เมื่อใส่เสื้อแขนกุด อาจทำให้สังเกตเห็นว่าบริเวณท้องแขนมีความหย่อนคล้อย ซึ่งเกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณต้นแขน แม้จะออกกำลังกายแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น จึงทำให้ผู้หญิงบางคนให้ความสนใจกับการดูดไขมันที่ต้นแขน เพื่อให้แขนกลับมาเรียวและกระชับเหมือนเดิม
การดูดไขมันบริเวณท้องแขนจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเกิดจากการสะสมของชั้นไขมันบริเวณต้นแขนเท่านั้น สามารถดูได้จากการยกแขนขึ้นมาทำมุม 90 องศา หากท้องแขนมีความหย่อนคล้อย จับดูแล้วรู้สึกนิ่มๆ หมายถึงมีชั้นไขมันสะสมอยู่ สามารถดูดไขมันส่วนนี้ออกได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ในกรณีที่ต้นแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเกิดจากการออกกำลังกาย หรือใช้งานแขนเยอะ ก็สามารถดูดไขมันออกได้ แต่จะดูดไขมันได้ในปริมาณน้อย และอาจไม่ได้ทำให้แขนเล็กลงเท่าการมีชั้นไขมันสะสมมาก
นอกจากเรื่องของไขมันสะสมแล้ว สภาพผิวก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ต้นแขนกระชับดูสวยงาม หากผิวมีความยืดหยุ่นดี หลังจากดูดไขมัน ผิวจะกระชับได้รูป ไม่หย่อนคล้อย แต่ถ้าผิวสูญเสียความยืดหยุ่นไป ซึ่งอาจเกิดจากการเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักมากในเวลาอันรวดเร็ว และการมีอายุมาก การดูดไขมันอาจทำให้เกิดสภาวะผิวหนังห้อยและย้อยได้
ขั้นตอนการดูดไขมัน
เมื่อแพทย์ประเมินว่าสามารถดูดไขมันได้ จะมีการฆ่าเชื้อบริเวณที่จะดูดไขมัน ฉีดยาชา และทำการกรีดแผล ประมาณ 0.1 – 0.5 มิลลิเมตร ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและผิวของผู้มาดูดไขมัน จากนั้นจะเริ่มทำการสลายไขมันและดูดไขมันออกมา
ภาพจำลองแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการนำเข็มสอดเข้าไปเพื่อที่จะเริ่มทำการดูดไขมัน
แผลจากการดูดไขมัน
ปกติแล้ว การดูดไขมันที่ต้นแขน มักจะมีการลงเข็ม 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณข้อศอกด้านนอก และบริเวณรักแร้ การลงเข็มบริเวณข้อศอกจะทำให้แผลหายเร็วกว่า แต่จะสังเกตเห็นรอยแผลได้ชัดเจนกว่า เมื่อเทียบกับบริเวณรักแร้ แต่โดยทั่วไปแล้วแผลจะหายสนิทภายใน 6-12 เดือน
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังดูดไขมันเสร็จ อาจทำให้เกิดความรู้สึกตึงที่แผลบ้าง แพทย์จะรัดผ้ายืดบริเวณที่ทำการดูดไขมัน เพื่อช่วยบีบรัดให้ช่องว่างระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อแนบสนิทกัน ควรรัดผ้ายืดนี้ไว้อย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมงภายในเดือนแรก โดยรัดให้พอดี ไม่แน่นเกินไปหรือหลวมเกินไป แล้วค่อยลดเวลาลงเหลือวันละ 12 ชั่วโมงในเดือนที่สอง ถ้าเป็นไปได้ควรรัดต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อความกระชับของผิวหนัง
ในช่วงอาทิตย์แรก อาจพบว่าแผลบวม และเขียวช้ำ รวมถึงใช้แขนลำบาก ก็ให้หยุดทำกิจกรรมใดๆ เพื่อเป็นการพักแขน ระหว่างนี้สามารถประคบอุ่นเพื่อลดอาการปวดลงได้ ควรทำแผลทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และหลีกเลี่ยงให้แผลโดนน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ดูดไขมัน...ทางเลือกสำหรับการกระชับส่วนอย่างได้ผล