไม่ได้มาในวันแรก ๆ หลังฉีด ก็น่าเลื่อนออกไป แล้วมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการใช้ตามปกตินั่นเองนะคะ
นั่นคือ นับจากวันที่ผู้ถามฉีดยาคุมครั้งล่าสุด คือ 5 พฤศจิกายน ก็น่าจะมีประจำเดือนมาในระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน จนถึงวันนัดฉีดยาคุมเข็มถัดไปค่ะ
ซึ่งถ้ารอบนี้คุณหมอนัดผู้ถามฉีดยาคุมเข็มที่สามตามกำหนด 28 วัน ก็จะตรงกับวันอังคารที่ 3 ธันวาคม ดังนั้น แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่รอฉีดยาคุมเข็มที่สามหรือไม่นะคะ
ถ้าถึงวันนัดฉีดยาคุมเข็มที่สามแล้วยังไม่มีประจำเดือนมาอีก ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ของวันที่ครบกำหนดฉีดยาคุมอีกครั้งค่ะ
แต่แม้ผลตรวจจะออกมาว่าไม่ตั้งครรภ์ ก็ถือว่าไม่ปกติที่จะไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันหลายเดือน จึงควรแจ้งให้สูตินรีแพทย์ทราบ เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมนะคะ
..
..
..
สรุปก็คือ...
1. ถ้าผู้ถามใช้ชุดทดสอบถูกวิธี และตรวจในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือ ตรวจหลังตื่นนอนตอนเช้า โดยใช้ปัสสาวะแรกของวัน ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าการที่ไม่มีประจำเดือนมาก่อนฉีดยาคุมเข็มที่สอง ไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ค่ะ
2. แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่เหลือก่อนถึงวันนัดฉีดยาคุมเข็มที่สามหรือไม่ ถ้าถึงวันนัดฉีดยาแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าของวันนัดอีกครั้งนะคะ
3. แต่แม้ผลตรวจจะออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็ควรแจ้งให้สูตินรีแพทย์ทราบก่อนจะฉีดยาคุมเข็มที่สาม เพราะอาจต้องมีการตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุของความผิดปกติดังกล่าว และพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ ปกติกินยาคุมมาตลอดเมนมาตรงตามแอพทุกเดือน แล้วพึ่งเปลี่ยนเป็นฉีดยาคุมเมื่อ 1-2 เดือนก่อน เดือนทีแล้วเมนมา 1-7 แต่เดือนนี้เมนไม่มาเพราะสาเหตุอะไรคะ ตรวจที่ตั้งครรภ์แล้ว 2 รอบขึ้น 1 ขีดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)