September 23, 2018 13:57
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการท้องเสียเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ ที่พบได้บ่อย ได้แก่
- สารพิษหรือ toxin ที่เชื้อแบคทีเรียสร้างขึ้นมา ที่ปะปนอยู่ในอาหาร เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจึงทำให้เกิดอาการถ่ายเหลว เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาของร่างกายเอง เพื่อจะกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย โดยมาก เมื่อถ่ายของเสียออกมาจนหมด อาการจะหายไป ไม่มีไข้ ลักษณะอุจจาระจะเป็นสีเหลือง หรือสีน้ำตาล สีเขียวอาจเกิดจากน้ำดีที่หลั่งออกมา แต่ยังไม่ทันได้ใช้ย่อยอาหาร ลำไส้ก็บีบตัวเร็วเพื่อขับของเสียออกไป อาจพบมีคลื่นไส้อาเจียน ท้องอืด จุกแน่นท้อง ปวดท้องบีบๆเป็นพักๆ ได้. อาการอาจเป็นได้นาน 1-3 วัน
- ติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียโดยตรง ติดเชื้อเข้าไปอาศัยในเยื่อบุของลำไส้ ทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบ อาการที่พบมักมีถ่ายเหลวมาก อ่อนเพลีย มักมีไข้ ถ่ายอุจจาระอาจมีมูกหรือปนเลือดออกมาได้ อาการปวดท้องเนื่องจากร่างกายพยายามขับไล่เชื้อและของเสียออกไป จึงทำให้ลำไส้บีบตัวแรง อุจจาระมักมีกลิ่นเหม็นมาก อาการลำไส้อักเสบ สามารถรักษาได้ด้วยยาฆ่าเชื้อ
วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อท้องเสีย คือการดื่มน้ำเกลือแร่ ให้เพียงพอ เพื่อชดเชย น้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียออกไปกับอุจจาระ และทานยาตามอาการ เช่นยาแก้ปวดท้อง ลดอาการหดเกร็งลำไส้ แก้คลื่นไส้อาเจียน ยาขับลม
หากมีอาการหลายวัน ถ่ายปริมาณมาก วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลียมาก หรือมีไข้ แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อประเมินอาการ และให้ยารักษาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการคือ ท้องเสีย อุจาระเหลวเป็นน้ำมีสีเขียว ร่างกายอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ รู้สึกคลื่นไส้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)