การฝังยาคุมเป็นการคุมกำเนิดที่ให้ผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพที่สูงมาก แต่ก็อาจจะมีข้อเสียและผลข้างเคียงอยู่บ้าง อย่างเช่นประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนมามากขึ้นหรือมาถี่กว่าที่เคยเป็น ด้วยเหตุนี้เองที่ผู้หญิงอย่างเราจึงมักจะามีคำถามถึงผลข้างเคียงต่างๆ ของการฝังยาคุมอยู่เสมอ ซึ่งเราจะมาอธิบายและตอบคำถามการฝังยาคุม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้ที่กำลังประสงค์จะคุมกำเนิดด้วยวิธีการฝังยาคุมได้เป็นอย่างดี
ฝังยาคุมแล้วอ้วนไหม หรือน้ำหนักลดลงจริงหรือไม่
การฝังยาคุมกำเนิดพบว่าผู้หญิงบางรายอาจมีอาการบวมน้ำ หรือมีบางรายที่อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่พบข้อมูลยืนยันที่เป็นผลแน่ชัด ซึ่งการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงหลังจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีการฝังยาคุม จะขึ้นอยู่กับอาหารที่รับประทานเหมือนบุคคลทั่วไป
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กล่าวคือ ถ้าเรารับประทานอาหารในปริมาณมากจนเกินกว่าที่ร่างกายต้องการแล้ว น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ หากมีการควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ปัญหาโรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกินหลังการใช้ยาคุมแบบฝังก็จะไม่เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุของน้ำหนักที่ลดลงก็ไม่เป็นความจริง เพราะฉะนั้นเราควรต้องหาสาเหตุที่แน่นอนจะดีกว่า
ฝังยาคุมแล้วหน้าใสจริงหรือไม่
พบว่ามีผลข้างเคียงที่เกิดจากหลังการฝังยาคุมนั่นก็คือ ผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้อาจมีสิวขึ้นมาก ขนดก และมีความต้องการทางเพศที่ลดลงบ้างเล็กน้อย โดยเป็นผลมาจากตัวยาที่ฝังเข้าไป แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็อาจพบได้น้อยมาก ดังนั้นความเชื่อที่ว่าการฝังยาคุมแล้วจะทำให้หน้าใสจึงไม่เป็นความจริง
เพราะฉะนั้นหลังการฝังยาคุมแล้ว เราควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งสุขอนามัยต่างๆ ภายในร่างกายก็ยังต้องควรจะดูแลและปฏิบัติให้ดีเหมือนปกติทั่วไปก่อนฝังยาคุมนั่นเอง
ฝังยาคุมแล้วสามารถมีเพศสัมพันธ์หรือหลั่งในได้เมื่อไร
หลังการฝังยาคุมจะสามารถคุมกำเนิดได้ทันที เมื่อมีการฝังไว้ตั้งแต่ใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน แต่ถ้าเป็นการฝังยาคุมหลังจากช่วงนี้หรือฝังในวันอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่วงเวลาดังกล่าว ยาคุมที่ฝังจะเริ่มทำงานหลังการฝัง 7 วัน ดังนั้นระหว่างนี้ถึงจะมีการฝังยาคุมกำเนิดแล้ว หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ควรหลั่งในช่องคลอดในช่วงนี้ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้ตามปกติ
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์อย่างไม่พึงประสงค์ ควรมีการคุมกำเนิดด้วยวิธีใช้ถุงยางอนามัยก็จะเป็นเรื่องที่ดีและปลอดภัยที่สุด อีกทั้งการฝังยาคุมกำเนิดจะทำงานโดยไม่รบกวนชีวิตประจำวัน และการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้อีกด้วย
ถ้าเข็มยาคุมหักต้องทำอย่างไร
เราควรต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การฝังยาคุมกระทำโดยวิธีใช้ยาคุมกำเนิดที่มีลักษณะเป็นหลอดฝังไว้ใต้ผิวหนัง มีความยาว 4 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร ตัวหลอดนิ่มและยืดหยุ่นได้ วิธีการฝังไม่ยุ่งยากและแผลหายได้เองภายใน 3 – 5 วัน
ดังนั้นการที่จะพบว่ามีเข็มยาคุมงอหรือหักนั้นเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากหลอดยาที่ใช้ทำมาจากซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปได้โดยไม่มีผลต่อการปล่อยตัวยาและยังคงมีประสิทธิภาพสูงด้วยเช่นกัน เมื่อฝังอยู่ใต้ผิวหนังก็จะมีเนื้อเยื่ออยู่ล้อมรอบ จนบางครั้งอาจทำให้การคลำหาไม่พบหลอดยาแล้วอาจเป็นการเข้าใจว่าเข็มงอหรือแตกหักไปแล้ว ข้อนี้ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลหรือสงสัยว่าจะเกิดกรณีนี้ได้
การฝังยาคุมที่พบปัญหาหรือผลข้างเคียงหลังการฝัง สามารถไปเอาออกตามโรงพยาบาลต่างๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบอายุประสิทธิภาพการคุมกำเนิด 3 – 5 ปี ด้วยความปลอดภัยสูงและยังมีข้อดีอีกหลายข้อ ซึ่งเหมาะแก่การใช้เป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรนั่นเอง