สำหรับใครที่กำลังตั้งครรภ์โดยเฉพาะเป็นลูกคนแรก คุณแม่มือใหม่มักจะทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ หรือควรทำตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้ลูกน้อยของคุณเกิดมาสมบูรณ์และแข็งแรงที่สุด เช่นออกกำลังกายได้มั้ย มีเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ ทำงานแล้วจะแท้งลูกมั้ย วันนี้เรามีวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องมาให้ค่ะ
1. หมั่นออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์
การออกกำลังกายเบาๆ และสม่ำเสมอ อาจจะเดินหรือวิ่งเหยาะๆ ขณะที่ครรภ์ยังเล็กๆ อยู่จะช่วยให้กล้ามเนื้อขาและหน้าท้องแข็งแรง แต่เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ท้องเริ่มใหญ่ขึ้น ควรเปลี่ยนมาออกกำลังกายในน้ำแทนค่ะ เพราะว่าน้ำจะช่วยพยุงท้องขณะว่ายน้ำและยังช่วยให้ปอดใหญ่ขึ้น กล้ามเนื้อขาและหน้าท้องแข็งแรงทำให้คลอดได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ แต่ในการออกกำลังกายในน้ำ ควรจะมีผู้ช่วยที่มีความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะคอยดูแลตลอดเวลานะคะ และออกกำลังกายแค่พอเหนื่อยอย่าหักโหมเกินไป นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเพิ่มเติมว่า หากมีการออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์จะช่วยลดการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วยค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2. ฝึกกล้ามเนื้อช่วงอุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมตัวเบ่งคลอด
ควรฝึก 2-3 เดือนก่อนคลอดนะคะ คุณแม่สามารถฝึกได้ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
- ท่าที่ 1
ให้นั่งลงช้าๆ จากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนท่าเป็นท่านั่งคลาน โดยให้หัวเข่าและฝ่ามือทั้ง 2 ขัางยันพื้นไว้ (ท่าจะเหมือนเด็กที่กำลังจะคลานค่ะ) ให้หายใจออกช้าๆ แล้วเคลื่อนก้นและอุ้งเชิงกรานมาข้างหน้าอย่างช้าๆ พร้อมกับบังคับให้กล้ามเนื้อท้องบริเวณกระเพาะหดลง หลังของคุณจะโค้งนูนขึ้น (ท่าจะคล้ายๆ กับแมวที่กำลังขู่ หลังจะโก้งโค้งสูงขึ้นมาค่ะ) ค้างอยู่ในท่านี้ 10 วินาที แล้วคลายท่า ทำซ้ำ 10 ครั้ง ควรฝึกทำวันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้มีแรงเบ่งคลอดได้ดีค่ะ - ท่าที่ 2
ฝึกขมิบกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดค่ะ คล้ายกับการอั้นปัสสาวะ ทำครั้งละ 5-10 ครั้ง โดยทำวันละ 3 เวลาค่ะ - ท่าที่ 3
ฝึกนั่งยองๆ เมื่อครรภ์ใหญ่ขึ้น มักจะมีอาการปวดท้อง ไม่แนะนำให้นวดหรือแอ่นหลัง แต่ควรฝึกนั่งยองๆ โดยที่หลังตรงตลอดเวลา มือควรจับที่ราวหรือเกาะยึดให้มั่นคง ลุกนั่งให้ช้าๆ ค่ะ เมื่อนั่งยองๆ ลงมา พยายามอย่าให้หัวเข่าทั้งสองข้างเลยปลายเท่าของเรา ควรค้างไว้ประมาณ 10 วินาทีแล้วจึงค่อยๆ ยืนขึ้นช้าๆ ค่ะ ท่านี้จะช่วยลดอาการปวดหลังได้ค่ะ
3. ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้มากๆ
ในระยะครรภ์อ่อนๆ มีอาการแพ้ท้อง ควรหลีกเลี่ยงยาที่มีส่วนผสมของเหล็กเพราะจะไปรบกวนกระเพาะอาหาร ควรทานกรดโฟลิกและวิตามินบี 1 บี 5 และ บี 12 เมื่อครรภ์ใหญ่ขึ้นควรทานยาบำรุงที่มีเหล็กและแคลเซียมเพิ่มขึ้นค่ะ สำหรับการทานยาบำรุงต่างๆ ขอให้ปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอนะค่ะ
4. การร่วมเพศขณะตั้งครรภ์
หากมีประวัติแท้งลูกได้ง่ายในการตั้งครรภ์ 3 เดือนแรกควรงดการร่วมเพศโดยเด็ดขาด เพราะจะกระทบกระเทือนต่อมดลูกทำให้แท้งได้ และช่วงอายุครรภ์ 7-8 เดือน ควรระมัดระวังการร่วมเพศอีกครั้งหนึ่งเพื่อไม่ให้คลอดก่อนกำหนด ส่วนเดือนสุดท้าย มักไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรค่ะ ท่าที่ใช้ในการร่วมเพศควรเป็นท่าที่ไม่กระทบกระเทือนต่อท้อง หรือต้องเกร็งหลังมาก ท่าที่แนะนำคือให้ใช้การนอนตะแคงข้างเท่านั้นค่ะ เพราะว่าจะไม่กระทบกับท้องเลย
5. ควรระวังไม่ให้ติดเชื้อเริมระหว่างตั้งครรภ์
โรคเริมเกิดจากเชื้อไวรัส Herpes Simplex หากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่เกิดติดเชื้อไวรัสเริมที่ช่องคลอด ลูกอาจมีโอกาสได้รับเชื้อระหว่างคลอดได้และจะเป็นอันตรายถึงชีวิตลูก ซึ่งหากคุณแม่ติดเชื้อเริมหมอจะให้คลอดด้วยการผ่าตัดแทนการคลอดเองค่ะ
6. ควบคุมการขับถ่ายให้เป็นประจำ
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป มักจะมีอาการท้องผูก ดังนั้นควรทานผักผลไม้มากๆ เพื่อช่วยให้ถ่ายได้ง่าย